Page 21 - ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารการศึกษา หน่วยที่ 9
P. 21

การบริหารสมรรถนะทรัพยากรบุคคลในองค์การ 9-11

และ​เชาวน์ป​ ัญญา​สูง​กลับ​ปรากฏว​ ่า ไม่​ประสบค​ วามส​ ำ�เร็จใ​นก​ ารป​ ฏิบัติง​ าน ส่วนผ​ ู้ท​ ี่​มีค​ วาม​รู้​ความ​สามารถ
และเ​ชาวนป์​ ัญญาต​ ํ่าก​ วา่ ก​ ลับม​ ผี​ ลก​ ารป​ ฏิบตั งิ​ านส​ ูงก​ ว่า ในก​ ารศ​ กึ ษา Mc Cleland ได้แ​ บ่งน​ ักการท​ ตู อ​ อกเ​ป็น
2 กลุม่ คอื กลุม่ ท​ มี​่ ผ​ี ลง​ านส​ งู (superior performer) และก​ ลุม่ ท​ ีม่​ ผ​ี ลง​ านต​ ามเ​กณฑม​์ าตรฐานห​ รอื อ​ ยใู​่ นร​ ะดบั ​
ปกติ (average performer) เขา​ได้​คัด​เลือก​บุคคล​ทั้ง​สอง​กลุ่ม​ที่​มี​ความ​รู้ ความ​สามารถ​และ​ประสบการณ์​
พื้นฐ​ านเ​ท่าเ​ทียมก​ ันแ​ ล้วเ​ปรียบเ​ทียบผ​ ลก​ ารป​ ฏิบัติง​ านข​ องบ​ ุคคลท​ ั้งส​ องก​ ลุ่ม ผลก​ ารศ​ ึกษาพ​ บว​ ่า คุณสมบัต​ิ
พื้น​ฐาน เช่น ความ​รู้ ความ​สามารถ​และ​เชาวน์​ปัญญา​ไม่​ได้​ส่ง​ผล​ต่อ​การ​ปฏิบัติ​งาน​ของ​บุคคล​เหล่า​นั้น​ให้​มี​
ผลง​ าน​ในร​ ะดับด​ ี​เด่น​หรือส​ ูง​กว่าค​ น​อื่น แต่จ​ ะ​มีผ​ ลง​ าน​เท่า​เกณฑ์​ปกติห​ รือเ​กณฑ์​เฉลี่ย​เท่านั้น แต่​ยัง​มี​ปัจจัย​
ภายในต​ ัวบ​ ุคคลซ​ ึ่งเ​ป็นค​ ุณลักษณะส​ ่วนบ​ ุคคล อันไ​ด้แก่ แรงจ​ ูงใจ (motive) ลักษณะน​ ิสัยส​ ่วนบ​ ุคคล (traits)
ภาพล​ ักษณ์ส​ ่วนบ​ ุคคล (self-image) บทบาทท​ าง​สังคม (social role) และอ​ ื่นๆ อัน​ซ่อนอ​ ยู่ภ​ ายใน​ตัวบ​ ุคคล​
ต่างห​ ากท​ ี่ท​ ำ�ให้บ​ ุคคลม​ ีผ​ ลก​ ารป​ ฏิบัติง​ านท​ ี่ส​ ูงก​ ว่าเ​กณฑ์เ​ฉลี่ย (average performer) และบ​ ุคคลน​ ั้นจ​ ะม​ ีผ​ ล​
งาน​ดี​เด่นห​ รือ​สูงก​ ว่าค​ นอ​ ื่น (superior performer) โดย Mc Cleland เรียก​ปัจจัยท​ ี่ซ​ ่อน​อยู่​ภายในต​ ัวบ​ ุคคล​
หรือค​ ุณลักษณะเ​ฉพาะต​ ัวข​ องบ​ ุคคลน​ ี้ว​ ่า “สมรรถนะ” และเ​ขาไ​ด้ก​ ล่าวว​ ่าการค​ ัดเ​ลือกบ​ ุคคลท​ ี่ใ​ช้ก​ ารว​ ัดแ​ ละ​
ประเมินจ​ ากเ​ชาวนป์​ ัญญา ซึ่งป​ ระกอบด​ ้วยค​ วามถ​ นัดแ​ ละค​ วามเ​ชี่ยวชาญเ​ฉพาะท​ างน​ ั้น จะไ​มอ่​ าจค​ ัดเ​ลือกไ​ด​้
บุคคลท​ ี่​จะ​มี​ความ​สำ�เร็จใ​นง​ าน​หรือ​ความ​ดีเ​ด่น​ในง​ านไ​ด้ ซึ่ง​เป็นส​ ะท้อน​ให้​เห็น​ว่าผ​ ู้ท​ ี่เ​รียน​เก่ง มีค​ วามร​ ู้แ​ ละ​
ความ​สามารถ​สูง​จะ​ประสบ​ความ​สำ�เร็จ​ใน​งาน แต่​ผู้​มี​ความ​สามารถ​ใน​การ​ประยุกต์​ความ​รู้ หลัก​การ​ที่​มี​อยู่​
ใน​ตัว​เอง​หรือ​คุณลักษณะ​เฉพาะ​ตัว​ที่​มี​อยู่​ที่​เรียก​ว่า​สมรรถนะ จะ​ประสบ​ความ​สำ�เร็จ​สูง​กว่า ดัง​นั้น การ​ใช้​
เชาวน์ป​ ัญญา (I.Q.) ใน​การค​ ัดเ​ลือก​บุคคล​น่าจ​ ะ​ไม่​เพียง​พอ ต้อง​ใช้ก​ ารป​ ระเมิน​สมรรถนะ ประกอบ​ด้วย จึง​
จะท​ ำ�ให้​คัดเ​ลือก​บุคคล​ได้ด​ ีก​ ว่า เพราะ​จะ​ทำ�ให้​การ​คัดเ​ลือก​บุคคล​ที่จ​ ะม​ ี​ผลส​ ำ�เร็จ​ใน​งาน​ในร​ ะดับ Superior
Performer ได้

       แนวคิด​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​สมรรถนะ​นี้ L.M. Spencer ได้​นำ�​มา​ประยุกต์​ประกอบ​คำ�​อธิบาย​ว่า​เปรียบ​
เสมือนภ​ ูเขานํ้าแข็ง (Iceberg Model) โดย​มี​ส่วน​ที่ม​ อง​เห็นไ​ด้แ​ ละว​ ัด​หรือ​ประเมินไ​ด้​ง่ายอ​ ยู่ข​ ้างบ​ น​หรืออ​ ยู่​
เหนือน​ ํ้า ซึ่งไ​ด้แก่ ความร​ ู้ ทักษะแ​ ละป​ ระสบการณ์ใ​นก​ ารท​ ำ�งาน ส่วนท​ ี่​เป็นค​ ุณลักษณะป​ ระจำ�​ตัว ส่วนบ​ ุคคล​
จะ​เป็นส​ ่วนท​ ี่​มองเ​ห็น​ได้ย​ าก ประเมิน​ยาก ซึ่งป​ ระกอบ​ด้วย แรงจ​ ูงใจ (motive) อุปนิสัย​ส่วนบ​ ุคคล (traits)
ภาพล​ ักษณ์​ส่วน​ตัว (self-image) บทบาท​หรือ​การย​ อมรับท​ างส​ ังคม (social role) จะเ​ป็นส​ ่วน​ที่อ​ ยู่​ภาย​ใต​้
นํ้าของภ​ ูเขานํ้าแข็ง ดัง​ภาพ​ที่ 9.1 ต่อ​ไปน​ ี้
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26