Page 84 - การวิจัยการบริหารการศึกษา หน่วยที่ 11
P. 84
11-74 การวิจัยการบริหารการศึกษา
โรบินสัน (Robinson. 1951 quoted in Merriam, Sharan B. 1998: 160–161) กำ�หนดข ั้นต อนใน
การวิเคราะห์แบบอ ุปนัยไว้ 5 ขั้นตอน ดังนี้
1) เริ่มต ้นการศ ึกษาด ้วยการตั้งส มมติฐานชั่วคราว
2) เก็บร วบรวมข้อมูลต ามประเด็นที่ต ั้งส มมติฐานช ั่วคราวไว้
2) ถ้าข้อมูลที่ได้ไม่เป็นไปตามสมมติฐานให้ปรับปรุงสมมติฐานใหม่ แต่ถ้าข้อมูลเป็นไปตาม
สมมติฐาน ให้เก็บรวบรวมข ้อมูลต ่อไปเพื่อน ำ�มาท ดสอบสมมติฐาน
4) พยายามค ้นหาข ้อมูลต ่อไป กรณีที่พบข ้อมูลท ี่ไม่ต รงกับส มมติฐานเพียงกรณีเดียวจ ะต้องปรับ
สมมติฐานให้ครอบคลุมแ ละส ามารถอธิบายข ้อมูลได้ทั้งหมด
5) ดำ�เนินก ารห าข ้อมูลแ ละป รับปรุงส มมติฐานต ่อไปจ นกว่าจ ะไดข้ ้อส รุปท ีส่ ามารถอ ธิบายข ้อมูลได้
ทั้งหมด
จากหลักการข้างต้น กรณีที่นักวิจัยทำ�วิจัยเรื่อง “การวิเคราะห์สาเหตุของการออกกลางคันของ
นักเรียนมัธยมศึกษา ในเขตอ ำ�เภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี” สามารถยกต ัวอย่างก ารนำ�หลักก ารวิเคราะห์
แบบอ ุปนัยม าใช้ให้เป็นรูปธ รรมได้ ดังนี้
ขั้นที่ 1 เริ่มต้นก ารศ ึกษาด ้วยการต ั้งสมมติฐานช ั่วคราว
นกั ว จิ ัยต ัง้ ส มมติฐานช ั่วคราวจ ากก ารท บทวนว รรณกรรมแ ละป ระสบการณข์ องน กั ว ิจยั จากง านว ิจัย
เรื่องด ังก ล่าว นักว ิจัยทบทวนว รรณกรรมแ ล้วพบว ่าส าเหตุห ลักที่น ักเรียนอ อกก ลางค ันม าจากค วามย ากจน
เรียนไมไ่หว สุขภาพไมด่ ี และต ้องอ อกไปช ่วยผ ูป้ กครองป ระกอบอ าชีพ ดังน ั้น ผูว้ ิจัยจ ึงต ั้งส มมติฐานช ั่วคราว
ของก ารอ อกก ลางค ันต ามป ระเด็นดังก ล่าว
ข้ันที่ 2 เก็บร วบรวมข ้อมูลต ามประเด็นท ี่ต ั้งสมมติฐานชั่วคราวไว้
จากสมมติฐานชั่วคราวในขั้นที่ 1 ผู้วิจัยเริ่มเก็บรวบรวมข้อมูลตามสมมติฐานนั้น โดยเก็บจากผู้มี
ส่วนเกี่ยวข้องท ั้งหมด คือ ตัวนักเรียนที่ออกกลางค ัน เพื่อน ๆ ของน ักเรียนท ี่ออกก ลางค ัน ครูป ระจำ�ชั้น ครู
ผู้สอน ผู้ปกครอง และญ าติของนักเรียนที่อ อกก ลางค ัน
ขนั้ ที่ 3 ถ้าข้อมูลที่ได้ไม่เป็นไปตามสมมติฐานให้ปรับปรุงสมมติฐานใหม่ แต่ถ้าข้อมูลเป็นไปตาม
สมมติฐาน ให้เก็บร วบรวมข้อมูลต่อไปเพื่อน ำ�มาท ดสอบส มมติฐาน
เมื่อน ักว ิจัยเก็บรวบรวมข ้อมูลต ามขั้นตอนท ี่ 2 แล้วพ บข ้อมูลท ี่ตรงตามสมมติฐานให้คงสมมติฐาน
นั้นไว้ เช่น พบว ่า มีน ักเรียนที่อ อกก ลางค ันเพราะค วามย ากจน เรียนไม่ไหว สุขภาพไม่ด ี และต ้องอ อกไปช ่วย
ผู้ปกครองประกอบอาชีพจริง แต่พบข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีเด็กนักเรียนออกกลางคันเพราะตั้งครรภ์และออก
ไปแต่งงานอีกจำ�นวนหนึ่งด้วย ดังนั้น นักวิจัยจึงปรับสมมติฐานเรื่องการตั้งครรภ์ และออกไปแต่งงานเป็น
สมมติฐานเพิ่มข ึ้นด้วย
ขัน้ ท่ี 4 พยายามค้นหาข้อมูลต่อไป กรณีที่พบข้อมูลที่ไม่ตรงกับสมมติฐานเพียงกรณีเดียวจะต้อง
ปรับสมมติฐานให้ครอบคลุมและส ามารถอธิบายข้อมูลได้ทั้งหมด
นักว ิจัยย ังค งห าข ้อมูลต ่อไป ตามส มมติฐานท ี่ป รับแ ล้ว ซึ่งต ่อม าพ บว ่าม ีเด็กน ักเรียนท ี่อ อกก ลางค ัน
เพราะท นค วามก ดดันท างส ังคมไมไ่ด้ เนื่องจากพ ่อแ มข่ องเด็กด ังก ล่าวป ่วยเป็นโรคเอดส์ ทำ�ให้เพื่อนน ักเรียน