Page 251 - อาหารและโภชนบำบัด
P. 251
การติดตามภ าวะโภชนาการ 15-17
1.3 ข้ันเตรียมพร้อม (Preparation) เป็นขั้นที่บุคคลเริ่มมีแรงจูงใจ มีความตั้งใจว่า ตนเองจะเริ่มเปลี่ยน
พฤติกรรม เริ่มมีการแสวงหาข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์เพื่อใช้ในการเปลี่ยนแปลงตนเอง เริ่มยอมรับว่าการ
เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจะทำให้การควบคุมโรคของตนเองดีขึ้น เริ่มวางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมให้ได้ตาม
เป้าหมายในอนาคตอ ันใกล้ เริ่มล องท ำในบางสิ่งบ างอ ย่าง มีค วามเชื่อมั่นว่าจะทำได้ส ำเร็จ
1.4 ขั้นล งมอื ปฏิบัติ (Action) เป็นขั้นท ี่ม ีความต ั้งใจอย่างม ุ่งมั่นที่จ ะทำให้สำเร็จ กำหนดเป้าห มายแ ละระยะ
เวลาในก ารป ฏิบัติ เริ่มม องเห็นผ ลง านท ี่ไดก้ ระทำ อย่างไรก ็ตามอ าจม คี วามเสี่ยงท ีจ่ ะก ลับไปส ูพ่ ฤติกรรมร วมเนื่องจาก
มีป ัจจัยหรือสิ่งยั่วยวนท ี่เป็นอ ุปสรรค
1.5 ขัน้ ด ำรงพฤติกรรม (Maintenance) เป็นขั้นที่บุคคลส ามารถค งพฤติกรรมใหม่ได้อ ย่างต่อเนื่องเกินกว่า
6 เดือน เพื่อเป็นการป ้องกันก ารกลับไปสู่พ ฤติกรรมเดิมที่ไม่พึงประสงค์ เริ่มเห็นผ ลของก ารป ฏิบัติที่ได้กระทำมาห ลัง
จากท ี่ได้ท ดลองท ำม าแ ล้วส ักร ะยะห นึ่งอ ย่างต ่อเนื่อง มีค วามม ั่นใจท ี่จ ะด ำรงพ ฤติกรรมน ี้ต ่อไป เพื่อให้บ รรลุเป้าห มาย
ที่ต ั้งใจไว้มีความพ ยายามอย่างเต็มที่ที่จ ะไม่ห วนกลับไปสู่พฤติกรรมเดิมอีก
สิ่งที่ต้องตระหนักเสมอคือ คนทุกคนมีความแตกต่างกันในความพร้อม ผู้ให้คำปรึกษาควรประเมินความ
พร้อมของผู้ป่วยว่า มีความพร้อมอยู่ในระยะใดซึ่งแต่ละระยะต้องใช้เวลา ข้อสำคัญคืออย่าเร่งรีบ รัดขั้นตอนหรือ
ใช้ว ิธีบังคับให้ยอมจำนน
เมื่อทราบถึงขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของบุคคลแล้ว นักกำหนดอาหารควรเรียนรู้เทคนิค การ
สื่อสารในก ารให้ค ำป รึกษาแ ก่ผู้ป ่วย
2. การสื่อสารเพอ่ื การใหค้ ำปรกึ ษา
เทคนิคในก ารส ื่อสารเพื่อให้การ ให้ค ำป รึกษาก ับผ ู้ป ่วยน ั้นเป็นไปได้อ ย่างม ีป ระสิทธิภาพในแ ต่ละข ั้นต อนน ั้น
ควรเริ่มการสื่อสารในแ ต่ละขั้นตอน ดังนี้
1) การสร้างส ัมพันธภาพ
2) การส ำรวจความร ู้สึก นึกคิด และพ ฤติกรรมก ารร ับป ระทานเพื่อให้เข้าใจพ ฤติกรรม
3) การให้ข ้อมูลแนะนำเพื่อก ารร่วมว างแผนกำหนดเป้าห มาย
4) การต ิดตามผล
นักกำหนดอาหารและผู้ที่ให้คำปรึกษาจะต้องมีองค์ความรู้ ในการแนะนำการบริโภคอาหารที่เหมาะสม
กับสภาพปัญหาทางโภชนาการที่ผู้ป่วยเป็นอยู่ และสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารของผู้ที่ได้รับ
คำปรึกษาได้อ ย่างเป็นรูปธ รรมโดยให้สอดคล้องก ับวิถีก ารด ำเนินช ีวิตของผ ู้ป ่วย จึงจะได้ผ ลที่ดีต่อส ุขภาพ ในท ี่น ี้ข อ
ยกต ัวอย่างการให้ความร ู้แ ละคำปรึกษาด้านโภชนาการส ำหรับผ ู้ที่มีป ัญหาโภชนาการเกินในผู้ท ี่ป่วยเป็นโรคอ ้วน และ
ผู้ที่มีค วามผ ิดปกติของไขม ันในเลือด
3. แนวทางก ารใหค้ วามรแู้ ละคำป รึกษาด า้ นโภชนาการส ำหรับผู้ท่มี ีปญั หาโภชนาการเกิน
3.1 การใหค้ วามร แู้ ละค ำป รกึ ษาด า้ นโภชนาการส ำหรบั ผ ทู้ เี่ ปน็ โรคอ ว้ น โรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส ำคัญของ
การเกิดโรคเรื้อรังหลายโรคที่เป็นป ัญหาต ่อสุขภาพ เช่น ภาวะไขม ันในเลือดสูง โรคห ัวใจขาดเลือด โรคเบาหวานชนิด
ที่ 2 โรคความดันโลล ิตส ูง โรคเมแทบอลิกซ ินโดรม (Metabolic syndrome) โภชนาการมีบ ทบาทส ำคัญ ทั้งในด ้าน
การเพิ่มความเสี่ยงและลดความเสี่ยงของโรคอ้วน ผู้ป่วยโรคอ้วนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคอาหารและ
วิธีการดำเนินชีวิตให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถควบคุมน้ำหนักได้ดี ผู้ป่วยควรทราบถึงปัญหาของโรคอ้วนและเรียนรู้
วิธีการปรับอาหาร และวิถีการดำเนินชีวิตให้ถูกต้อง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะช่วยป้องกัน และลดภาวะแทรกซ้อนข อง
โรคอ้วนได้
ลขิ สทิ ธิ์ของมหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช