Page 83 - สารัตถะและวิทยวิธีทางสังคมศึกษา
P. 83

สิ่งแวดล้อมศึกษา: การประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนสังคมศึกษา 8-73

สัมพันธักันกับสิ่งแวดล้อมอันเป็นตัวเลือก ซึ่งที่จริงแล้วการตัดสินใจเลือกทำ�ในสิ่งใดๆ นั้นควรจะได้เป็นการ
เลือกซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของค่านิยมที่มีอยู่ แต่บ่อยครั้งที่การตัดสินใจของคนจำ�นวนมาก โดยเฉพาะอย่าง
ยิง่ นักเรยี นนั้นมกั จะไม่ชัดเจนในค่านิยมของตวั เอง ซึ่งโดยวธิ กี ารสร้างคา่ นยิ มให้ชดั เจนนีจ้ ะช่วยใหน้ ักเรียน
ได้มีความตระหนักในความเชื่อ ทัศนคติ และค่านิยมมากขึ้น รู้จักพิจารณาและชั่งนํ้าหนักระหว่าข้อดีและ
ข้อเสีย รวมถึงผลที่ตามมาของแต่ละทางเลือกด้วย รวมทั้งจะรู้จักพิจารณาด้วยว่าการกระทำ�ของนักเรียน
เองนั้นสอดคล้องกับค่านิยมซึ่งตั้งอยู่บนจรรยาบรรณสิ่งแวดล้อมหรือไม่ หากไม่ควร จะทำ�อย่างไร ฉะนั้น
โดยวิธีการนี้จึงควรให้โอกาสนักเรียนในการประเมินทางเลือกด้วยตนเอง เพื่อนักเรียนจะได้พัฒนาค่านิยมที่
ถูกต้องให้แก่ตนเองได้ สำ�หรับกระบวนการสอนโดยวิธีการนี้ก็ควรมีการวิเคราะห์ เปรียบเทียบ จัดลำ�ดับ
ความสำ�คัญ วิเคราะห์สถานการณ์ ให้นักเรียนได้แสดงบทบาทโดยการโต้เถียง และการอภิปราย

                (7) สถานการณ์จำ�ลองและเกม (simulations and games) วิธีการนี้ค่อนข้างเป็นวิธีการที่
มีประสิทธิภาพในการสร้างทัศนคติหรือเปลี่ยนแปลงทัศนคติของนักเรียน โดยให้มีการแลกเปลี่ยนความคิด
เห็นและค่านิยมระหว่างครูและนักเรียนในสถานการณ์ที่จำ�ลองขึ้นในห้องเรียน ดังนั้น การกำ�หนดกิจกรรม
จึงเป็นเรื่องสำ�คัญ เพราะจะแสดงถึงประโยชน์ที่พึงมีต่อการเรียนการสอนสิ่งแวดล้อมศึกษา แต่ไม่ว่าจะเป็น
กิจกรรมประเภทใดก็ตาม จำ�เป็นที่จะต้องช่วยส่งเสริมทัศนคติของการเอาใจใส่ ความยินดีที่จะทำ� และความ
พร้อมที่จะสนับสนุนการมีชีวิตอยู่อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติแทนความคิดทำ�ลาย นอกจากนั้น ยังต้องส่ง
เสริมความรู้สึกว่า สิ่งมีชีวิตจะต้องพึ่งพากันและมีความสัมพันธ์ต่อกันด้วย

                ส�ำ หรบั กจิ กรรมทีใ่ หน้ กั เรยี นมโี อกาสแสดงบทบาทสมมตนิ ี้ จะชว่ ยฝกึ นกั เรยี นเกีย่ วกบั
การตัดสินใจด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมาก กล่าวคือ นักเรียนจะได้เรียนรู้ในการนำ�เอาหลักการในการแก้ปัญหา
มาใช้ และโดยการสมมตบิ ทบาทหนา้ ทีซ่ ึง่ จะตอ้ งรบั ผดิ ชอบสงั คม กจ็ ะท�ำ ใหน้ กั เรยี นไดเ้ ขา้ ใจในความซบั ซอ้ น
ของการตดั สนิ ใจใดๆ ทเี่ กยี่ วกบั ปญั หาสงิ่ แวดลอ้ ม เขา้ ใจในความยากล�ำ บาก และการสญู เสยี เวลากวา่ จะตดั สนิ
ใจแก้ปัญหาหนึ่งปัญหาใดได้ ทั้งนี้ เนื่องจากตัวแปรสิ่งแวดล้อมจำ�นวนมากที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้น ความ
คิดเห็นที่ขัดแย้งกันระหว่างบุคคลและกลุ่มบุคคลที่มีค่านิยมต่างกันก็จะเป็นปัญหาสำ�คัญต่อการตัดสินใจ
ด้วยเหมือนกัน

                (8) การใชท้ รพั ยากรในชมุ ชน (community resource use) ส�ำ หรบั กระบวนการสงิ่ แวดลอ้ ม
ศึกษานั้นสามารถที่จะทำ�ให้ชุมชนเป็นแหล่งของความรู้เพื่อการเรียนที่มีประสิทธิภาพได้ ทั้งนี้ โดยการให้
นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาจริงๆ ในชุมชน ปัญหาเหล่านี้ที่จริงแล้วมักจะสัมพันธ์กันกับความต้อง
การจรงิ ๆ ของสงั คม เชน่ ในโครงการพฒั นาชนบทดว้ ยตนเอง อาจจะมกี จิ กรรมใหน้ กั เรยี นชว่ ยเกบ็ เงนิ สรา้ งที่
เกบ็ นํา้ ใหโ้ รงเรยี น ปลกู ตน้ ไมร้ อบโรงเรยี น ปรบั ปรงุ ความสะอาดของหอ้ งนํา้ โรงเรยี น จดั กจิ กรรมสนั ทนาการ
ในชุมชน หรือจัดให้มีการดูแลคนแก่และนักเรียน ฯลฯ กิจกรรมเหล่านี้จะสร้างโอกาสให้นักเรียนได้ออกไป
นอกห้องเรียนสัมผัสกับชุมชนที่นักเรียนเป็นส่วนหนึ่ง

                (9) กิจกรรม “คิดด้วยกัน แต่แยกกันทำ�” ประชาชนทั่วไปมักคิดว่าปัญหาสิ่งแวดล้อม
ประกอบด้วย ปัญหามลพิษ ปัญหาการบุกรุกทำ�ลายป่า การล่าสัตว์ป่า สารเคมีตกค้าง และมักมีความเข้าใจ
ผิดว่าประชาชนแต่ละคนสามารถแก้ไขปัญหา หรือป้องกันปัญหาสิ่งแวดล้อมได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ควร
   78   79   80   81   82   83   84   85   86   87   88