Page 91 - การวิจัยการบริหารการศึกษา หน่วยที่ 11
P. 91

การว​ ิเคราะห์แ​ ละ​การ​แปล​ผล​ข้อมูล 11-81

            3.	 เมื่อ​ได้ข​ ้อมูล​แบบ ข. ซึ่ง​ตรง​กันข​ ้ามก​ ับข​ ้อมูล​แบบ ก. แล้ว นัก​วิจัย​ยังต​ ้องหา​ข้อมูลท​ ี่แ​ ตก​
ต่างจ​ ากแ​ บบ ก. และ แบบ ข. ต่อ​ไป โดยเ​รียกข​ ้อมูล​ข้อมูลช​ นิด​นี้ว​ ่า ข้อมูล​แบบ ค. (synthesis) วิธี​การห​ า​
ข้อมูลแ​ บบ ค. นี้​ใช้ห​ ลักก​ ารเ​ดียวกันก​ ับ​วิธี​การ​หา​ข้อมูล​แบบ ข. โดยถ​ ือว่าข​ ้อมูล​ใด ๆ ก็ตาม​ที่แ​ ตกต​ ่างจ​ าก​
ข้อมูล​แบบ ก. และข​ ้อมูลแ​ บบ ข. จัด​ว่า​เป็นข​ ้อมูล​แบบ ค. ทั้งส​ ิ้น และข้อมูล​แบบ ค. นี้เ​องท​ ี่ช​ ่วย​อธิบาย​ถึง​
เงื่อนไขห​ รือเ​หตุผลข​ อง​ข้อมูล​แบบ ก. และ ข้อมูลแ​ บบ ข.

            2.1.2	 การต​ รวจส​ อบข​ อ้ มลู ด​ ว้ ยว​ ธิ ก​ี ารอ​ น่ื นอกจากก​ ารต​ รวจส​ อบแ​ บบส​ ามเ​ส้าแ​ ล้ว ยงั ม​ วี​ ิธก​ี าร​
ตรวจส​ อบข​ ้อมูลใ​นก​ าร​วิจัย​เชิง​คุณภาพ​อีกห​ ลาย​วิธี ซึ่ง Merriam (1998: 204-205) เสนอไ​ว้​อีก 5 วิธี คือ

                1)	 การนำ�​ข้อมูลก​ ลับไ​ปใ​ห้ผ​ ู้ใ​ห้ข​ ้อมูลต​ รวจส​ อบ (member checks) เป็นการน​ ำ�​ข้อมูล​
หรือส​ ิ่งท​ ีต่​ ีความจ​ ากข​ ้อมูลก​ ลับไ​ปใ​หผ้​ ูใ้​หข้​ ้อมูลห​ รือส​ มาชิกใ​นช​ ุมชนท​ ีศ่​ ึกษาต​ รวจส​ อบว​ ่าต​ รงต​ ามค​ วามห​ มาย​
ของค​ นในช​ ุมชน

                 2)	 การส​ ังเกตด​ ้วยร​ ะยะเ​วลาท​ ี่ย​ าวนาน (long-term observation) คือ​การใ​ช้เ​วลาอ​ ยู​่
ใน​สนาม​วิจัยใ​ห้ย​ าวนานเ​พียง​พอที่​จะ​ตรวจส​ อบซ​ ํ้าจ​ นแ​ น่ใจ​ว่า​ได้ข​ ้อมูลท​ ี่ไ​ด้​ตรงค​ วามเ​ป็นจ​ ริง

                 3)	 การใ​ห้ก​ ลุ่มร​ ่วมต​ รวจส​ อบ (peer examination) คือ การใ​ห้ส​ มาชิกใ​นก​ ลุ่มน​ ักว​ ิจัย​
ให้​ความ​เห็นต​ ่อ​ข้อ​ค้นพ​ บ

                 4)	 การ​ให้​ผู้​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​วิจัย​ช่วย​สรุป​ผล (participatory or collaborative
modes of research) คือ การ​ให้​กลุ่ม​นัก​วิจัย​และ​สมาชิก​ใน​ชุมชน​ที่​วิจัย​ช่วย​กัน​สรุป​หรือ​ให้​ความ​หมาย​
ข้อมูล ซึ่ง​วิธี​การ​นี้​เหมาะก​ ับก​ ารว​ ิจัย​แบบม​ ี​ส่วนร​ ่วม (participatory research)

                5)	 การใ​ห้​นัก​วิจัยน​ อก​ทีมช​ ่วยต​ รวจส​ อบ​ความม​ ี​อคติ (researcher’s bias) หมาย​ถึง
การใ​ห้น​ ักว​ ิจัยท​ ี่ไ​ม่ไ​ด้อ​ ยู่ใ​นก​ ลุ่มท​ ี่เ​ก็บร​ วบรวม​ข้อมูลช​ ุดน​ ี้เ​ป็นผ​ ู้อ​ ่านแ​ ละต​ รวจส​ อบว​ ่าการต​ ีความแ​ ละข​ ้อส​ รุป​
ที่​ได้​เกิดจ​ ากอ​ คติข​ อง​นัก​วิจัย​หรือ​ไม่

       2.2	 การ​ทำ�​ดัชนี​ข้อมูล (indexing) เมื่อ​นัก​วิจัย​ได้​ข้อมูล​มา​แล้ว ไม่​ว่า​จะ​เป็น​บันทึก​การ​สัมภาษณ์
การส​ ังเกต การส​ นทนา​กลุ่ม หรือข​ ้อมูลอ​ ื่น ๆ สิ่งท​ ี่น​ ักว​ ิจัย​ควรก​ ระทำ�​คือ การ​วิเคราะห์​ข้อมูล​เบื้อง​ต้น​ซึ่ง​ควร​
ทำ�​ทุก​วันท​ ี่ไ​ด้ข​ ้อมูล​มา โ​ดยข​ ั้นแ​ รก​ของก​ ารว​ ิเคราะห์​ข้อมูล​เบื้อง​ต้น คือ การท​ ำ�​ดัชนีข​ ้อมูล (indexing)

       การท​ ำ�​ดัชนี​ข้อมูลอ​ าจ​เรียกช​ ื่ออ​ ย่างอ​ ื่นไ​ด้​อีก เช่น การ​ทำ�​รหัส (coding) การ​กำ�หนด​คำ�​หลัก (key
words) หรอื ก​ ารค​ น้ หาป​ ระเดน็ (finding item) เปน็ ตน้ โดยค​ วามห​ มายข​ องก​ ารท​ �ำ ​ดชั นข​ี อ้ มลู ก​ ค​็ อื ก​ ารเ​ลอื กค​ �ำ
หรือ​ข้อความ​มา​จัด​หมวด​หมู่​ข้อมูล โดย​คำ�​หรือ​ข้อความ​ดัง​กล่าว​มี​ความ​หมาย​ครอบคลุม​ข้อมูล​ส่วน​นั้น ๆ
ในก​ าร​ทำ�​ดัชนี​ข้อมูลน​ ั้น ผู้​เขียนใ​ช้​กระบวนการ 5 ขั้นต​ อน​ของ สุ​ภางค์ จันท​ วา​นิช (2543: 45–46) ซึ่งม​ ี​วิธี​การ​
โดยส​ รุป​ดังนี้

            2.2.1	 จดั ท​ �ำ ​ดชั นก​ี อ่ นเ​กบ็ ข​ อ้ มลู เปน็ การส​ รา้ งร​ ายการข​ องค​ �ำ หรอื ข​ อ้ ความ ไวช​้ ดุ ห​ นึง่ ป​ ระมาณ
80–90 คำ� เพื่อ​นำ�​มา​ใช้​เป็น​ดัชนี​ของ​ข้อมูล โดย​คำ�​ดังก​ ล่าว​มาจ​ าก​กรอบแ​ นวคิด​ทฤษฎีต​ ่าง ๆ ที่น​ ัก​วิจัย​ศึกษา​
ไว้​ก่อน​ที่​จะ​เก็บ​รวบรวม​ข้อมูล ตัวอย่าง​เช่น การ​ทำ�​วิจัย​เรื่อง “สภาพ​ปัญหา​และ​แนวทาง​แก้​ปัญหา​การ​จัด
การ​เรียน​การ​สอน​ที่​ส่ง​ผล​ต่อ​การ​พัฒนา​คุณภาพ​ผู้​เรียน​ใน​ระดับ​การ​ศึกษา​ขั้น​พื้น​ฐาน” ดัชนี​อาจ​แบ่ง​เป็น
2 กลุ่มใ​หญ่ ๆ คือ 1) กลุ่ม​ดัชนีท​ ี่ร​ ะบุส​ ภาพแ​ ละป​ ัญหาใ​นก​ ารจ​ ัดการเ​รียนก​ ารส​ อน และ 2) กลุ่ม​ดัชนแี​ นวทาง​
การแ​ ก้ป​ ัญหา​การ​จัดการเ​รียน​การส​ อน
   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95   96