Page 76 - สารัตถะและวิทยวิธีทางสังคมศึกษา
P. 76

8-66 สารัตถะและวิทยวิธีทางสังคมศึกษา

                          - กำ�หนดทางออกที่เป็นทางเลือก
                          - ประเมินทางออกที่เป็นทางเลือก
                          - พัฒนาแผนการดำ�เนินงาน
                          - ดำ�เนินงานตามแผน
                          - ประเมินผลการดำ�เนินงาน
                     (4) จดุ เนน้ ของโปรแกรม (emphasis of programme) ในแบบจำ�ลองสงิ่ แวดลอ้ ม
ศึกษาน้ีได้เสนอแนะว่ากิจกรรมสำ�หรับโปรแกรมนี้ควรจะได้มุ่งเน้นทั้งในด้านการพัฒนาความรู้สึก ความรู้
และทกั ษะ โดยในระดับน้นั ๆ จะเนน้ ท่คี วามรสู้ กึ มากกว่ความร้แู ละทักษะซงึ่ เน้นในระดบั มธั ยมศึกษาทสี่ งู ข้นึ
ไป อยา่ งไรกต็ าม แบบจำ�ลองนี้ได้ก�ำ หนดจดุ เนน้ ของโปรแกรมเอาไว้ 4 เร่อื งด้วยกนั คอื ความรสู้ กึ ท่ีมตี อ่ สง่ิ
แวดลอ้ ม (environmental sensitivity) ความรู้ (factual knowledge) ทกั ษะในการแกป้ ญั หา (problem
solving skills) และปรชั ญาเกยี่ วกบั โลก (planet earth philosophy) โดยการเนน้ เรอ่ื งความรสู้ กึ ความรู้ และ
ทกั ษะซง่ึ จะแปรผนั ไปตามล�ำ ดบั ของผเู้ รียน ในขณะที่เร่อื งราวของปรัชญานั้นจะคงท่ี ดว้ ยเหตุท่ีวา่ นักเรียนใน
กลุ่มเด็กเล็กนั้นมีความสามารถในการจับเรื่องราวท่ีเป็นนามธรรมอย่างจรรยาบรรณของโลกได้ยาก ดังนั้น
นกั เรยี นในระดบั ประถมศกึ ษานนั้ ควรจะไดเ้ รยี นรเู้ พอ่ื ทจ่ี ะไดเ้ กดิ ความซาบซง้ึ และยอมรบั ในเรอื่ งของทรพั ยากร
และส่งิ แวดลอ้ ม ซง่ึ จะทำ�ใหน้ ักเรียนเหล่าน้ีมีความรู้สึกตอ้ งการเรยี นร้มู ากขน้ึ และตอ้ งการท่จี ะปกป้องสิง่ ที่เขา
มคี วามซาบซง้ึ อยา่ งไรกต็ าม ในการพฒั นาโปรแกรมสง่ิ แวดลอ้ มกม็ ขี อ้ ทค่ี วรระวงั ไวด้ ว้ ย เนอื่ งจากแบบจ�ำ ลอง
นีเ้ ป็นแบบจ�ำ ลองที่สะสมความรู้ มโนมตมิ าต้ังแตป่ ระถม ดงั น้นั นกั เรียนบางคนที่เข้ามาใหม่ หรอื การใช้แบบ
จ�ำ ลองนก้ี บั นกั เรยี นในระดบั สงู อาจจะท�ำ ใหน้ กั เรยี นมคี วามรพู้ น้ื ฐานไมเ่ พยี งพอครจู งึ ควรจะตอ้ งมกี ารเตรยี ม
ชว่ ยนกั เรยี นในสว่ นนีด้ ้วย
                3) แบบจำ�ลองการเรียนการสอน (teaching learning models) แบบจำ�ลองการเรียน การ
สอนสิ่งแวดล้อมศึกษานี้ได้หลีกเลี่ยงการสอนแบบที่ใช้กันอยู่ ซึ่งครูจะเป็นผู้ให้ความรู้แก่นักเรียน เป็นการ
สอนซึ่งทั้งครูและนักเรียนจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กันตลอดเวลา ด้วยเหตุที่ได้มีผลงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า
ครูนั้นจะทำ�งานได้มีประสิทธิภาพอย่างสูงเมื่อครูได้เป็นผู้แนะนำ�และเป็นที่ปรึกษาในฐานะสมาชิกของกลุ่ม
การเรียน แทนการเป็นผู้แสดงอยู่คนเดียว นั่นหมายถึงว่างานหลายๆ อย่างซึ่งเดิมครูเป็นผู้ทำ�นั้น ควรจะได้
เปลี่ยนให้นักเรียนได้เป็นผู้ทำ�บ้าง เพื่อที่จะให้นักเรียนได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนนั้น การ
ตัดสินใจในการทำ�กิจกรรมว่าจะทำ�อะไร และใครจะเป็นคนทำ�นั้น ควรให้นักเรียนเป็นผู้ตัดสินใจภายใต้การ
แนะนำ�หรือการปรึกษากับครู ซึ่งบทบาทของทั้งครูและนักเรียนได้แสดงไว้ในภาพที่ 8.2 ดังนี้
   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81