Page 29 - การพัฒนาทักษะและประสบการณ์วิชาชีพ สำหรับผู้นำทางการศึกษา
P. 29

มนุษยสัมพันธ์​และ​การ​พัฒนา​ทีมง​ าน 4-19

เร่อื งท​ ่ี 4.2.1	 มนุษยสัมพนั ธก์​ บั ​ภาวะผ​ ้นู �ำ ท​ างการศ​ ึกษา

       ผู้​บริหาร​ที่​มี​ภาวะ​ผู้นำ�จะ​เป็น​ผู้​ที่​มี​ความ​สามารถ​ใน​การ​โน้ม​น้าวหรือ​จูงใจ​ให้​บุคคล​ที่​ทำ�งาน​ใน​
องค์การ​คล้อย​ตาม แม้ว่า​ผู้​บริหาร​จะ​มี​อำ�นาจ​ตาม​กฎหมาย​สามารถ​สั่ง​การหรือ​ควบคุม แต่​ใน​บทบาท​ของ​
ผูบ้​ ริหารท​ ีม่​ ภี​ าวะผ​ ู้นำ�​ในต​ ัวส​ ูง จะม​ วี​ ิธกี​ ารท​ ีจ่​ ะท​ ำ�ใหผ้​ ูร้​ ่วมง​ านม​ คี​ วามส​ ุขก​ ับก​ ารท​ ำ�งานใ​หบ้​ รรลเุ​ป้าห​ มาย และ​
มี​สัมพันธภาพท​ ี่ด​ ีร​ ะหว่างส​ มาชิก​ใน​องค์การด​ ้วย

       ดังน​ ั้นผ​ ูบ้​ ริหารจ​ ึงต​ ้องใ​หค้​ วามส​ นใจใ​นพ​ ฤติกรรมข​ องผ​ ูป้​ ฏิบัตงิ​ าน เพราะพ​ ฤติกรรมด​ ังก​ ล่าวจ​ ะม​ ผี​ ล​
ไม่เ​ฉพาะใ​นก​ ารเ​อื้ออ​ ำ�นวยต​ ่อก​ ารป​ ฏิบัติ​งานใ​ห้บ​ รรลุเ​ป้าห​ มายเ​ท่านั้น แต่บ​ างพ​ ฤติกรรม​อาจม​ ีผ​ ลใ​นแ​ ง่ท​ ี่เ​ป็น​
อุปสรรค​ได้ หากผ​ ู้บ​ ริหาร​เข้าใจแ​ ละ​ตระหนัก​ใน​ความส​ ำ�คัญ​ดัง​กล่าว และ​ใช้​ศิลปะ​ใน​การท​ ำ�งาน​โดยย​ ึด​หลัก​
พฤติกรรม​ศาสตร์ ก็จ​ ะ​ทำ�ให้​การ​บริหาร​เป็น​ไปด​ ้วย​ความร​ าบร​ ื่น เกิด​ประโยชน์ส​ ูงสุด

       ทัศนะด​ ังก​ ล่าว หมายถ​ ึงก​ ารท​ ีผ่​ ู้นำ�​จะต​ ้องร​ ่วมก​ ันป​ ฏิบัตงิ​ านใ​นห​ น่วยง​ านท​ ั้งใ​นฐ​ านะส​ มาชิกแ​ ละร​ ิเริ่ม​
ให้​เกิดก​ าร​วางแผน​งาน กำ�หนด​เป้าห​ มาย และก​ าร​สร้างภ​ าวะจ​ ูงใจ​เพื่อ​สนอง​ความต​ ้องการ​ให้​แก่​สมาชิก เพื่อ​
ให้การป​ ฏิบัตงิ​ านเ​กิดป​ ระสิทธิผล ผู้นำ�​จึงเ​สมือนห​ นึ่งต​ ัวกลางใ​นก​ ารป​ ระสานง​ านร​ ะหว่างอ​ งค์การแ​ ละผ​ ูป้​ ฏิบัต​ิ
งานใ​ห้ม​ ีค​ วามป​ ระสานส​ อดคล้อง ทั้งใ​นด​ ้านค​ วามต​ ้องการส​ ่วนบ​ ุคคล วิธกี​ ารป​ ฏิบัตงิ​ าน และเ​ป็นต​ ัวกลางท​ ีจ่​ ะ​
ขจัดข​ ้อข​ ัดแ​ ย้งร​ ะหว่างอ​ งค์การก​ ับบ​ ุคคลใ​นก​ ารป​ ฏิบัติง​ าน ผู้นำ�​จึงม​ ีค​ วามส​ ำ�คัญต​ ่อค​ วามส​ ำ�เร็จข​ องง​ าน​ พอๆ
กับ​การ​ใช้เ​ทคนิคใ​นก​ าร​ทำ�งาน​นั่นเอง

       แบบแผน​หรือพ​ ฤติกรรมก​ าร​บริหารข​ องผ​ ู้บ​ ริหารย​ ่อม​แตก​ต่างก​ ัน​ไปต​ ามบ​ ุคลิกภาพ อุปนิสัย​ใจคอ
ปรัชญาห​ รือแ​ นวค​ วามเ​ชื่อ ซึ่งก​ ำ�หนดว​ ิธกี​ ารท​ ำ�งานแ​ ตกต​ ่างก​ ันไ​ปต​ ามล​ ักษณะเ​ฉพาะต​ น เฉพาะค​ น เฉพาะง​ าน
โดยท​ ั่วไปย​ อมรับ​กันว​ ่า​มี​ลักษณะส​ ำ�คัญ​อยู่ 3 ลักษณะ คือ (ธรรม​รส โชติ​กุญชร 2548: 114-115)

       1. 	 อัตน​ ิยม (Autocratic, Authoritarian, Leader Centered)
       2. 	ประชาธิปไตย (Participative, Democratic, Group Centered) และ
       3. 	เสรีนิยม (Laissez-Faire, Free-Rein)
       ผู้บ​ ริหารท​ ั้ง 3 แบบน​ ี้ ย่อมใ​ห้ผ​ ลด​ ีแ​ ละผ​ ลเ​สียต​ ่างก​ ันไ​ป การเ​ป็นผ​ ูบ้​ ริหารอ​ ัตน​ ิยม ภาวะก​ ารจ​ ูงใจแ​ ละ​
ผลต​ อบแทนท​ างจ​ ิตใจแ​ ก่ผ​ ู้นำ�​สูง ช่วยใ​ห้การต​ ัดสินใ​จเ​ป็นไ​ปอ​ ย่างร​ วดเร็ว เพราะต​ ัดสินใ​จแ​ ทนผ​ ูร้​ ่วมง​ านอื่นๆ
ได้​เอง ผล​เสียข​ องผ​ ู้บ​ ริหาร​แบบ​นี้ใ​นท​ าง​มนุษยสัมพันธ์​ก็​คือ ความ​ไม่มี​ประสิทธิภาพใ​น​การป​ ฏิบัติ​งาน ขวัญ​
ผู้​ร่วม​งาน​ตํ่า และ​ผู้​ร่วม​งาน​มี​ภาวะ​คับ​ข้องใจ ใช้​พลัง​ความ​สามารถ​เพียง​ครึ่ง​เดียว เพราะ​แทบ​ไม่​ได้​ใช้​สติ​
ปัญญา​ที่​สร้างสรรค์​ของ​ผู้​ร่วม​งาน​เลย ความ​สำ�เร็จ​ทั้งหมด​ขึ้น​อยู่​กับ​ผู้​บริหาร หาก​ผู้​บริหาร​เกิด​พลาด​พลั้ง​
ลูก​น้อง​ก็​พลอย​หมด​หวัง ประการ​สำ�คัญ​ก็​คือ​ผู้​บริหาร​แบบ​นี้​ไม่​เอาใจ​ใส่​ศักดิ์ศรี​และ​ภาวะ​อัด​อั้น​ตัน​ใจ​ของ​
ผู้​ร่วม​งาน
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34