Page 52 - หลักการและทฤษฎีการศึกษาเกี่ยวกับวิชาชีพครู
P. 52

14-42 หลักการและทฤษฎีการศึกษาเกี่ยวกับวิชาชีพครู

เร่ืองท่ี 14.3.1 การพัฒนาตนเองของครู
       	

       การพัฒนาตนเองเป็นส่ิงท่ีส�ำคัญยิ่งของผู้ประกอบวิชาชีพครู เนื่องจากครูต้องเป็นผู้น�ำทางปัญญา
ผู้น�ำทางจิตใจ ผู้น�ำทางสังคม และผู้น�ำทางวิชาชีพ ดังท่ีได้กล่าวรายละเอียดไว้ในเร่ืองท่ี 14.2.3 การพัฒนา
ตนเองของครูจึงต้องมีการพัฒนาคุณลักษณะของผู้น�ำทางปัญญา การพัฒนาคุณลักษณะของผู้น�ำทางจิตใจ
การพัฒนาคุณลักษณะของผู้น�ำทางสังคม และการพัฒนาคุณลักษณะของผู้น�ำทางวิชาชีพ ดังรายละเอียด
ต่อไปนี้

1. 	การพฒั นาคณุ ลกั ษณะของผูน้ ำ�ทางปัญญา

       การพัฒนาคุณลักษณะของผู้น�ำทางปัญญามีวิธีการส�ำคัญ 3 วิธี (พระเทพเวที (ประยุทธ์ ปยุตฺโต),
2532: 52) ได้แก่ 1) การคิด เป็นปัญญาท่ีเกิดจากการคิดการพิจารณาหาเหตุผลด้วยตนเอง 2) การเรียน เป็น
ปัญญาที่เกิดจากการสดับ การเล่าเรียน และการถ่ายทอดทั้งโดยการฟังและการอ่าน และ 3) การปฏิบัติ เป็น
ปัญญาท่ีเกิดจากการลงมือปฏิบัติ ฝึกหัด อบรม

       กิจกรรมที่ส�ำคัญในการท�ำให้เกิดปัญญาจึงมีทั้งการฟัง การซักถาม การสอบค้น การสนทนา
ถกเถียง อภิปราย การสังเกตดู เฝ้าดู ดูอย่างเพ่งพินิจ การพิจารณาโดยแยบคาย การช่ังเหตุผล การไตร่ตรอง
ตรวจสอบ ทดสอบ สอบสวน ทดลอง เฟ้น ฝกึ หดั การท�ำบอ่ ย การทำ� ใหม้ าก ในทน่ี จ้ี งึ แบ่งแนวทางการพัฒนา
คุณลักษณะของผู้น�ำทางปัญญาท้ังคุณลักษณะด้านการเป็นผู้มีเหตุผล การเป็นคนฉลาดคิด การมีวิสัยทัศน์
เป็น 3 แนวทาง คือ การมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม การฝึกการคิด และการปฏิบัติ

       1.1 การมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม การปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมภายนอกเป็นปฏิสัมพันธ์กับ
บุคคลและสิ่งต่าง ๆ ในสังคม เช่น การศึกษาอบรมเล่าเรียนกับผู้รู้ การพบปะกับบุคคลท่ีหลากหลาย และ
การมีปฏิสัมพันธ์กับส่ิงแวดล้อมในรูปแบบต่าง ๆ ผู้น�ำทางปัญญาต้องพยายามใช้ปฏิสัมพันธ์ให้เป็นประโยชน์
ในการพัฒนาคุณลักษณะของผู้น�ำทางปัญญาในด้านต่อไปน้ี

            1.1.1 	การสรา้ งประสบการณ์ในชีวติ สามารถแบ่งเป็น
                1) 	ประสบการณเ์ ชงิ กวา้ งและเชงิ ลกึ ประสบการณเ์ ชงิ กวา้ ง หมายถงึ การมปี ระสบการณ์

ในสิ่งต่าง ๆ อย่างกว้างขวางหลากหลาย เช่น มีประสบการณ์ในการใช้กิจกรรมการสอนรูปแบบต่าง ๆ ตาม
ความหลากหลายของวัตถุประสงค์การเรียนการสอน ผู้เรียน สถานการณ์และข้อจ�ำกัดของเงื่อนไขต่าง ๆ
ประสบการณ์เหล่าน้ีจะช่วยให้สามารถใช้ปัญญาจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภายใต้เง่ือนไขต่าง ๆ ท่ีเผชิญได้
ประสบการณ์เชิงลึก คือ การรู้จริงด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น อ่านมาก ดูตัวอย่างมาก ฟังอย่างลึก ศึกษา
สถานการณ์ท่ีมีความซับซ้อน และศึกษาจากตัวอย่างที่มีวิธีการดีท่ีสุด (best practice)

                2) 	ประสบการณ์เชิงบวกและเชิงลบ ประสบการณ์ท่ีจะช่วยให้เกิดปัญญาย่อมมาจาก
ประสบการณท์ ง้ั เชงิ บวกและเชงิ ลบ ประสบการณท์ ง้ั สองดา้ นจะเปน็ ฐานของการใชป้ ญั ญาพจิ ารณาการปฏบิ ตั งิ าน
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57