Page 98 - สังคมโลก
P. 98

6-58 สังคมโลก

เร่ืองท่ี 6.3.2
จกั รวรรดนิ ิยมแบบไรศ้ ูนย์กลาง

       หลังจากที่ได้มีการนำ�เสนอเนื้อหาเกี่ยวกับพัฒนาการ และความเปลี่ยนแปลงของจักรวรรดินิยมตะวันตก
นับตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมา ในตอนสุดท้ายนี้ผู้เขียนจะนำ�เสนออีกแนวทางหนึ่งในการศึกษาความเป็นไป
ของจักรวรรดินิยม ในยุคสมัยที่ความเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคมและเทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจ�ำ
วันของเราเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยจะอาศัยแนวคิดของฮาร์ดท์และเนกรีเป็นพื้นฐาน เพราะแนวคิดของทั้งสองให้ทั้ง
ภาพที่แสนคุ้นชิน (การมีโครงสร้างอำ�นาจเด่นนำ�ที่อยากจะเปลี่ยนแปลงในสังคม) และภาพที่ต่างออกไปเนื่องจาก
การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะทางด้านอุตสาหกรรม และการสื่อสารสารสนเทศ ตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970
เป็นต้นมา199 ฮาร์ดท์และเนกรีมองภาพว่า จักรวรรดิในยุคปัจจุบันมิได้มีตัวตนที่จับต้องและระบุตำ�แหน่งแห่งที่ได้
อย่างชัดเจนเหมือนเช่นที่ได้นำ�เสนอข้างต้น หากแต่จักรวรรดิในที่นี้หมายถึง ตรรกะแห่งการปกครองในรูปโครงข่าย
ของการควบคุม ที่เราจำ�เป็นต้องทำ�ความเข้าใจ เพราะตรรกะเช่นนี้มีลักษณะที่ขยายกว้าง ครอบคลุมปริมณฑลหลาก
มิติ ตรรกะเช่นนี้เองคือ ทิศทางในการกำ�หนดกระบวนทัศน์ หรือโครงสร้างความสัมพันธ์ของความคิดเกี่ยวกับอำ�นาจ
แบบใหม่ (the new paradigm of power)200

       ทั้งสองเลือกที่จะไม่ใช่คำ�ว่า “จักรวรรดินิยม” (Imperialism) วาดภาพสังคมที่ดำ�เนินอยู่รอบตัวเรา เพราะ
มองว่าเป็นคำ�ที่มีความหมายถึง การขยายดินแดนเลยขอบเขตรัฐอธิปไตยแต่ดั้งเดิมของชาติตะวันตกดังที่ได้กล่าวไว้
แล้ว แต่จักรวรรดิ (Empire) ให้ภาพความเปลี่ยนแปลงทั้งในระดับรัฐ ตํ่ากว่ารัฐ และเหนือรัฐ กล่าวได้ว่าแนวคิดนี้
เสนอภาพทีค่ รอบคลมุ ปรมิ ณฑลทางอารยธรรมและระเบยี บทางสงั คมในทกุ รูปแบบ แม้จะยอมรบั การจัดระเบยี บตาม
ลำ�ดับขั้นที่มีความยืดหยุ่น แต่ทั้งสองก็เห็นว่า ระเบียบสังคม ช่วยทำ�ให้สภาพความสัมพันธ์ในสังคมที่เป็นมาแต่เดิม
ยงั คงดำ�เนนิ อยูต่ อ่ ไป การแลกเปลีย่ นตำ�แหนง่ แหง่ ทีท่ างสงั คมมลี กั ษณะพหนุ ยิ มมากขึน้ ท�ำ ใหอ้ ตั ลกั ษณข์ องผูค้ นเปน็
ไปแบบผสมผสานไม่ชัดเจนในด้านใดด้านหนึ่ง (hybrid identities) ทั้งสองจึงเสนอภาพว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิด
สันติภาพขึ้นใน Empire โดยปราศจากการเอาเลือดเนื้อเข้าแลก201 นั่นก็คือ การใช้กำ�ลังความรุนแรงเกิดขึ้นได้เสมอ
แม้จะมุ่งวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างสันติภาพท่ามกลางความแตกต่างหลากหลาย

       สิ่งที่เป็นดังแก่นกลางและหน่ออ่อนของการเคลื่อนไหวภายใน Empire ก็คือ “การผลิตทางชีวการเมือง”
(biopolitical production) ที่ไม่แบ่งแยกมิติทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม และยังมีลักษณะที่เหลื่อมซ้อน
การเข้าลงทุนข้ามมิติกันไปมาเป็นตัวกำ�หนดรูปแบบชีวิต (forms of life) จากกิจกรรมภายในการผลิต ไม่ว่าจะปรากฏ	
	

	 199	 ระบบรวมศูนยเ์ ชน่ นี้ ไดร้ บั การพฒั นาและขยายฐานอยา่ งต่อเนือ่ งนับตัง้ แตช่ ่วงสงครามโลกครั้งที่ 2  เปน็ ต้นมา ระบบสายพานการผลติ
และการประกอบชิ้นส่วน (assembly line and mass manufacturing regime) เข้ามาใช้กำ�หนดตำ�แหน่งแห่งที่ในการจัดระเบียบการผลิต รวม
ไปถึงการใช้ระบบการผลิตแบบทันท่วงที (Taylorism) และการก้าวกระโดดครั้งสำ�คัญกับการกำ�หนดวงจรทางสังคมของการผลิตซํ้า (Fordism)
แต่เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ได้รับการพัฒนานับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970 ทำ�ให้ประสิทธิภาพการควบคุมการผลิตและสังคมที่ดำ�เนินการผ่านระบบดัง
กล่าวไม่ก่อประสิทธิผลอีกต่อไป เพราะในสังคมหลังสมัยใหม่ (post modern society) ยุคที่การบริหารความเป็นไปในสังคมมีลักษณะที่ไม่หยุด
นิ่ง (mobile) มีความยืดหยุ่น (flexible) และมีความสามารถในการจัดการกับความแตกต่างหลากหลาย อันเป็นลักษณะที่ทำ�ให้สังคมทุนนิยม
อุตสาหกรรมหลุดพ้นจากการครอบง�ำ ของการผลิตแบบสายพาน (Fordism) ที่จัดสรรให้แรงงานมีระเบียบอยู่ในที่ทางของโครงข่ายการรวมศูนย์
ทางการผลิต  ศึกษาเพิ่มเติมที่ Michael Hardt and Antonio Negri (2000), ibid., pp. 267-268	
	 200 	Michael Hardt and Antonio Negri. (2000). ibid., pp. 25, 155.
	 201 	Michael Hardt and Antonio Negri. (2000). ibid., pp. Preface, chapter 1.2.  	

                             ลขิ สทิ ธิข์ องมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช
   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103