Page 50 - ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารการศึกษา หน่วยที่ 2
P. 50

2-40 ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารการศึกษา

องค์การของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดนนทบุรี ความในใจในการศึกษาสุขภาพองค์การมีมากในระดับ
บัณฑิตศึกษาทางด้านบริหารการศึกษาของมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (พรรณี	
สุวัตถี 2537) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (ชัยชาย ชัยหาญ 2533) มหาวิทยาลัยบูรพา (สายใจ ศรีดี 2540
และอรทัย คณะสารพันธ์ 2541) และมหาวิทยาลัยศิลปากร (ธวัช กรุดมณี 2542 และ อัจฉราพร แก้วมรกต
2542) จ�ำ นวนวทิ ยานพิ นธม์ หาบณั ฑติ ทีศ่ กึ ษาเกีย่ วกบั สขุ ภาพองคก์ ารมมี ากทีส่ ดุ ทีแ่ ขนงวชิ าบรหิ ารการศกึ ษา
สาขาศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช ในระหวา่ ง พ.ศ. 2542 – 2547 มวี ทิ ยานพิ นธศ์ กึ ษาศาสตร์
มหาบัณฑิตมากกว่า 10 เรื่อง (นิตยา ภัสสรศิริ และคณะ 2549: 110-112)

       3.2 	การวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิผลขององค์การ ทฤษฎีของพาร์สันส์สามารถใช้เป็นกรอบการวิจัย
เกี่ยวกับประสิทธิผลขององค์การ (organizational effectiveness) ฮอยและมิสเกล (Hoy and Miskel,
1991: 383) ไดเ้ สนอตวั แบบการประเมนิ ประสทิ ธผิ ลขององคก์ ารโดยยดึ ทฤษฎขี องพารส์ นั สเ์ ปน็ หลกั แนวคดิ
สำ�คัญคือ องค์การที่มีประสิทธิผลได้แก่ องค์การที่สามารถทำ�หน้าที่ 4 ประการได้เป็นอย่างดี โรงเรียนที่มี
ประสิทธิผลจึงเป็นโรงเรียนที่สามารถด�ำ เนินการตามหน้าที่ 4 ประการนี้ ซึ่งได้แก่ การปรับตัว (A) การดำ�เนิน
การเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ (G) การบูรณาการ (I) และการรักษาแบบแผน (L)

       หน้าที่แต่ละประเภทมีดัชนีบ่งชี้ (indicators) อยู่ 4 ตัว ตัวบ่งชี้ประสิทธิผลของการปรับตัว (A)
ได้แก่ 1) ความสามารถในการปรับตัว 2) นวัตกรรม 3) ความเจริญงอกงาม และ 4) พัฒนาการ ตัวบ่งชี้
ประสิทธิผลของการดำ�เนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ (G) ได้แก่ 1) สัมฤทธิผล 2) คุณภาพ 3) ความ
สามารถในการแสวงหาทรัพยากร และ 4) ประสิทธิภาพ ตัวบ่งชี้ประสิทธิผลของบูรณาการ ได้แก่ 1) ความ
พึงพอใจ 2) บรรยากาศ 3) การสื่อสาร 4) ความขัดแย้ง ตัวบ่งชี้ประสิทธิผลของการรักษาแบบแผน ได้แก่
1) ความจงรักภักดี 2) ความในใจในศูนย์กลางแห่งชีวิต 3) แรงจูงใจ และ 4) ความรู้สึกผูกพัน ตัวบ่งชี้
ประสิทธิผลขององค์การจึงมีทั้งหมด 16 ตัว ดังแสดงในตารางที่ 2.2
   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54   55