Page 38 - การพัฒนาทักษะและประสบการณ์วิชาชีพ สำหรับผู้นำทางการศึกษา
P. 38

4-28 การพัฒนาทักษะและประสบการณ์วิชาชีพสำ�หรับผู้นำ�ทางการศึกษา

            9.4 	เป็น​ที่​น่า​รัก​และม​ ี​อารมณ์ร​ ่วม​กับ​ผู้​อื่น​ได้​ตามค​ วามเ​หมาะส​ ม
            9.5	 รู้จัก​วางตัวต​ าม​บทบาท​ที่บ​ ้าน​และท​ ี่​ทำ�งานไ​ด้อ​ ย่าง​เหมาะส​ ม

การ​พัฒนาท​ ักษะท​ าง​มนษุ ยสมั พนั ธข์​ องผ​ ​ูบ้ รหิ ารส​ ถาน​ศึกษา

       จาก​ที่​กล่าว​มา​แต่​ต้น หาก​จะ​สรุป​ให้​เห็น​ถึง​การ​พัฒนา​ทักษะ​ทาง​มนุษยสัมพันธ์​ของ​ผู้​บริหาร​
สถานศ​ ึกษา ซึ่งจ​ ะต​ ้องเ​น้นท​ ี่ก​ ารร​ ู้จักต​ นเอง และก​ ารเ​ข้าใจเ​พื่อนร​ ่วมง​ านห​ รือบ​ ุคคลอ​ ื่นท​ ี่ต​ ้องป​ ฏิสัมพันธ์ด​ ้วย
ก็​จะส​ รุป​โดยม​ ีส​ าระ​สำ�คัญ ดังนี้ (ณัฏฐพ​ ันธ์ เขจรน​ ันทน์​ และ​คณะ 2545)

       1.	 การร​ ู้จักต​ นเอง ผู้บ​ ริหาร​สถาน​ศึกษาต​ ้อง​มี​การ​สำ�รวจต​ นเอง โดย​สำ�รวจว​ ่าม​ ีส​ ิ่ง​ใดบ​ กพร่อง​มาก​
ไป หรือไ​ม่ หาก​มีค​ วรห​ า​ทาง​แก้ไข​ปรับปรุงต​ นเอง ผู้บ​ ริหาร​มีก​ ารช​ มต​ นเองม​ าก​เกินไ​ปห​ รือ​ไม่ ซึ่งท​ ี่จ​ ริงก​ ารช​ ม​
ตนเอง​เป็น​สิ่ง​ดี ถ้า​คำ�​ชม​นั้น​เป็น​คำ�​ชม​ที่​จริงใจ​จาก​ผู้​อื่น ใน​การ​มอง​ตนเอง​ต้อง​มอง​โดย​ไม่​ลำ�เอียง หรือ​เชื่อ​
คำ�​ชมข​ องผ​ ู้อ​ ื่นง​ ่ายเ​กินไ​ป นอกจากน​ ี้ ผู้บ​ ริหารค​ วรส​ ำ�รวจต​ นเองเ​กี่ยวก​ ับพ​ ฤติกรรมก​ ารต​ ิเ​ตียนผ​ ู้อ​ ื่น เกี่ยวก​ ับ​
มารยาทใ​นส​ ังคม การใ​ช้​กิริยาว​ าจา การ​ปฏิบัติ​ตนต​ ามข​ นบธรรมเนียม​ประเพณี วัฒนธรรม​และค​ ่าน​ ิยม​ของ​
สังคม เป็นต้น การม​ มี​ ารยาทใ​นส​ ังคม นับว​ ่าจ​ ำ�เป็นใ​นก​ ารส​ ร้างม​ นุษยสัมพันธ์ก​ ับบ​ ุคคลอ​ ื่นเ​ช่นก​ ัน เพราะช​ ่วย​
ให้​คนเ​รา​ปฏิบัติ​ตน​ต่อก​ ันไ​ด้อ​ ย่างเ​หมาะ​สมถ​ ูกต​ ้อง​ตามก​ าลเทศะ และก​ ่อ​ให้​เกิด​ความ​สามัคคีข​ ึ้น​ใน​สังคม

       2. 	 การศ​ กึ ษาส​ ง่ิ ท​ ค​ี่ วรร​ เ​ู้ กยี่ วก​ บั บ​ คุ คลเ​พอื่ ก​ ารเ​ขา้ ใจบ​ คุ คลอ​ นื่ บคุ คลโ​ดยท​ ัว่ ไปม​ กั ม​ ล​ี กั ษณะท​ คี​่ ลา้ ยๆ
กัน​อยู่​หลาย​ประการ หาก​ผู้​บริหาร​ได้​ตระหนัก​ถึง​ลักษณะ​เหล่า​นี้ ก็​จะ​ช่วย​เสริม​การ​สร้าง​มนุษยสัมพันธ์​กับ​
บุคคลอ​ ื่นไ​ด้ง​ ่าย​ขึ้น และด​ ำ�รง​ความส​ ัมพันธ์​อันด​ ี​ให้​มั่นคง​ได้ ลักษณะ​ต่างๆ เกี่ยวก​ ับบ​ ุคคล​ดังก​ ล่าว มี​ดังนี้

            2.1	 บคุ คลไ​มช​่ อบใ​หใ​้ ครก​ ลา่ วโ​ทษ แมว้ า่ ค​ วามค​ ดิ หรอื ก​ ารกร​ ะท​ �ำ ​นัน้ จ​ ะผ​ ดิ ก​ ต็ าม เนือ่ งจากเ​รา​
มักเ​ข้าใจว​ ่าส​ ิ่งท​ ี่เ​ราค​ ิด หรือก​ ระทำ�​ลงไ​ปน​ ั้นถ​ ูกต​ ้องแ​ ล้ว คนเ​ราจ​ ะก​ ระทำ�​สิ่งใ​ดย​ ่อมม​ ีเ​หตุผลข​ องต​ นเองเ​สมอ
แต่เ​ป็นเ​หตุผลใ​นแ​ ง่ค​ วามน​ ึกคิดข​ องแ​ ต่ละค​ น ฉะนั้น ความค​ ิดข​ องแ​ ต่ละบ​ ุคคลย​ ่อมแ​ ตกต​ ่างก​ ันไ​ด้ด​ ้วยเ​หต​ุ
นี้​การ​กล่าว​โทษ​ผู้อ​ ื่นเ​มื่อ​คิดว​ ่าเ​ขา​กระทำ�​ผิด​นั้น นับ​ว่าไ​ม่มี​ประโยชน์ เนื่องจาก​ความ​คิด​เห็น​ของ​แต่ละ​บุคคล​
ต่างก​ ัน อาจท​ ำ�ให้ผ​ ู้ถ​ ูกก​ ล่าวโ​ทษไ​ม่พ​ อใจ และร​ ู้สึกว​ ่าเ​ป็นการท​ ำ�ลายเ​กียรติข​ องต​ น ฉะนั้น เมื่อธ​ รรมชาติข​ อง​
มนุษย์​ไม่​ชอบ​ให้​ใคร​มา​กล่าว​โทษ​ตน​เช่น​นี้ ผู้​บริหาร​จึง​ต้อง​ระมัดระวัง​โดย​เฉพาะ​การ​กล่าว​โทษ​การ​ทำ�งาน​
ของ​ครู​และ​บุคลากร​ใน​สถาน​ศึกษา โดย​ต้อง​ฝึก​ให้​มี​ศิลปะ​ใน​การ​ให้​ข้อมูล​ป้อน​กลับ​ที่​เป็นการ​ให้​ข้อมูล​เพื่อ​
การป​ รับปรุงแ​ ละพ​ ัฒนาง​ านด​ ้วยใ​จท​ ี่​บริสุทธิ์ ด้วยค​ วามจ​ ริงใจท​ ี่​อยากจ​ ะเ​ห็นเ​ขาพ​ ัฒนา ปรับปรุงต​ นเองอ​ ย่าง​
แท้จริง และ​หากไ​ม่​จำ�เป็นจ​ ะ​ต้องก​ ล่าว​โทษก​ ็ต​ ้องร​ ู้จัก​ให้อ​ ภัย​ซึ่ง​กันและก​ ัน	

            2.2 บคุ คลอ​ ยากม​ ชี อื่ เ​สยี ง อยากเ​ดน่ อ​ ยากด​ งั   โดยท​ ั่วไปค​ นเ​ราม​ กั ช​ อบใ​หผ​้ ูอ​้ ืน่ ย​ กยอ่ งส​ รรเสริญ​
ตนว​ ่า เป็นค​ นเ​ก่ง หรือม​ เี​กียรติ ด้วยเ​หตนุ​ ีจ้​ ึงท​ ำ�ใหค้​ นเ​ราเ​กิดค​ วามค​ ิดส​ ร้างสรรคส์​ ิ่งต​ ่างๆ ทีอ่​ ำ�นวยป​ ระโยชน​์
แก่​มวล​มนุษย์ เพื่อ​สร้าง​ชื่อ​เสียง​ให้​แก่​ตน ผู้​บริหาร​จึง​ต้อง​มี​ทักษะ​ใน​การ​ชื่นชม​ยินดี​กับ​ความ​สำ�เร็จ​ของ​
บุคคล มีท​ ักษะ​ใน​การ​กล่าวแ​ สดง​ความ​ยินดี และ​รู้จัก​ที่จ​ ะ​มี​วิธีก​ าร​ใน​การป​ ระกาศ​เกียรติคุณ ยกย่อง​ให้​เป็น​
ที่​ประจักษ์แ​ ก่​คนท​ ั่วไป
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43