Page 96 - ระบบสำนักงานอัตโนมัติและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
P. 96

9-16 ระบบสำ�นักงานอัตโนมัติและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

เร่อื งที่ 9.1.4
ปจั จัยแหง่ ความส�ำ เร็จของกลยทุ ธพ์ าณิชยอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์

       ในการวางกลยุทธ์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จะต้องพิจารณาปัจจัยแห่งความสำ�เร็จ ซึ่งทำ�ให้องค์กรรู้ว่า โอกาส
แห่งความสำ�เร็จตามกลยุทธ์มีมากน้อยแค่ไหน และขึ้นอยู่กับปัจจัยใดเป็นสำ�คัญ ทั้งนี้ปัจจัยแห่งความสำ�เร็จของ
กลยุทธ์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ขึ้นอยู่กับความสำ�เร็จในการออกแบบเว็บไซต์ เนื่องจากการดำ�เนินธุรกิจพาณิชย์
อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดจะผ่านระบบออนไลน์ ดังนั้น เว็บไซต์จึงเป็นช่องทางเดียวสำ�หรับการดำ�เนินธุรกรรม และเป็น
พื้นฐานของความสำ�เร็จในการดำ�เนินพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์

       เรย์พอร์ตและเจวอร์สกี (Rayport and Jaworski) ได้ให้หลักการการออกแบบเว็บไซต์ไว้ ซึ่งประกอบด้วย
การจัดวางโครงร่างและการออกแบบ (context) เนื้อหา (content) การพาณิชย์ (commerce) ความเชื่อมโยง (con-
nection) การสื่อสาร (communication) การให้บริการลูกค้าแต่ละคน (customization) ชุมชน (community) หรือ
เรียกกันโดยทั่วไปว่า 7Cs ดังรายละเอียดต่อไปนี้

       1. 	 โครงรา่ งและการออกแบบ (context) การจดั วางโครงรา่ งและการออกแบบเพือ่ สรา้ งเวบ็ ไซดใ์ หส้ วยงามและ
มีศิลปะ ทั้งภาพ สี ลักษณะตัวอักษร ขนาด รูปร่าง บางองค์กรผลิตเว็บไซต์ขึ้นมา โดยเน้นรูปภาพ ตัวอักษร และส	ี
แต่บางเว็บไซต์เน้นที่ความง่ายในการใช้ประโยชน์ นั่นคือ การเข้าไปดูรายละเอียดในแต่ละรายการบนหน้าเว็บไซต์
ขณะเดียวกันบางเว็บไซต์ก็ผสมผสานระหว่างความสวยงามด้านสีที่ดูแล้วอบอุ่น อ่อนโยน และง่ายๆ กับคุณประโยชน์
ด้านการใช้งาน เพื่อสื่อให้ลูกค้ารับรู้ถึงสินค้าและบริการของเว็บไซต์นั้นๆ ขึ้นอยู่กลุ่มเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ขององค์กร
ที่ต้องการสื่อสาร

       2. 	 เนอื้ หา (content) เนอื้ หาบนเวบ็ ไซต์ ประกอบดว้ ยขอ้ มลู สนิ คา้ และบรกิ าร ซงึ่ อยใู่ นรปู แบบตวั หนงั สอื วดิ โี อ
ออดิโอ รูปภาพต่างๆ การจัดทำ�เนื้อหาเว็บไซต์นั้น เป็นการตอบคำ�ถามว่า องค์กรต้องการจะนำ�เสนอ “อะไร” ต่อลูกค้า
เป้าหมาย ซึ่งแตกต่างจากการจัดวางโครงร่างและการออกแบบที่องค์กรต้องตอบคำ�ถามว่า จะนำ�เสนออย่างไร ดังนั้น
สิ่งที่องค์กรนำ�เสนอ ขึ้นอยู่กับว่า องค์กรต้องการขาย “อะไร” ต่อลูกค้าเป้าหมาย เช่น อาจจะขายสินค้า บริการ องค์กร
ข้อมูล ประสบการณ์ เป็นต้น

       3. 	 การพาณิชย์ (commerce) การค้าขายบนเว็บไซต์อาจอยู่ในรูปของสินค้า บริการ องค์กร กิจกรรม
ประสบการณ์ ข้อมูล บุคคล เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่า เว็บไซต์ดังกล่าวมีองค์กรรับรองหรือไม่ ถ้าเว็บไซต์ดังกล่าวไม่มี
องค์กรรับรอง เว็บไซต์ดังกล่าวก็ต้องมีความน่าเชื่อถือพอที่จะจัดส่งสินค้าและบริการนั้นๆ ไปให้ลูกค้าตามที่ตกลง
กันไว้ได้ ดังนั้น เว็บไซต์ดังกล่าวอาจจะไม่ได้ขายสินค้าโดยตรง แต่ขาย “ความสะดวกและความหลากหลาย” ให้กับ
ลูกค้าที่ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายไปแสวงหาและซื้อสินค้าจากร้านค้าโดยตรง ตรงกันข้ามกับองค์กรที่มีร้านค้า
จำ�หน่ายสินค้าเหล่านั้น องค์กรยังคงขายสินค้าและบริการดังกล่าวเหมือนเดิม เพียงแต่เพิ่มช่องทางการซื้อขายผ่าน
ทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งให้ข้อมูลเบื้องต้นที่สำ�คัญแก่ลูกค้าในการซื้อครั้งแรก แต่สำ�หรับลูกค้าที่ซื้อครั้งที่สองหรือสาม
เว็บไซต์จะช่วยให้การสั่งซื้อมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น

       4. 	 ความเช่ือมโยง (connection) เว็บไซต์ขององค์กรทุกประเภทควรจะต้องมีการเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของ
องค์กร หรอื องค์กรอื่นๆ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง เพือ่ อำ�นวยความสะดวกตอ่ ลกู คา้ ในการสบื คน้ หาขอ้ มลู เกี่ยวกบั สินค้าและบรกิ าร
และสามารถนำ�มาเปรียบเทียบราคา และคุณภาพสินค้าได้ เนื่องจากข้อมูลเกี่ยวกับราคาสินค้าและบริการต่างๆ ใน
อินเทอร์เน็ตมีจำ�นวนมาก ดังนั้น ถ้าหากองค์กรสามารถอำ�นวยความสะดวกในการค้นหาข้อมูล จะทำ�ให้ลูกค้าเกิด

                             ลขิ สิทธข์ิ องมหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช
   91   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101