Page 58 - ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารการศึกษา หน่วยที่ 2
P. 58
2-48 ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารการศึกษา
1) จัดให้ครูทำ�การสอนตรงกับความสามารถและความสนใจ
2) จัดให้นักเรียนรวมกลุ่มตามความสนใจเพื่อศึกษาค้นคว้าให้สอดคล้องกับความต้องการ
ของกลุ่ม
3) จดั ใหม้ กี ารเรยี นการสอนแบบรายบคุ คล (individualized instruction) เพือ่ ใหส้ อดคลอ้ ง
กับความสนใจและความสามารถของแต่ละบุคคล
4) สนับสนุนให้ครูทดลองทำ�การสอนโดยวิธีที่หลากหลาย ให้สอดคล้องกับความสนใจและ
ความสามารถ โดยการทดลองนั้นจะต้องมีผลต่อการเรียนรู้ของนักเรียน
5) จัดให้มีการประเมินการสอนและการให้ความดีความชอบ โดยคำ�นึงถึงความสามารถและ
ความต้องการของบุคลากรโดยมีเงื่อนไขว่า ความสามารถและความต้องการนั้นนำ�ไปสู่การเพิ่มพูนความรู้แก่
นักเรียน
3. ภาวะผูน้ �ำ
ภาวะผูน้ �ำ มหี ลายแบบ ตามทฤษฎขี องเกทเซลสแ์ ละกบู ามผี ูน้ �ำ อยู่ 3 แบบคอื 1) ผูน้ �ำ แบบเนน้ สถาบนั
2) ผู้นำ�แบบเน้นบุคคล และ 3) ผู้นำ�แบบผสมผสาน
1) ผู้นำ�แบบเน้นสถาบัน (nomothetic leadership style) ผู้นำ�แบบนี้ยึดหลักสำ�คัญคือ การเน้น
บทบาทและความคาดหวังของสถาบัน เครื่องมือที่ใช้คือ กฎหมาย อำ�นาจ และระเบียบข้อบังคับของสถาบัน
บุคลากรมีหน้าที่ปฏิบัติตามบทบาทที่สถาบันกำ�หนดโดยเคร่งครัด
2) ผู้นำ�แบบเน้นบุคคล (ideographic leadership style) ผู้นำ�แบบนี้เน้นมิติบุคคล ยึดบุคลิกภาพ
และความต้องการของบุคคลเป็นหลัก เอาความต้องการของบุคคลเป็นที่ตั้ง และพยายามตอบสนองความ
ต้องการของบุคคล
3) ผู้นำ�แบบผสมผสาน (transactional leadership style) ผู้นำ�แบบนี้ยึดมิติทั้ง 2 มิติ เน้นทั้ง
สถาบันและบุคคล พยายามเน้นความสมดุล ไม่เคร่งครัดเกินไปหรือหย่อนเกินไป ในบางขณะอาจจะเน้นมิติ
ใดมิติหนึ่ง ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
งานวิจัยเกี่ยวกับภาวะผู้นำ�มีเป็นจำ�นวนมาก ตามทฤษฎีภาวะผู้นำ�แบบผสมผสานมีประสิทธิภาพ
สูง แต่อาจจะไม่เป็นจริงเสมอไป ทฤษฎีภาวการณ์ (Contingency Theory) ให้แนวคิดว่า สถานการณ์แตก
ต่างกันต้องการภาวะผู้นำ�ที่แตกต่างกัน ภาวะผู้นำ�แบบสถาบันและภาวะผู้นำ�แบบเน้นบุคคล มีประสิทธิภาพ
สูงหากใช้ให้ถูกต้องกับสถานการณ์