Page 185 - สังคมโลก
P. 185
สงครามกับการเปลี่ยนแปลงในสังคมโลก 7-79
บัญชาทางทหารของสหรัฐอเมริกา ซึ่งที่จริงก่อนหน้าการออกข้อมติเหล่านี้สหรัฐอเมริกาก็ได้ส่งกองทหารเข้าไปช่วย
เหลือเกาหลีใต้แล้ว ในบรรดาสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคง 11 ประเทศ ทั้งที่เป็นสมาชิกถาวรและสมาชิกไม่ถาวร
นี้ มีประเทศที่เห็นชอบกับข้อมติ 8 เสียง ซึ่งมีมหาอำ�นาจที่เป็นสมาชิกถาวร 4 ประเทศรวมอยู่ด้วย งดออกเสียง 2
เสียง ส่วนสหภาพโซเวียตไม่เข้าร่วมประชุมเพราะประท้วงที่สหประชาชาติยอมรับผู้แทนจากสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)
เป็นผู้แทนอันชอบธรรมของจีน แทนที่จะเป็นสาธารณรัฐประชาชนจีน ทำ�ให้ไม่มีเสียงคัดค้านมติดังกล่าว ประเทศ
สมาชกิ อืน่ ๆ จงึ สามารถสง่ กองทพั ไปชว่ ยเกาหลใี ตร้ บกบั เกาหลเี หนอื ได้ ตอ่ มาสหภาพโซเวยี ต กก็ ลบั เขา้ ประชมุ ในคณะ
มนตรีความมั่นคงตามปกติ ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1950 สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ส่งกองทหารอาสาสมัครบุกเข้าไป
ในดินแดนเกาหลีได้ แต่คณะมนตรีความมั่นคงก็ไม่สามารถออกข้อมติใดๆ ในเรื่องนี้ได้เนื่องจากสหภาพโซเวียตได้
ใช้สิทธิยับยั้งในฐานะสมาชิกประจำ�ในคณะมนตรีความมั่นคง ดังนั้นสมัชชาใหญ่จึงได้ประชุมกันเพื่อพิจารณาปัญหา
นี้ โดยนายดีน อาชีสัน (Dean Acheson) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เสนอข้อมติว่า
ด้วย “การรวมกันเพื่อสันติภาพ” (Uniting for Peace) ซึ่งเป็นการเพิ่มอำ�นาจให้แก่สมัชชาใหญ่ในการรักษาสันติภาพ
และความมั่นคงระหว่างประเทศ ในกรณที ีม่ กี ารคุกคามต่อสันตภิ าพและการรุกรานเกิดขึ้น แต่คณะมนตรคี วามมั่นคง
ไม่สามารถดำ�เนินการในการรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศเพราะมีการใช้สิทธิยับยั้ง สมัชชาใหญ่จะ
สามารถพิจารณาปัญหานั้นได้ทันทีเพื่อให้ข้อเสนอแนะในการใช้มาตรการร่วมกันด�ำ เนินการกับปัญหาดังกล่าว ซึ่งรวม
ถึงมาตรการบีบบังคับโดยการใช้กำ�ลังทางทหารด้วยในกรณีที่จำ�เป็น ข้อมตินี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ข้อมติอาชีสัน”
(Acheson Resolution) สมัชชาใหญ่ได้ลงมติเห็นชอบกับข้อมติดังกล่าวในวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1950 ต่อมา
ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1951 หลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงไม่บรรจุเรื่องสาธารณรัฐประชาชนจีนรุกรานเกาหลี
เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม สมัชชาใหญ่จึงได้ลงมติประณามสาธารณรัฐประชาชนจีนและลงมติให้มีการดำ�เนินการ
ร่วมกันเพือ่ กำ�หนดมาตรการในการแกไ้ ขปญั หาเกาหลี ซึ่งสหประชาชาติและรัฐสมาชิกกไ็ ดส้ ่งความช่วยเหลือทางทหาร
เครื่องอุปโภคบริโภค และการแพทย์ไปยังเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น
3. องค์การระหวา่ งประเทศระดบั ภมู ภิ าค (Regional International Organization)
องค์การระหว่างประเทศระดับภูมิภาคหลายแห่งนอกจากจะมีวัตถุประสงค์เพื่อความร่วมมือระหว่างรัฐ
สมาชิกด้านการเมือง เศรษฐกจิ และสงั คมแล้ว ยังมจี ุดมุง่ หมายที่จะรกั ษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคอีกด้วย
อาทิ สหภาพยุโรป (European Union: EU) ที่พัฒนามาจากประชาคมยุโรปซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของประชาคม
ถ่านหินและเหล็กยุโรป ประชาคมพลังงานปรมาณูยุโรป และประชาคมเศรษฐกิจยุโรปหรือตลาดร่วมยุโรป องค์การ
เหล่านี้มุ่งป้องกันและแก้ไขข้อขัดแย้งในการแย่งชิงการครอบครองแหล่งถ่านหินและแร่เหล็กในยุโรป ตลอดจนแหล่ง
อุตสาหกรรมสำ�คัญ โดยเฉพาะบริเวณแคว้นรูร์ ซาร์ อัสซาส และลอแรน ระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมนี อันเป็นสาเหตุ
ของสงครามใหญ่ในยุโรปมาแล้วหลายครั้ง การกำ�หนดให้พัฒนาพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ โดยไม่ให้ใช้เพื่อการทหาร
หรือเพื่อผลิตอาวุธปรมาณู และการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจเพื่อลดการแข่งขันกันที่จะนำ�ไปสู่ความขัดแย้ง เป็นต้น
องค์การเอกภาพแอฟริกาที่ก่อตั้งใน ค.ศ. 1963 ก็มีวัตถุประสงค์ที่จะแก้ไขข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นหลายแห่ง
ระหว่างบรรดาประเทศในทวีปแอฟริกา ซึ่งก่อนที่จะรวมตัวกันจัดตั้งองค์การเอกภาพแอฟริกาได้นั้นก็ได้เกิดกลุ่ม
ประเทศ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มบราซซาวิล (Brazzaville) ซึ่งประกอบด้วยอดีตประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศส กลุ่ม
คาซาบลงั กา (Casablanca) ทีน่ �ำ โดยประธานาธบิ ดคี วาเม นครมู า (Kwame Nkrumah) แหง่ กานา และกลุม่ มอนโรเวยี
(Monrovia) ที่นำ�โดยประธานาธิบดีเลโอโปลด์ เซดาร์ เซงกอร์ (Lèopold Sçdar Senghor) แห่งเซเนกาล นอกจากนั้น
ยังมีวัตถุประสงค์ในการปลดปล่อยประเทศต่างๆ จากการเป็นอาณานิคม ต่อต้านการเหยียดผิวและแบ่งแยกเชื้อ
ชาติ ตลอดจนการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนอีกด้วย เพราะปัญหาเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุของความขัดแย้งและสงครามได้
ลิขสิทธขิ์ องมหาวิทยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธริ าช