Page 48 - แนวคิดทางการแนะแนวและทฤษฎีการปรึกษาเชิงจิตวิทยา หน่วยที่ 3
P. 48
3-38 แนวคิดทางการแนะแนวและทฤษฎีการปรึกษาเชิงจิตวิทยา
4) จิตวิทยาการศึกษาจะต้องมีความกระจ่างชัดและเป็นส่วนหน่ึงของการคิดในตัวผู้ศึกษา เรา
ไม่อ าจช ่วยนักศึกษาทางจิตวิทยาก ารศ ึกษาให้เป็นค รูท ี่ดีมีประสิทธิผลได้ ถ้าเนื้อหาส าระในวิชาน ี้ไม่ส ามารถ
เป็นท ี่เข้าใจแ ก่ผ ู้ศ ึกษา ด้วยเหตุน ี้ในจ ิตวิทยาก ารศ ึกษาจ ึงต ้องม ีก ารอ ธิบายท ี่แ จ่มช ัดแ ละม ีต ัวอย่างท ี่เป็นจ ริง
โดยเฉพาะเนื้อหาที่ได้จ ากก ารส ังเกตและก ารม ีประสบการณ์ใกล้ชิด ดังที่ป รากฏในตัวอย่างร ายกรณีที่ม ีการ
ศึกษา (Case Study) เพราะการศ ึกษารายก รณีให้ข้อมูลที่มีคุณค่าซ ึ่งมาจ ากความจ ริงและได้เกิดขึ้นจ ริงใน
ชีวิต จิตวิทยาการศึกษาจะต ้องเป็นส่วนหนึ่งของก ารคิดในตัวผู้ศึกษา ซึ่งจะต้องร ู้จักเปรียบเทียบความค ิดที่
เขาเคยม ีม าก ่อนก ับก ารค ้นพ บต ่างๆ ที่เกิดข ึ้นในส าขาว ิชาน ี้ เพื่อท ี่ว ่าเขาจ ะได้ท ดลองค วามร ู้ค วามเข้าใจต ่างๆ
กับตัวเด็กภายในชั้นเรียน ด้วยการเรียนการสอนเช่นนี้ เขาได้ทำ�ให้จิตวิทยาการศึกษาเป็นวิชาที่มีชีวิต ซึ่ง
เขาสามารถส ัมผัสได้ด ้วยประสบการณ์ของเขาเอง
5) จิตวิทยาก ารศ ึกษาเป็นศาสตร์ห นึ่งข องพฤติกรรมศาสตร์ เนื่องด ้วยเนื้อหาส าระข องว ิชาน ี้อยู่ที่
การใหค้ วามร เู้ กีย่ วก บั ก ารเรยี นร ขู้ องค นท กุ เพศท กุ ว ยั แ ละม กี ารจ ดั ร วบรวมค วามร เู้ หลา่ น เี้ ขา้ ไวอ้ ยา่ งเปน็ ร ะบบ
ก่อใหเ้กิดท ฤษฎหี ลักก ารแ ละข ้อมูลท ีม่ คี ุณค่าต ่างๆ มากมายในพ ฤติกรรมก ารเรียนร ูข้ องม นุษย์ จิตวิทยาก าร
ศึกษาจึงถือได้ว ่าเป็นศ าสตร์ส ำ�คัญศ าสตร์ห นึ่งในท างพฤติกรรมศาสตร์
ในฐานที่จิตวิทยาการศึกษาเป็นศาสตร์ ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้เรียนในสภาพของการ
จัดการเรียนการสอนเนื้อหาจึงเกี่ยวข้องกับธรรมชาติและกระบวนการของการเรียนรู้และพัฒนาการเนื้อหา
ที่เด็กหรือบ ุคคลจ ะเรียน ผลของก ารเรียน สภาวการณ์หรือบริบทท ี่แวดล้อมผ ู้เรียน หรือสิ่งแวดล้อมในห รือ
นอกโรงเรียน ตลอดจนการวัดและประเมินผลพฤติกรรมการเรียน ส่วนในเรื่องระเบียบวิธีการก็จะมีการ
ศึกษาค้นคว้าด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ทั้งในห้องเรียนปกติและห้องทดลองกับผู้เรียน โดยเฉพาะ
กับเด็กในวัยเรียนและนักจิตวิทยาการศึกษาจะต้องทำ�การศึกษาค้นคว้าโดยทำ�งานใกล้ชิดกับครูทั้งในแง่
ของเนื้อหาแ ละว ิธีก ารด ้วย
ดังนั้น ทฤษฎีพื้นฐานสำ�หรับผู้ศึกษาด้านจิตวิทยาการศึกษาจำ�เป็นต้องรู้ อาจประมวลในภาพรวม
ได้ ดังต่อไปน ี้
1) ทฤษฎีพัฒนาการ และทฤษฎีบุคลิกภาพ เป็นเรื่องที่นักการศึกษาและผู้สอนจะต้องมีความรู้
เพราะจะช่วยให้เข้าใจอ ัตล ักษณ์ของผู้เรียนในวัยต ่างๆ โดยท ั้งปฐมวัย วัยเด็ก และว ัยรุ่น ซึ่งเป็นว ัยที่ก ำ�ลัง
ศึกษาอยู่ในโรงเรียน
2) ความแตกต่างระหว่างบุคคลและกลุ่ม นอกจากมีความเข้าใจพัฒนาการของเด็กวัยต่างๆ แล้ว
นักการศ ึกษาแ ละผ ู้ส อนจ ะต ้องเรียนร ู้ถึงค วามแ ตกต ่างร ะหว่างบุคคลแ ละก ลุ่ม ทางด ้านร ะดับเชาวน์ป ัญญา
ความค ิดส ร้างสรรค์ เพศ สถานะทางเศรษฐกิจแ ละส ังคม ซึ่งน ักจ ิตวิทยาไดค้ ิดว ิธกี ารว ิจัยท ีจ่ ะช ่วยช ีใ้หเ้ห็นว ่า
ความแตกต ่างระหว่างบ ุคคลเป็นตัวแปรที่สำ�คัญในการเลือกวิธีส อน และในการส ร้างหลักสูตรท ี่เหมาะส ม
3) ทฤษฎีการเรียนรู้ นักจิตวิทยาที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการเรียนรู้ นอกจากจะสนใจว่าทฤษฎีการ
เรียนรู้จะช ่วยน ักเรียนให้เรียนรู้แ ละจดจำ�อย่างมีป ระสิทธิภาพได้อย่างไรแล้ว ยังสนใจองค์ป ระกอบเกี่ยวกับ
ตัวของผู้เรียน เช่น แรงจ ูงใจว่ามีความสัมพันธ์กับการเรียนรู้อย่างไร ความร ู้เหล่านี้ถือว่ามีความสำ�คัญต่อ
การเรียนการสอนเป็นอย่างย ิ่ง