Page 86 - การวิจัยการบริหารการศึกษา หน่วยที่ 11
P. 86

11-76 การวิจัยการบริหารการศึกษา

       1.2	 การ​วิเคราะห์​เน้ือหา คือ การ​วิเคราะห์​ข้อมูล​เอกสาร ที่​อิง​เข้า​กับ​วิธี​การ​เชิง​ปริมาณ โดย​ให้​
ความห​ มายต​ ามส​ าระท​ ปี​่ รากฏต​ ามเ​อกสาร ไมไ​่ ดม​้ ุง่ ค​ น้ หาค​ วามห​ มายท​ ลี่​ ึกซ​ ึง้ การว​ เิ คราะหล์​ ักษณะน​ ี้ ประกอบ​
ด้วยก​ ระบวนการ 3 ขั้นต​ อน คือ 1) การจ​ ำ�แนกป​ ระเภทข​ องเ​นื้อหา 2) การก​ ำ�หนดห​ น่วยข​ องเ​นื้อหาท​ ี่จ​ ะแ​ จงน​ ับ
และ 3) ดำ�เนิน​การแ​ จง​นับ ตัวอย่างข​ อง​นัก​วิชาการ​ที่เ​ชื่อใ​นแ​ นวทาง​นี้ คือ เบเรล​สัน (Berelson. 1952 อ้างถ​ ึง​
ใน สุภ​ างค์ จันท​ วาน​ ิช. 2537: 144) ซึ่งก​ ล่าวว​ ่า “การว​ ิเคราะหเ์​นื้อหา คือ เทคนิคก​ ารว​ ิจัยท​ ี่พ​ ยายามจ​ ะบ​ รรยาย​
เนื้อหาข​ องข​ ้อความห​ รือเ​อกสารโ​ดยใ​ชว้​ ิธกี​ ารเ​ชิงป​ ริมาณอ​ ย่างม​ รี​ ะบบแ​ ละเ​น้นส​ ภาพว​ ัตถุวิสัย (objectivity)”
ตาม​ความ​หมายน​ ี้ การว​ ิเคราะห์​เนื้อหา​สามารถน​ ำ�​มาใ​ช้​วิเคราะห์ข​ ้อมูลเ​ชิงค​ ุณภาพไ​ด้ เช่น น​ ำ�​มา​ใช้​วิเคราะห​์
ข้อความใ​นเ​อกสาร บทส​ นทนา หรือบ​ ทส​ ัมภาษณ์ เป็นต้น แต่ท​ ้ายท​ ี่สุดค​ ือก​ ารท​ ำ�ให้เ​นื้อหาเ​หล่าน​ ั้นแ​ สดงออก​
มา​ใน​รูป​ของ​ข้อมูล​ตัวเลข ซึ่ง​งาน​วิจัย​ทาง​สังคมศาสตร์​ทั่วไป มัก​จะ​พบ​การ​วิเคราะห์​เนื้อหา​ใน​ลักษณะ​นี้​
เสมอ ๆ ที่พ​ บม​ ากค​ ือก​ ารนำ�​มาใ​ช้ว​ ิเคราะห์ค​ ำ�​ตอบจ​ ากค​ ำ�ถามป​ ลายเ​ปิดใ​นแ​ บบสอบถามก​ ารว​ ิจัย โดยก​ ารอ​ ่าน​
จับ​ประเด็นจ​ ากค​ ำ�ถาม​ปลายเ​ปิดแ​ ล้วใ​ห้ค​ วามถี่​กับป​ ระเด็นเ​หล่า​นั้น

2. 	แนวทาง​ทเ​่ี กยี่ วขอ้ ง​กบั ​การ​วิเคราะห์เ​นอ้ื หา

       ดัง​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​เรื่อง​ก่อน​หน้า​นี้ ว่า​หลัก​ของ​การ​วิเคราะห์​ข้อมูล​เชิง​คุณภาพ​คือ การ​วิเคราะห์​แบบ​
อุปนัย และว​ ิธีก​ ารห​ ลักใ​นก​ ารว​ ิเคราะหข์​ ้อมูลเ​ชิงค​ ุณภาพค​ ือก​ ารว​ ิเคราะห์เ​นื้อหา โดยก​ ารว​ ิเคราะห์เ​นื้อหาย​ ังม​ ​ี
แนวทางส​ �ำ คญั อกี 2 แนวทาง คอื การว​ เิ คราะหโ​์ ดยก​ ารจ​ �ำ แนกช​ นดิ ข​ อ้ มลู และการว​ เิ คราะหโ​์ ดยก​ ารเ​ปรยี บเ​ทยี บ​
ข้อมูล ดัง​รายล​ ะเอียด​ต่อ​ไป​นี้

       2.1 	การว​ เิ คราะห์โ​ดยจ​ �ำ แนกช​ นดิ ข​ ้อมลู (typological analysis) เป็นการว​ ิเคราะห์ท​ ี่ม​ ุ่งจ​ ำ�แนกข​ ้อมูล​
ออกเ​ป็นช​ นิด ๆ ซึ่งส​ ุ​ภางค์ จัน​ทวา​นิช (2537: 134–137) สรุปก​ ารจ​ ำ�แนกข​ ้อมูล​ไว้ 2 แบบ คือ

            2.1.1	 แบบ​ใช้​ทฤษฎี เป็นการ​จำ�แนก​ชนิด​ของ​ข้อมูล​ตาม​ที่ Loftland (1951) เสนอ​ไว้ คือ
จำ�แนกข​ ้อมูลอ​ อกเ​ป็น 6 ชนิด คือ 1) การกร​ ะท​ ำ� (acts) 2) กิจกรรม (activities) 3) ความห​ มาย (meaning)
4) ความ​สัมพันธ์ (relationship) 5) การ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​กิจกรรม (participation) และ 6) สภาพ​สังคม
(setting)

            2.1.2	 แบบ​ไม่​ใช้​ทฤษฎี เป็นการ​จำ�แนก​ข้อมูล​ตาม​ความ​เหมาะ​สม​กับ​ข้อมูล​หรือ​ตาม​
ประสบการณ์​ที่​นัก​วิจัย​กำ�หนด​ขึ้น เช่น ​จำ�แนก​ชนิด​ของ​ข้อมูล​ตาม​ช่วง​เวลา สถาน​ที่ ผู้​ให้​ข้อมูล หรือ​วิธี​ใน​
การ​เก็บร​ วบรวมข​ ้อมูล เป็นต้น

       2.2	 การ​วเิ คราะห์​โดย​การ​เปรียบ​เทียบ​ขอ้ มูล (comparative analysis) เป็นการ​วิเคราะห์เ​ชิง​เปรียบ​
เทียบ โดย​นัก​วิจัย​นำ�​ข้อมูล​ตั้งแต่ 2 กรณี​ขึ้น​ไป​มา​เปรียบ​เทียบ​กัน โดย​การ​เปรียบ​เทียบ​ดัง​กล่าว​มุ่ง​ค้นหา​
ว่าข​ ้อมูลน​ ั้น ๆ มี​ความ​เหมือน หรือแตก​ต่าง​กันอ​ ย่างไร เช่น งานว​ ิจัย​เรื่อง​การว​ ิเคราะห์​ปัจจัยท​ ี่ส​ ่งเ​สริม​และ​
ปัจจัยท​ ีเ่​ป็นอ​ ุปสรรคต​ ่อก​ ารม​ สี​ ่วนร​ ่วมข​ องช​ ุมชนก​ ับโ​รงเรียนป​ ระถมศ​ ึกษาใ​นเ​ขตป​ ริมณฑล​กรุงเทพมหานคร
(ชูชาติ พ่วงส​ มจ​ ิตร์. 2540) ซึ่งศ​ ึกษา​จาก​สถานศ​ ึกษา 2 แห่ง ที่​มี​บริบท​ใกล้​เคียงก​ ัน​แต่ช​ ุมชนเ​ข้า​มา​มีส​ ่วนร​ ่วม​
ต่าง​กัน การ​วิเคราะห์​ข้อมูล​ใน​งาน​วิจัย​ดัง​กล่าว​เป็นการ​วิเคราะห์​เนื้อหา​โดย​การ​เปรียบ​เทียบ​ให้​เห็น​ความ​
เหมือน​และค​ วามแ​ ตก​ต่างข​ อง​กรณี​ศึกษา 2 แห่ง ทั้งใ​น​เรื่องข​ องป​ ระวัติ​ความเ​ป็น​มา สถาน​ที่ต​ ั้ง อายุใ​น​การ​
   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91