Page 24 - ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารการศึกษา หน่วยที่ 9
P. 24
9-14 ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารการศึกษา
(A competency is an underlying characteristic of a person, which enables him to deliver superior
performance in a given job, role or situation) และได้ขยายความต ่อไปว่า “คุณลักษณะดังกล่าวเรียก
ว่าเป็นส ่วนเกื้อห นุนและผ ลักดันให้เกิดความสำ�เร็จในง าน ซึ่งประกอบด้วย ความรู้ ทักษะ อุปนิสัย บทบาท
ทางสังคม ภาพลักษณ์ส ่วนตัวและแ รงจ ูงใจ ซึ่งค ุณลักษณะส ่วนบุคคลดังกล่าวนี้จะส่งผลต ่อพฤติกรรมข อง
บุคคลให้ม ีความสำ�เร็จในงาน นอกจากนั้น Shermon ยังได้น ำ�แนวคิดของสมรรถนะมาเชื่อมโยงก ับภารกิจ
ของง านห รือภ ารกจิ ท ตี่ อ้ งด �ำ เนินก ารข องอ งค์การ โดยใช้ Iceberg Model ของส มรรถนะว ่า “หมายถ งึ ล กั ษณะ
รวมห รือก ารผ สมผ สานร ะหว่างค วามร ู้ ความส ามารถ และค ุณลักษณะส ่วนบ ุคคล ทักษะห รือค วามช ำ�นาญ ซึ่ง
จะท ำ�ให้ส ่งผ ลต ่อค วามส ำ�เร็จในก ารป ฏิบัติง านข องบ ุคคลแ ละอ งค์การ (competencies are the combina-
tion of Knowledge, Abilities, Personal Attributies and Skills that contribute to individual and
organizational performance (Shermon, 2004: 75)
อนึ่ง เนื่องจากม ีผ ู้ให้ความห มายข องส มรรถนะไว้จ ำ�นวนม ากแ ละห ลากหลายแ นวคิด Shermon จึง
ให้ข ้อส ังเกตไว้ว ่าส มรรถนะจะมีค วามหมายใน 2 ลักษณะที่ส ัมพันธ์ก ัน กล่าวค ือ ความห มายแ รกสมรรถนะ
หมายถ ึงค วามส ามารถข องแ ต่ละบ ุคคลท ีจ่ ะป ฏิบัตงิ านต ามท ีไ่ดร้ ับม อบห มายได้ และค วามห มายท ีส่ อง หมาย
ถึงคุณลักษณะหรือคุณสมบัติที่แต่ละบุคคลต้องมีเพื่อให้ปฏิบัติงานประสบความสำ�เร็จ โดยความหมายทั้ง
สองลักษณะม ีค วามแตกต ่างก ันแต่ม ีความส ัมพันธ์ก ัน กล่าวค ือ ความห มายแรก หมายถึงร ะดับพ ื้นฐานของ
ความสามารถท ี่บุคคลพ ึงมีเพื่อให้ปฏิบัติง านได้เท่านั้น แต่ความห มายท ี่สอง หมายถึงค ุณลักษณะท ี่ส ำ�คัญที่
จะทำ�ให้ประสบความส ำ�เร็จท ี่สูงกว่าในการทำ�งาน (Shermon, 2004: 11-12)
ส่วนน ักวิชาการไทยซึ่งส่วนใหญ่พิจารณาเรื่องส มรรถนะท ี่เกี่ยวกับการบ ริหารทรัพยากรม นุษย์ ให้
ความห มายของค ำ�ดังกล่าวไว้หลายท่านที่น ่าส นใจ เช่น สุก ัญญา รัศมีธ รรมโชติ (2549: 17) ได้ประมวลและ
สรุปค วามห มายข องส มรรถนะจ ากค วามห มายท ีห่ ลากห ลายข องน ักว ิชาการ ว่าห มายถ ึง ความร ู้ (knowledge)
ทักษะ (skills) และค ุณลักษณะส ่วนบ ุคคล (personal characteristic or attributes) ทีท่ ำ�ให้บ ุคคลน ั้น
ทำ�งานในความรับผ ิดชอบได้ดีกว่าคนอื่น
ปิยชัย จันทรวงศ์ไพศาล (2549: 12) ได้สรุปความหมายจากนักวิชาการต่างๆ เกี่ยวกับสมรรถนะ
และได้สรุปว ่า สมรรถนะ หมายถ ึงทักษะ ความรู้และความสามารถหรือพ ฤติกรรม (skill, knowledge and
attribute) ของบ ุคลากรที่มีต่อการปฏิบัติงาน เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถทำ�งานจนบรรลุตามวัตถุประสงค์
และเป้าห มายข องง านนั้น
จิรประภา อัครบวร (www.dms.moph.go.th/competency/modules) ได้ให้ความหมายของ
สมรรถนะ ว่าหมายถึงความรู้ (knowledge) ทักษะ (skills) และคุณลักษณะ (attributes) ที่จำ�เป็นใน
การปฏิบัติงานใดงานหนึ่ง (job roles) ให้ป ระสบค วามสำ�เร็จแ ละม ีความส ำ�เร็จโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ ในเชิง
พฤติกรรม เช่น มากกว่าเพื่อนร่วมงานในสถานการณ์ท ี่หลากหลายกว่า และได้ผลง านดีกว่าค นอื่น เป็นต้น
สำ�นักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ได้ให้ความหมายของสมรรถนะ ว่าหมายถึง
“คุณลักษณะเชิงพ ฤติกรรมท ี่เป็นผ ลม าจ ากค วามร ู้ ทักษะ ความสามารถ และค ุณล ักษณะอ ื่นๆ ที่ท ำ�ให้บ ุคคล
สร้างผ ลง านไดโ้ดดเดน่ ในอ งค์การ โดยน ัยด งั ก ลา่ วห มายความว ่า พฤติกรรมในก ารท ำ�งานเปน็ ผ ลง านท ีเ่ กดิ ม า