Page 25 - การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาไทย
P. 25

หลักและแนวคิดในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาไทยระดับประถมศึกษา 1-15

เรอ่ื งท่ี 1.2.2 	 แนวคดิ ของเอ็ดเวิร์ด แอล ธอร์นไดค์

       เอ็ดเวิร์ด แอล ธอร์นไดค์ (Edward L. Thorndike) เป็นนักการศึกษาชาวอเมริกันที่มีชีวิตอยู่ใน
ยุคใกล้เคียงกับดิวอี เป็นเจ้าของทฤษฎีการเรียนรู้ (Learning Theory) ประกอบด้วย กฎแห่งความพร้อม
(Law of Readiness) กฎแห่งผล (Law of Effect) และกฎแห่งการฝึกหัด (Law of Exercise) ซึ่งกฎทั้ง
สามข้อยังคงใช้กันอย่างแพร่หลายจนถึงยุคปัจจุบัน

ปรชั ญาการศึกษาของธอรน์ ไดค์

       ธอร์นไดค์เชื่อในศาสตร์ของการศึกษา โดยระบุว่าการศึกษาเป็นศาสตร์ที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ
เพราะจะสามารถจัดการงานทุกอย่างให้สำ�เร็จลุล่วงไปได้ โดยรู้ว่าจะสอนอะไร สอนอย่างไร และประเมินผล
โดยใช้วิธีวัดใดบ้าง เป้าหมายของการจัดการศึกษาจะบรรลุผลได้ด้วยดีและมีประสิทธิภาพก็ต้องอาศัยผู้
เชี่ยวชาญเป็นผู้ดำ�เนินงานเท่านั้น ผลการวิจัยของธอร์นไดค์ได้แสดงให้เห็นว่า การเพิ่มพูนสติปัญญาให้กับ
ผู้เรียนสามารถกระทำ�ได้โดยให้เรียนวิชาที่มีเนื้อหายาก ได้แก่ คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ส่วนวิชาอื่นๆ
เป็นเพียงช่วยเสริมสติปัญญา สำ�หรับวิชาที่มีเนื้อหายากสามารถนำ�มาแยกย่อยให้ง่ายขึ้นเพื่อสะดวกต่อการ
เรียนรู้ของผู้เรียน

ทฤษฎกี ารเรียนร้ขู องธอรน์ ไดค์ส่กู ารจัดประสบการณ์การเรยี นรู้

       ธอรน์ ไดค์ ไดเ้ สนอทฤษฎกี ารเรยี นรูซ้ ึง่ เกีย่ วขอ้ งกบั กฎอยู่ 3 ขอ้ เพือ่ น�ำ มาใชใ้ นการจดั ประสบการณ์
การเรียนรู้ให้กับผู้เรียนโดย ออซุเบล (Ausubel, 1959: 245-254) ได้อธิบายกฎทั้งสามข้อไว้ ดังนี้

       1) 	กฎแห่งความพร้อม (Law of Readiness) หมายถึงเมื่อผู้เรียนมีความพร้อมที่จะเรียนก็จะเกิด
ความพอใจในการร่วมกิจกรรมการเรียน ตรงกันข้ามผู้เรียนที่ไม่พร้อมจะเรียนก็จะเกิดความรู้สึกต่อต้านไม่
ต้องการเรียน ซึ่งแสดงออกทางสีหน้าและท่าทาง สำ�หรับความพร้อมในการเรียนนั้นหมายถึง การเตรียมตัว
เพื่อร่วมกิจกรรมการเรียน ความพร้อมมีองค์ประกอบที่ซับซ้อนเพราะเกี่ยวข้องกับสติปัญญา วุฒิภาวะ และ
ประสบการณข์ องผูเ้ รยี น ความพรอ้ มของผูเ้ รยี นแตล่ ะคนจะพฒั นาแตกตา่ งกนั ดงั นัน้ ในการจดั ประสบการณ์
การเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนจึงจำ�เป็นต้องคำ�นึงถึงความพร้อมในแต่ละวัยที่มีความแตกต่างกัน ด้วยเหตุนี้
การจัดเนื้อหาที่เป็นความรู้ต้องปรับให้เหมาะสมกับความพร้อม ส่วนการจัดกิจกรรมการเรียนในระดับ
ประถมศึกษาตอนต้น (ป.1-3) ต้องมีการเตรียมความพร้อมโดยสร้างความสนใจเพื่อเร้าให้ผู้เรียนหันเหสู่
บทเรียน ส่วนจำ�นวนเวลาที่ใช้ในการเรียนแต่ละครั้งก็ต้องสอดคล้องกับความพร้อมของผู้เรียนเช่นเดียวกัน
เช่น กิจกรรมการเรียนการสอนสำ�หรับผู้เรียนชั้นประถมศึกษาตอนต้น (ป.1-3) ใช้เวลาสอนไม่เกินครั้งละ
1 ชั่วโมง และนักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย (ป.4-6) ใช้เวลาสอนไม่เกินครั้งละ 2 ชั่วโมง
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30