Page 234 - การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
P. 234
8-68 การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
การส ง่ ต อ่ ข องแ พทยท์ ัว่ ไปใหไ้ ปอ อกก ำลงั ก ายในป ระชาชนว ยั ก ลางค นในป ระเทศอ งั กฤษ พบว า่ การอ อกก ำลงั ก ายอ ยา่ ง
กระฉับกระเฉงท ี่ม ีเพื่อนแ ละกลุ่มทางสังคม อื่นๆ อยู่เป็นเพื่อนเป็นปัจจัยท ี่บ ุคคลรายงานด ้วยตนเองว ่า เป็นส ิ่งสำคัญ
ยิ่งยวดส ำหรับการจ ูงใจแ ละการย ึดม ั่นในก ารออกก ำลังกายข องต น โดยเฉพาะอ ย่างย ิ่งในผู้หญิง
Gillett (อ้างถ ึงใน Hemmingsson et al., 2001) ศึกษาต รวจส อบป ัจจัยท ี่เกี่ยวข้องก ับก ารย ึดม ั่นในก ารอ อก
กำลังก ายจ ากการรายงานด้วยตนเองในผ ู้ห ญิงที่ม ีภ าวะโรคอ ้วนร ะหว่างโปรแกรมการอ อกก ำลังกายเป็นกลุ่มระยะสั้น
(16 สัปดาห์) การสัมภาษณ์ท ำให้ทราบว ่า การสนับสนุนทางส ังคมจากผ ู้ออกกำลังก ายที่มีภ าวะโรคอ ้วนเหมือนกันและ
จากผู้นำการออกกำลังกายที่มีความเข้าอกเข้าใจและให้สุขศึกษานั้น เป็นปัจจัยส่งเสริม (Contributing Factor) ที่
สำคัญสำหรับการยึดม ั่นในก ารออกก ำลังก ายต่อไป
โปรแกรมก ารค งไวซ้ ึ่งก ารล ดน ้ำห นักซ ึ่งป ระเมินผ ลโดย Perri et al., (อ้างถ ึงใน Hemmingsson et al., 2001)
ขัน้ ต อนก ารด ำเนนิ ก ารป ระกอบด ว้ ยโปรแกรมก ารล ดน ำ้ ห นกั ต วั 20 สปั ดาห์ ตามด ว้ ยก ารส ุม่ เขา้ ส กู่ ลุม่ ค วบคมุ หรอื ก ลุม่
การคงอ ยู่ข องการล ดน้ำห นักต ัว ได้ร ับการสนับสนุน 2 แบบค ือ จากบุคคลในวัย สถานะและความส ามารถเหมือนกัน
(Peer Support) ทุก 2 สัปดาห์ หรือการสนับสนุนท ี่เป็นล ายล ักษณ์อักษรหรือการโทรศัพท์จากผ ู้ทำการร ักษาแ ละจาก
การตรวจส อบติดตามตนเอง ผลก ารติดตามในเดือนที่ 18 แสดงให้เห็นว่า การข าดห ายไปจ ากการย ึดมั่นในการรักษา
(รวมท ั้งการออกก ำลังก าย) เกิดขึ้นเร็วม ากกว่าในก ลุ่มควบคุม (ภายหลัง 3 เดือน) อย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเปรียบเทียบ
กับกลุ่มดำเนินก าร (ภายหลัง 12 เดือน)
Wing et al., (อ้างถึงใน Hemmingsson et al., 2001) สุ่มผู้ป ่วยโรคเบาหวานประเภทท ี่ 2 ที่มีภาวะโรคอ้วน
43 คนไปเข้าโปรแกรมล ดน ้ำห นัก 20 สัปดาห์เพียงอ ย่างเดียว หรือเพื่อเข้าร ่วมจ นส ิ้นส ุดโปรแกรมพ ร้อมค ูส่ มรสแ ละได้
รับก ารฝ ึกในก ารใหแ้ ละข อก ารส นับสนุนท างส ังคม ผูเ้ข้าร ่วมง านว ิจัยไดร้ ับก ารต ิดตาม 1 ปนี ับจ ากก ารส ิ้นส ุดโปรแกรม
พบว ่า ไม่มนี ัยส ำคัญในค วามแ ตกต ่างข องก ารข าดห ายไปจ ากโปรแกรม เช่นเดียวกันก ับป ริมาณแ คลอรที ีใ่ชใ้นก ารอ อก
กำลังก ายต ่อส ัปดาห์ แม้ว่า บทบาทข องก ารส นับสนนุ ขอ งส ามี/ภรรยาจ ะไมแ่ น่ชัดส ำหรับก ารเพิ่มข ึ้นข องก ารใชพ้ ลังงาน
ข้อมูลน ้ำห นักต ัวท ี่ล ดล งเผยให้เห็นว ่า การส นับสนุนข องส ามี/ภรรยาม ีผ ลกร ะท บในผ ู้ห ญิงม ากกว่าในผ ู้ชาย ผู้ชายท ี่ม ี
โรคเพียงอย่างเดียวจ ะลดและดำรงร ักษาน ้ำห นักตัวได้ดีกว่าผ ู้ชายที่ม ีภรรยาให้การส นับสนุน
งานว ิจัยโดย Jeffery et al., (อ้างถ ึงใน Hemmingsson et al., 2001) ซึ่งท ำการป ระเมินบ ทบาทข องผ ู้ฝ ึกเป็น
ส่วนต ัว (Personal Trainer) และก ารใหส้ ิ่งต อบแทนท างการเงินเพื่อเพิ่มก ารนำก ารอ อกก ำลังก ายไปป ฏิบัตแิ ละก ารย ึด
มั่นในก ารอ อกก ำลังก าย ผู้ชาย 29 คน และผ ูห้ ญิง 167 คนท ีส่ ุ่มต ามส ภาวะก ารร ักษาท ีแ่ ตกต ่างก ันค ือ 1) กลุ่มก ารร ักษา
พฤติกรรมม าตรฐาน 2) กลุ่มก ารร ักษาพ ฤติกรรมม าตรฐานก ับก ารอ อกก ำลังก ายเป็นกล ุ่ม 3) กลุ่มก ารร ักษาพ ฤติกรรม
มาตรฐานก ับก ารเสริมแ รงส ิ่งเหนี่ยวน ำให้ทำการอ อกก ำลังกายเพิ่มข ึ้นโดยผู้ฝึกเป็นส ่วนต ัวซึ่งก ำหนดต ารางเวลาแ ละ
นิเทศต ิดตามก ารเดินท ุก 3 สัปดาห์ 4) กลุ่มก ารร ักษาพ ฤติกรรมม าตรฐานก ับก ารอ อกก ำลังก ายเป็นกล ุ่มแ ละก ารให้ส ิ่ง
ตอบแทน/กระตุ้นเป็นเงิน และ 5) กลุ่มส ุดท้ายซึ่งได้รับทุกสภาวะที่กล่าวมา พบว่า ในเดือนที่ 18 ของการต ิดตามผ ล
ทั้ง 5 กลุ่มใช้พ ลังงานม ากกว่า 1,000 แคลอรีต ่อส ัปดาห์ในก ารอ อกก ำลังก าย โดยไม่มีค วามแ ตกต ่างร ะหว่างก ลุ่มอ ย่าง
มีน ัยส ำคัญทั้งท ี่อัตราการเข้าร่วมช ่วงเวลาทำการออกก ำลังก ายส ำหรับกลุ่มที่ม ีผู้ฝึกเป็นส ่วนตัวจ ะสูงกว่าก ็ตาม
2.3 การกระตุ้นเตือนให้ทำ (Prompts) งานวิจัยบอกให้รู้ว่า พฤติกรรมอาจได้รับอิทธิพลโดยการกระตุ้น
เตือนให้ทำ เช่น สิ่งเตือนใจ เช่น ข้อแนะนำอันเป็นประโยชน์ การโทรศัพท์ การเริ่มต้นทำอาชีพที่ใช้ร่างกาย
อย่างกระฉับกระเฉง เป็นต้น ตัวอย่างอื่นๆ ของการกระตุ้นเตือนให้ทำคือ การกำหนดกิจวัตรประจำวันสำหรับ
การออกก ำลังกาย เช่น การพาสุนัขเดิน การเป็นเพื่อนเด็กเดินไปโรงเรียน หรือโดยการเดินทางด ้วยต ัวเองในล ักษณะ
ออกก ำลังก ายอย่างกระฉับกระเฉง เป็นต้น
ลขิ สิทธิข์ องมหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช