Page 30 - การพัฒนาทักษะและประสบการณ์วิชาชีพ สำหรับผู้นำทางการศึกษา
P. 30

4-20 การพัฒนาทักษะและประสบการณ์วิชาชีพสำ�หรับผู้นำ�ทางการศึกษา

       ผู้​บริหาร​แบบ​อัต​นิยม ใช้​แต่​ความ​สามารถ​ของ​ตนเอง แต่​ผู้​บริหาร​แบบ​ประชาธิปไตย​เพิ่ม​พลัง​เป็น​
ทวีคูณ​โดย​ความ​สามารถ​ของ​ผู้​ร่วม​งาน ใช้​ความ​คิด​เห็น​ผู้​ร่วม​งาน การ​สนับสนุน​และ​ความ​เข้าใจ​อัน​ดี​เป็น​
พลัง​ให้การด​ ำ�เนินง​ านแ​ ละ​การ​ควบคุม​งานไ​ปด​ ้วย​ดี ผลเ​สีย​ของก​ ารเ​ป็นผ​ ู้​บริหาร​แบบน​ ี้ ขึ้น​อยู่​กับว​ ่า​ต้องการ​
การป​ ระสานง​ าน และก​ ารส​ ือ่ สารท​ ดี​่ แ​ี ละม​ ากกวา่ ป​ กตแิ​ ตค​่ ณุ ภาพข​ องผ​ บู้​ ริหารก​ ข็​ ึ้นอ​ ยกู่​ ับค​ วามส​ ัมพนั ธภ์​ ายใน​
กลุ่ม​เพื่อนร​ ่วม​งานม​ ากเ​หมือน​กัน

       ผู้​บริหารแ​ บบ​เสรีนิยม ขาด​และไ​ร้ค​ วาม​สำ�นึกต​ ่อก​ าร​สร้างสรรค์​งาน ไม่​นำ�พาก​ ับเ​พื่อน​ร่วม​งาน​ พอๆ
กับ​ผู้​บริหาร​แบบ​อัต​นิยม ไร้​ความ​สามารถ​ใน​การ​จูงใจ มี​แนว​โน้ม​ที่​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​สับสน​อลหม่าน​ใน​การ​
ปฏิบัติง​ าน

       ใน​บรรดา​ผู้​บริหาร​ทั้ง​สาม​แบบ​ดัง​กล่าว​แล้ว ใน​ระยะ​ยาว​ผู้​บริหาร​แบบ​ประชาธิปไตย​ก่อ​ให้​เกิด​
ประโยชน์​สูงสุด​และ​สร้าง​ความ​พึง​พอใจ​แก่​ผู้​ร่วม​งาน​มาก หาก​มุ่ง​มั่น​จะ​ให้​เกิด​ความนิยม​ชม​ชอบ​ใน​วิธี​การ​
แบบป​ ระชาธิปไตย ทั้งก​ าร​เป็น​ผู้บ​ ริหารแ​ ละ​ผู้ต​ าม​แล้ว จะ​ต้องส​ ร้างสรรค์​และ​เน้นก​ ารม​ ี​ส่วน​ร่วม​ในก​ ิจกรรม​
ต่างๆ ให้ม​ าก แต่ก​ ็ย​ ังม​ ีข​ ้อย​ กเว้น เพราะใ​นห​ ลายๆ สถานการณ์ต​ ้องการผ​ ู้บ​ ริหาร​คนคนเดียว ในแ​ ต่ละว​ ันข​ อง​
งาน​อาจจ​ ะต​ ้องเ​ป็นผ​ ู้บ​ ริหาร​ทั้งส​ ามแ​ บบ​เพื่อเ​ผชิญ​กับ​ปัญหาท​ ี่​แตก​ต่างก​ ัน​ก็ได้

       ในก​ ารศ​ ึกษาม​ นุษยสัมพันธ์​กับภ​ าวะผ​ ู้นำ� เป็นการศ​ ึกษาเ​กี่ยวก​ ับพ​ ฤติกรรมข​ องผ​ ู้นำ�​ทีม่​ ตี​ ่อผ​ ูต้​ าม ซึ่ง​
โดยป​ กติผ​ ู้น​ ำ�​ทุกๆ คนก​ ็ม​ ุ่งห​ วังท​ ี่จ​ ะเ​ห็นค​ วามส​ ำ�เร็จใ​นก​ ารเ​ป็นผ​ ู้นำ� แต่ล​ ักษณะท​ ี่ผ​ ู้นำ�​แสดงออกอ​ ย่างเ​ด่นช​ ัด​
ที่​ตรง​กัน​ข้าม 2 ประการก​ ็​คือ มุ่งเ​น้น​ที่ง​ าน หรือม​ ุ่งเ​น้น​ที่ค​ น กล่าวค​ ือ คำ�นึงถ​ ึง​ผลผลิตจ​ าก​การท​ ำ�งาน หรือ​
คำ�นึง​ถึง​ความ​สัมพันธ์​ต่อ​กัน​กับ​ผู้​ตาม โดย​ภาวะ​ผู้นำ�​ดัง​กล่าว​ก็​ใช้ได้​กับ​ผู้นำ�​ใน​องค์การ​ทุก​ประเภท รวม​ถึง​
ผู้นำ�​ทางการ​ศึกษา​ด้วย​เช่นก​ ัน

       จาก​การ​ศึกษา​เกี่ยว​กับ​พฤติกรรมข​ อง​ผู้นำ�​ดัง​กล่าว นักศึกษา​จะ​เห็น​ได้​จาก​พัฒนาการ​ของ​แนว​คิด​
และท​ ฤษฏีเ​กี่ยว​กับ​ภาวะ​ผู้นำ�​ที่​ศึกษาใ​น​หน่วยท​ ี่ 2 ที่ผ​ ู้​บริหาร​ต้อง​เน้น​พฤติกรรมก​ ารนำ�​ไป​สู่​ความ​สำ�เร็จข​ อง​
องค์การ​ซึ่ง​สัมพันธ์​กับเ​รื่องม​ นุษยสัมพันธ์ ตั้งแต่​ยุคท​ ี่ 2 เป็นต้น​มา โดย​ใน​ยุคท​ ี่ 2 ที่​เป็นย​ ุค​ทฤษฎี​พฤติกรรม​
ของ​ผู้นำ� มีผ​ ล​การ​วิจัยท​ ี่ส​ ำ�คัญ คือ การ​ศึกษาภ​ าวะผ​ ู้นำ�​สอง​มิติ​ที่​มหาวิทยาลัยแ​ ห่งร​ ัฐ​โอไฮโอ (The Ohio
state studies) ที่ผ​ ลก​ าร​วิจัยไ​ด้ส​ รุป​พฤติกรรม​ผู้นำ�​ออก​เป็น 2 มิติ ได้แก่ มิติก​ ิจ​สัมพันธ์ คือ​มุ่ง​งาน และม​ ิต​ิ
มิตร​สัมพันธ์ คือ มุ่ง​คน ทั้ง​สอง​มิติ​ดัง​กล่าว​ผู้​บริหาร​จะ​ใช้​ภาวะ​ผู้นำ�​มาก​น้อย​ใน​แต่ละ​มิติ​ตาม​สถานการณ์​
ที่​แตก​ต่าง​กัน​ออก​ไป และ​มี​การ​ศึกษา​ที่​ดำ�เนิน​การ​ควบคู่​กัน​ไป​อีก​สถาบัน​หนึ่ง​คือ การ​ศึกษา​ภาวะ​ผู้นำ�​ที่​
มหาวิทยาลัย​มิชิแกน (The University of Michigan studies) ซึ่ง​ได้ข​ ้อ​สรุป​จากก​ าร​ศึกษาส​ ามารถจ​ ำ�แนก​
พฤติกรรมข​ องผ​ ู้นำ�​ออกเ​ป็น 2 มิติ ได้แก่ พฤติกรรมข​ องผ​ ู้นำ�​ที่ม​ ุ่งผ​ ลผลิต (production-centered leaders)
และพ​ ฤติกรรม​ของ​ผู้นำ�​ที่ม​ ุ่ง​คน​งาน (employee-centered leaders)

       ดังน​ ั้นจ​ ะเ​ห็นไ​ด้ว​ ่า ภาวะผ​ ู้นำ�​ที่แ​ สดงออกใ​นร​ ูปข​ องพ​ ฤติกรรมก​ ารบ​ ริหารไ​ม่ว​ ่าจ​ ะม​ ุ่งค​ วามส​ ำ�เร็จข​ อง​
งาน​อย่าง​เคร่งครัด หรือ​มุ่ง​ให้​เกิด​ความ​สัมพันธ์​อัน​ดี​กับ​ผู้​ร่วม​งาน​เพื่อ​จะ​ได้​ส่ง​ผล​ต่อ​ความ​สำ�เร็จ​ของ​งาน
​เช่น​กัน​นั้น ต่าง​ก็​ต้อง​อาศัย​มนุษยสัมพันธ์​ด้วย​กัน​ทั้ง​สิ้น เพียง​แต่​พฤติกรรม​ดัง​กล่าว​จะ​ต้อง​สอดคล้อง​กับ​
สถานก​ า​รณ์​นั้นๆ ด้วย
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35