Page 38 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 38

2-28 ความรูท้ างสังคมศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีส�ำ หรับนักนิเทศศาสตร์
กิจกรรม 2.2.2

       จงสรุปแนวคดิ พน้ื ฐานของทฤษฎคี วามขัดแยง้
แนวตอบกิจกรรม 2.2.2

       ทฤษฎีความขัดแย้ง (Conflict theory) เป็นการท�ำความเข้าใจพฤติกรรมของคนในสังคมผ่าน
ความขดั แยง้ ระหวา่ งกลมุ่ ตา่ งๆ และบคุ คลตา่ งๆ เพราะตา่ งตอ้ งแขง่ ขนั ในการเปน็ เจา้ ของทรพั ยากรทมี่ คี า่
และหายาก สมมติฐานเบื้องต้นของทฤษฎีน้ีคือ สังคมทุกสังคมเกิดข้ึนบนความขัดแย้งและจะพัฒนาหรือ
เปลยี่ นแปลงไปกบ็ นความขดั แยง้ เชน่ กนั ทฤษฎนี ม้ี องวา่ สงั คมประกอบดว้ ยระบบตา่ งๆ ซง่ึ ตา่ งกม็ บี ทบาท
หนา้ ทแ่ี ละกระทำ� ตามบทบาทหนา้ ทขี่ องตน แตร่ ะบบเหลา่ นนั้ มคี วามไมเ่ สมอภาคหรอื ไมเ่ ทา่ เทยี มกนั ระบบ
ทเี่ หนอื กวา่ จะเอารดั เอาเปรยี บหรอื ครอบงำ� ระบบทดี่ อ้ ยกวา่ จนทำ� ใหเ้ กดิ ความขดั แยง้ ในสงั คมขน้ึ และความ
ขดั แยง้ น้เี องนำ� ไปสกู่ ารด้นิ รนตอ่ สู้ ตอ่ รอง หรือประนีประนอม และเปลยี่ นแปลงไปสู่สงั คมทดี่ ีขึน้

เรื่องท่ี 2.2.3
แนวคิดทฤษฎีปฏิสัมพันธ์เชิงสัญลักษณ์

       หลกั การพ้ืนฐานของแนวคดิ ทฤษฎปี ฏิสมั พันธ์เชงิ สญั ลักษณ์ (Symbolic interaction theory)
เช่ือว่า สมาชิกในสังคมกระท�ำและตีความหมายของความจริงทางสังคมโดยใช้สัญลักษณ์ร่วมกัน การ
ปฏิสัมพันธ์ท�ำให้ได้เรียนรู้ความหมาย และสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อน�ำไปใช้ในการคิดซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะ
ของมนษุ ย์ ความคดิ ของมนษุ ยถ์ กู หลอ่ หลอมขนึ้ โดยการปฏสิ มั พนั ธก์ นั ทางสงั คม และความหมายสญั ลกั ษณ์
ตา่ งๆ สามารถเปลี่ยนแปลงแกไ้ ขหรอื ยกเลกิ ไดโ้ ดยตัวมนุษยเ์ อง

       แนวคิดทฤษฎีนี้ได้เน้นถึงการกระท�ำระหว่างกันของบุคคลในสังคมที่เป็นผลมาจากการตีความ
หมายของสญั ลกั ษณโ์ ดยเฉพาะ ภาษา ซงึ่ ใชเ้ ปน็ ตวั กลางในการตดิ ตอ่ ทส่ี ำ� คญั ทที่ ำ� ใหม้ นษุ ยม์ คี วามผกู พนั
และมีความสัมพันธต์ ่อกนั จนสรา้ งกฎเกณฑ์ต่างๆ ขนึ้ มาทำ� ใหม้ ีการจัดระเบยี บขึน้ ในสงั คม

       บลเู มอร์ (Herbert Blumer) ได้อธบิ ายการจัดระเบยี บทางสงั คมว่าความสัมพันธ์ทางสงั คมของ
กลุ่มต่างๆ เกิดจากผลของการท่ีบุคคลแปลหรือก�ำหนดความหมายของการกระท�ำต่อกัน การมีปฏิกิริยา
โตต้ อบไมไ่ ดม้ โี ดยตรงตอ่ การกระทำ� ของบคุ คล แตเ่ ปน็ ปฏกิ ริ ยิ าทม่ี ตี อ่ ความหมายของการกระทำ� หรอื การ
แสดงออก ฉะน้ันความสัมพันธ์ของคนในสังคมจึงเป็นการใช้สัญลักษณ์ ซึ่งต้องอาศัยการตีความและการ
แสวงหาความหมายทแ่ี ทจ้ รงิ ของการกระทำ� ตา่ งๆ การแสดงออกทเี่ ปน็ กระทำ� ตอ่ กนั หรอื ปฏสิ มั พนั ธต์ อ่ กนั
จึงอยู่ในกระบวนการตีความสัญลักษณ์ของบุคคลท้ังหลายในสังคม ซ่ึงจะเข้าใจในเหตุการณ์ สามารถ
   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43