Page 79 - สังคมโลก
P. 79

จักรวรรดินิยม 6-39

ฟาสซิสม์ ต่อกรกับฝ่ายกำ�ลังผสมระหว่างกลุ่มนิยมประชาธิปไตยและกลุ่มนิยมสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ หนึ่งปีให้หลัง
เมื่อญีป่ ุน่ เข้าร่วมเปน็ พนั ธมิตรกบั เยอรมนีและอิตาลี การก่อตั้งกลุ่มพันธมิตรฝา่ ยอกั ษะ (Axis) หรอื บางครั้งเรียกขาน
กนั วา่ แกนเบอรล์ นิ -โรม-โตเกยี ว กถ็ อื ก�ำ เนดิ ขนึ้ โดยมสี หรฐั อเมรกิ าและองั กฤษเฝา้ มองอยา่ งใกลช้ ดิ วา่ กลมุ่ นี้ อาจจะเปน็ 	
ภัยคุกคามที่สำ�คัญโดยเฉพาะจากการขยายตัวและบทบาทความสำ�คัญที่เพิ่มมากขึ้นของเยอรมนีและญี่ปุ่น128

       ความกังวลใจในเรื่องดังกล่าว ทำ�ให้ทั้งสหรัฐอเมริกาและอังกฤษเปิดการสนทนาระหว่างกันใน ค.ศ. 1938
ขณะที่ฮิตเลอร์ยังดำ�เนินการละเมิดสนธิสัญญาสันติภาพหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ทั้งการผนวกออสเตรีย และ	
ซูเดเตน อันเป็นดินแดนของเชคโกสโลวาเกีย โดยมีอังกฤษและอิตาลีให้การรับรองผ่านการทำ�ความตกลงมิวนิก
(Munich Agreement, 1938)129 สิ่งที่เกิดตามมาก็คือ เยอรมนีมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น เพราะได้ทั้ง
ทองคำ�และเงินจากซูเดเตนซึ่งเป็นแหล่งรวมกิจการธนาคารของเชคโกสโลวาเกีย รวมทั้งเป็นแหล่งอุตสาหกรรมหนัก
ในการแปรรูปโลหะและแร่ต่างๆ ซึ่งง่ายต่อการปรับเปลี่ยนเป็นแหล่งผลิตยุทโธปกรณ์และเครื่องกระสุน จึงไม่ใช่เรื่อง
ยากที่เยอรมนีจะบุกยึดเชคโกสโลวาเกีย และรุกคืบเข้าโปแลนด์ใน ค.ศ. 1939 หลังลงนามในข้อตกลงโมโลตอฟ-	
ริบเบนทอฟ (Molotov-Ribbentrop Pact, 1939) กับสหภาพโซเวียตว่าทั้งสองฝ่ายจะวางตัวเป็นกลางหากฝ่ายหนึ่ง
ฝ่ายใดถูกรุกรานโดยรัฐที่สาม

       อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายต่างก็เข้ารุกรานโปแลนด์ในเดือนกันยายน เยอรมนีเริ่มรุกรานเมื่อวันที่ 1 ทำ�ให้
อังกฤษและฝรั่งเศสต้องเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะทั้งสองเป็นผู้รับประกันความเป็นกลางของโปแลนด์จึงได้ยื่นค�ำ ขาดใน
วันที่ 3 ให้เยอรมนีถอนทหารออกไป แต่ได้รับการปฏิเสธทั้งสองฝ่ายจึงประกาศสงครามกับเยอรมนี โปแลนด์ไม่อาจ
ต้านทานทั้งเยอรมนีและสหภาพโซเวียตที่บุกเข้าโปแลนด์เมื่อวันที่ 17 จนในที่สุดก็ต้องประกาศยอมแพ้ต่อเยอรมนี
ในวันที่ 27 ฮิตเลอร์จึงทำ�ความตกลงกับโจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin, 1878-1953) ผู้นำ�โซเวียตในการแบ่งกัน	
ครอบครองโปแลนด์ ก่อนจะยึดครองโปแลนด์ทั้งหมดเมื่อตัดสินใจบุกโซเวียตใน ค.ศ. 1941130

       แนวรบในเอเชียขยายตัวเช่นกัน หลังพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะกับสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นตัดสินใจทบทวน
นโยบายดงั กลา่ ว และสนบั สนนุ นโยบาย “รว่ มวงศไ์ พบลู ยม์ หาเอเชยี บรู พา” (the Greater East Asia Co-Prosperity
Sphere)131 อย่างจริงจัง โดยมี ฮิเดกิ โตโจ (Hideki Tojo, 1884-1948) เป็นผู้ผลักดันการเร่งรุกเข้ามาในอุษาคเนย์
โดยเฉพาะแผนการเข้ายึดครองดัชท์อีสต์อินดีส มาลายา และบอร์เนียว เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นทั้งแห่งผลิตและ	
เส้นทางลำ�เลียงทรัพยากรสำ�คัญ ที่จำ�เป็นต่อการพัฒนาญี่ปุ่น โดยเฉพาะนํ้ามันดิบ แร่ธาตุต่างๆ และอาหาร และเพื่อ	
ความมัน่ คงในการขนสง่ ในนา่ นนํา้ แปซฟิ กิ ญีป่ ุน่ จงึ ตดั สนิ ใจชงิ ลงมอื โจมตฐี านทพั เรอื เพริ ล์ ฮารเ์ บอร์ (Pearl Harbour)	

	 128 	E. J. Hobsbawm. (1994). op, cit., pp. 37-39, Jonathan Hardt. (2008). op, cit., p. 234.	
	 129 	การผนวกออสเตรยี ในเดอื นมนี าคมของฮติ เลอร์ ซึง่ เทา่ กบั เปน็ การละเมดิ ทัง้ สนธสิ ญั ญาแวรซ์ ายสแ์ ละสนธสิ ญั ญาแซงเยแมงต์ (Treaty
of St. Germain) ที่ห้ามการรวมตัวของทั้งสองประเทศ และทำ�การผนวกซูเดเตน (Sudeten) ซึ่งเป็นดินแดนของเชคโกสโลวาเกียที่มีชาวเยอรมนี
อาศัยอยู่เป็นจำ�นวนมาก โดยมีความตกลงมิวนิก (Munich Agreement, 1938) ที่ลงนามโดยเยอรมนี อังกฤษ และอิตาลี ให้การรับรองการกระท�ำ 	
ของเยอรมนี ซึ่งเท่ากับเป็นการดำ�เนินนโยบายผ่อนปรนตามความต้องการของเยอรมนี (appeasement policy) นั่นเอง ศึกษาเพิ่มเติมที่ http://
en.wikipedia.org/wiki/Anschluss, http://en.wikipedia.org/wiki/Munich_Agreement accessed on 20 November 2010
	 130 	E. J. Hobsbawm. (1994). op, cit., p. 40, Jonathan Hardt. (2008). op, cit., p. 240, http://en.wikipedia.org/wiki/An-
schluss, http://en.wikipedia.org/wiki/Munich_Agreement, http://en.wikipedia.org/wiki/Molotov_Ribbentrop_Pact, http://
www.ushmm.org/wlc/en/article.pph?ModuleId=10005070 accessed on 20 November 2553	
	 131	 การที่รัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำ�ของฟูมิมาโร โคโนเอะ (Fumimaro Konoe 1891-1945) ประกาศนโยบาย “ร่วมวงศ์ไพบูลย์มหาเอเชีย
บรู พา” (the Greater East Asia Co-Prosperity Sphere) ไวใ้ น ค.ศ. 1940 ซึง่ รวมเอาแมนจกู วั จนี และอษุ าคเนยเ์ ขา้ ไวเ้ ปน็ ดนิ แดนใกลช้ ดิ เพือ่ การ
เติบโตของญี่ปุ่นและยังมีแผนการขยายอทิ ธพิ ลไปจนถึงมหาสมุทรอนิ เดยี แมโ้ คโนเอะจะมใิ ช่ผู้ผลกั ดันหลกั ให้นโยบายนีเ้ ป็นนโยบายเชิงรุกทางการ
ทหาร ซึ่งมี ฮิเดกิ โตโจ (Hideki Tojo, 1884-1948) ซึ่งเข้าดำ�รงตำ�แหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1941 ศึกษาเพิ่มเติมที่ http://en.wikipedia.
org/wiki/Greater_East_Asia_Co-Prosperity_Sphere, http://en.wikipedia.org/wiki/Fumimaro_Konoe, http://en.wikipedia.org/
wiki/Hideki_Tojo accessed on 21 November 2553	

                              ลขิ สทิ ธขิ์ องมหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช
   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84