Page 28 - ความรู้ทางสังคมศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับนักนิเทศศาสตร์
P. 28
13-18 ความรูท้ างสังคมศาสตร์และเทคโนโลยีสำ� หรบั นักนิเทศศาสตร์
2.1 การท�ำหน้าท่ีเป็นตัวก�ำหนดบทบาทความสัมพันธ์หรือพฤติกรรมของมนุษย์ โดยผ่าน
กระบวนการอบรมให้รู้ระเบียบสังคมซ่ึงกลุ่มต่างๆ ของสังคมจะท�ำหน้าที่ถ่ายทอดบทบาท เช่น กลุ่ม
ครอบครวั ในสังคมไทยเดก็ ๆ จะเรียนรู้การปฏิบัตติ นต่อผ้ใู หญโ่ ดยให้ความเคารพตามอาวุโส การทกั ทาย
ดว้ ยการไหว้ หรอื ในคนไทยกอ่ นสมยั จอมพล ป. พบิ ูลสงคราม การกินหมากทำ� ใหฟ้ นั กลายเปน็ สีดำ� แลว้
ปากแดงเปน็ ทยี่ อมรบั กนั วา่ เปน็ ความงาม หากเปน็ สาวแลว้ ยงั ปลอ่ ยใหฟ้ นั ขาวจะเปน็ ทล่ี อ้ เลยี น นอกจากน้ี
การกนิ หมากยงั แสดงถงึ ความเรยี บรอ้ ยของคนๆ นน้ั โดยทง้ั ผหู้ ญงิ และผชู้ ายทม่ี นี สิ ยั เรยี บรอ้ ยจะไมม่ รี อย
เลอะเทอะท่ปี าก จะคอยใช้เปลอื กหมากเช็ดปากอยเู่ สมอ (ชะวัชชยั ภาตณิ ธ,ุ 2533: 17)
2.2 การท�ำหน้าที่เปน็ ตวั ก�ำหนดรปู แบบของสถาบนั เชน่ รปู แบบครอบครวั ทมี่ ผี ชู้ ายเปน็ หวั หนา้
ครอบครวั บางสังคม เชน่ สังคมอสิ ลามสามารถมภี รรยาได้สคี่ น
2.3 การท�ำหน้าที่เป็นเคร่ืองหมายหรือสัญลักษณ์ที่แสดงว่าสังคมหนึ่งแตกต่างไปจากอีกสังคม
หน่ึง เช่น การแต่งกาย การทกั ทาย แต่ละสังคมจะมีความแตกตา่ งกนั ไป
2.4 การท�ำหน้าท่ีควบคุมสังคม การควบคุมทางสังคมอาจอยู่ในรูปทางการหรือไม่เป็นทางการ
เชน่ การวางระเบยี บขอ้ บังคับ กฎหมาย หรือกฎศลี ธรรม วัฒนธรรมจะเปน็ สว่ นทใี่ ชว้ ัดการแสดงออกของ
บุคคลและผลท่ีจะตามมาหากบุคคลน้ันไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานที่สังคมคาดหวังหรือตั้งกฎเกณฑ์เอาไว้
วัฒนธรรมจึงมอี ทิ ธิพลยิ่งตอ่ สมาชกิ ของสงั คม ดังท่ี นธิ ิ เอยี วศรวี งศ์ (2547: 6-7)กลา่ วว่า “คนเราเกิดมา
ตัวเปล่าแต่ก็ถูกครอบง�ำด้วยวัฒนธรรมทันทีที่เกิดมา เพราะฉะน้ันเราทุกคนขีดเส้นชีวิตของเราได้ระดับ
หนง่ึ แตข่ ดี ทงั้ หมดตามอำ� เภอใจไมไ่ ดเ้ พราะสว่ นสำ� คญั สว่ นหนงึ่ ของชวี ติ นนั้ วฒั นธรรมไดข้ ดี เสน้ ไวใ้ หแ้ ลว้ ”
2.5 การท�ำหน้าท่ีสร้างความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันในสังคม การทีม่ ีลกั ษณะของวัฒนธรรมใน
แบบเดยี วกนั นัน้ ส่งผลให้สมาชกิ เกดิ ความรู้สกึ เปน็ เจ้าของ หวงแหน เกิดความเป็นกลุ่มเดยี วกนั
2.6 การท�ำหน้าที่เป็นส่ิงยึดเหน่ียวการด�ำรงอยู่ของสังคม เม่ือคนมาอยู่รวมกันย่อมต้องสร้าง
ส่ิงที่เป็นค่านิยม ความเช่ือ ระเบียบธรรมเนียมปฏิบัติ กฎเกณฑ์ต่างๆ สิ่งของเครื่องใช้ กล่าวคือ เกิด
วัฒนธรรมท้ังรูปธรรมและนามธรรมอันเป็นสิ่งท่ีท�ำให้สังคมด�ำรงอยู่ได้มีระเบียบแบบแผนเกิดความสงบ
เรียบรอ้ ย วัฒนธรรมจึงเปน็ สง่ิ อยู่คกู่ บั สงั คมนบั เป็นส่งิ สำ� คัญที่ยดึ โยงสังคมให้ดำ� รงอยู่
ด้านธีรยุทธ บญุ มี (อา้ งในนกั ศึกษาปริญญาโท คณะวารสารสารและส่อื สารมวลชน, 2540: 24)
ได้ให้ความเห็นวา่ สำ� หรบั บคุ คล การหลอมรวมตวั เข้ากบั วัฒนธรรมของสงั คมจะช่วยให้เกิดจุดมงุ่ หมายใน
ชีวิต มีความมั่นคงอยู่ภายในสถาบันครอบครัวและชุมชน ท�ำให้เกิดความมั่นคงทางอารมณ์ความรู้สึก
วัฒนธรรมช่วยให้สังคมมีความรู้จักตนเอง ว่าตัวเองคือ ใคร มาจากไหนและจะก้าวไปที่ใด หากสังคม
ปราศจากการรจู้ กั ตนเองแลว้ กไ็ มส่ ามารถด�ำรงอย่ตู อ่ ไปได้ วัฒนธรรมจึงมบี ทบาท 4 ประการ กล่าวคือ
1. ท�ำหนา้ ทบ่ี นั ทึกความทรงจำ� ของสงั คม เช่น จารึก ตำ� นาน โบราณสถาน ประเพณี ซ่งึ กค็ ือ
การทำ� ความเขา้ ใจอดตี
2. ท�ำหน้าท่ีช่วยในการถอดรหัสหรือเป็นกุญแจไขให้เกิดความเข้าใจในศิลปะ วรรณกรรม
ขนบธรรมเนียมประเพณี
3. ท�ำหนา้ ทส่ี ะท้อนอารมณค์ วามรสู้ ึกของสังคมในขณะนนั้ วา่ เป็นอย่างไร เช่น เกดิ ความเครียด
มีความหวงั มีความพอใจ เป็นต้น