Page 157 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 157
การเสริมพ ลังในก ารส่งเสริมสุขภ าพและการป้องกันโรค 5-45
การเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเป้าหมายมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพไปในทิศทางที่พึงประสงค์
และท ุกฝ ่ายท ี่เกี่ยวข้องให้การส นับสนุนโครงการดังก ล่าว
1.4 การป ระเมินผ ลและพ ัฒนาบ ริการส ร้างเสรมิ สุขภ าพแ ละป้องกันโรคในชุมชน บุคลากรส าธารณสุขต้อง
ส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการประเมินผลบริการ/โครงการสุขภาพ ซึ่งเป็นวิธีการที่จะทำให้ชุมชนได้เรียนรู้ว่า
บริการตามแผนงาน/โครงการบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้หรือไม่ มากน้อยเพียงใด และมีการนำข้อมูลดังกล่าว
มาใช้ในการปรับปรุงพัฒนาบริการ/โครงการให้ดีขึ้น หรือหยุดโครงการที่ไม่ได้ผล หรือการขยายโครงการที่ได้ผลดี
ไปยังพื้นที่หรือกลุ่มเป้าหมายอื่น โดยการประเมินผลที่ดีต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และใช้
กระบวนการป ระเมินผ ลที่น่าเชื่อถือ
2. สมรรถนะในก ารส ่งเสรมิ สนับสนุนศกั ยภาพของช ุมชนตามแ นวคดิ ก ารเสรมิ พ ลงั
สมรรถนะท ี่จ ำเป็นต ่อก ารท ำงานช ุมชนในล ักษณะก ารส ่งเสริมแ ละส นับสนุนศ ักยภาพห รือค วามส ามารถข อง
ชุมชนในก ารจ ัดการปัญหาข องต นเองตามแ นวคิดก ารเสริมพลัง (Wright, 2003) มีด ังนี้
2.1 การเป็นผ ้นู ำก ารเปลย่ี นแปลง ได้แก่ ความสามารถในเรื่องต ่อไปน ี้
2.1.1 การสื่อสารภาพอนาคตที่ต้องการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ตลอดจนการส่งเสริม
สนับสนุน และช่วยเหลือให้สมาชิกชุมชนเข้าม าม ีส่วนร่วมในการก ำหนดว ิสัยท ัศน์ มีการส ื่อสารในเชิงเสนอแนะท ี่ช ่วย
กระตุ้นให้สมาชิกชุมชนอยากพูดค ุยแ ลกเปลี่ยน
2.1.2 การช่วยพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้อื่นในเรื่องการเรียนรู้ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และ
การวิเคราะห์ การส นับสนุนให้เกิดการสนทนาแ ลกเปลี่ยนมุมม องที่น ำไปส ู่ก ารเปลี่ยนแปลง
2.1.3 การส นบั สนนุ ใหส้ มาชกิ ช มุ ชนส ามารถร ะบปุ ญั หาท สี่ ำคญั ข องก ลุม่ /ชมุ ชน การก ำหนดก ลยทุ ธเ์ พือ่
การแ ก้ไขป ัญหา การเสริมพ ลังใหส้ มาชิกช ุมชนเข้าใจส ถานการณท์ ี่แทจ้ ริงแ ละล งมือป ฏิบัตเิพื่อใหเ้กิดก ารเปลี่ยนแปลง
ที่ดีขึ้น
2.1.4 การสนับสนุนให้เกิดการพัฒนากลวิธีการร่วมมือกันขององค์กรต่างๆ ในชุมชน และชี้ให้เห็น
ประโยชน์จ ากก ารร่วมมือกัน
2.2 สมรรถนะดา้ นก ารเมอื ง ได้แก่ ความสามารถในเรื่องต่อไปนี้
2.2.1 การก ำหนดว ิธีก ารด ำเนินง านที่เหมาะสมที่จ ะก ่อให้เกิดประเด็นก ารว ิพากษ์ว ิจารณ์ทางการเมือง
และส่งผลต่อการขับเคลื่อนให้เกิดการสนับสนุนนโยบายสาธารณะและโครงการด้านสุขภาพ เช่น การเชิญนายก
เทศมนตรมี าร ่วมป ระชุมในเวทปี ระชาคมเพื่อร ับฟ ังค วามต ้องการข องภ าคป ระชาชนท ีเ่ป็นฐ านเสียงส ำคัญข องก ารเมือง
ท้องถิ่น ส่งผลให้ผู้นำท้องถิ่นเห็นความส ำคัญและให้การส นับสนุนงบประมาณและโครงการด้านสุขภาพที่เป็นปัญหา
ของป ระชาชนมากข ึ้น เป็นต้น
2.2.2 การวิเคราะห์ประเด็นทางนโยบายและทางเลือกที่จะนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาสุขภาพ รวมถึง
การนำน โยบายมาส ู่ก ารจ ัดโครงสร้างอ งค์กร การจัดโปรแกรม และบ ริการส ุขภาพต่างๆ ให้ก ับช ุมชน
2.3 สมรรถนะด ้านการเจรจาตอ่ รอง ได้แก่ ความสามารถในเรื่องต่อไปน ี้
2.3.1 การระบุประเด็นปัญหาสุขภาพที่ทวีความรุนแรงขึ้น และวิธีการที่จะลดความรุนแรงดังกล่าว
ไม่ให้เกิดเป็นว ิกฤตของชุมชน
2.3.2 การร ะบผุ ูม้ สี ่วนไดส้ ่วนเสียแ ละท รัพยากรท ีส่ ำคัญในก ารบ รรเทาค วามร ุนแรงข องป ัญหาส ุขภาพ
ชุมชน และ/หรือก ารเจรจาต ่อร องก ับภ าคก ารเมือง กลุ่มผ ลป ระโยชน์ และผ ู้ม ีส ่วนได้ส ่วนเสียอ ื่นๆ ในก ารบ รรเทาห รือ
แก้ไขป ัญหา เช่น การเจรจาต ่อร องก ับร ้านค ้าท ี่จ ำหน่ายบ ุหรี่ สุรา ในเรื่องค วามร ่วมม ือในก ารค วบคุมก ารบ ริโภคย าสูบ
และสุราของเยาวชน เป็นต้น
ลขิ สทิ ธิข์ องมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช