Page 52 - การจัดการงานเทคโนโลยี และสื่อสารการศึกษา
P. 52

8-42 การจัดการงานเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา

       2.3 	 แนวทาง​การ​ประเมิน​ผลก​ าร​ปฏบิ ตั ​ิงาน​ทาง​เทคโนโลย​ีและ​ส่ือสาร​การ​ศึกษา ในก​ าร​ประเมิน​ผล​
การป​ ฏิบัติง​ านห​ รือก​ ารว​ ัดผลง​ านท​ างเ​ทคโนโลยีแ​ ละส​ ื่อสารก​ ารศ​ ึกษาค​ วรจ​ ะก​ ำ�หนดว​ ่าจ​ ะว​ ัดอ​ ะไร วัดอ​ ย่างไร
และว​ ัด​เมื่อ​ใด

            1) 	จะว​ ัด​อะไร ต้อง​เกี่ยวข้อง​กับม​ าตรฐาน​ที่ก​ ำ�หนดไ​ว้ ต้องม​ ีก​ ารก​ ำ�หนดม​ าตรฐานไ​ว้ว​ ่า ต้อง​
ขายส​ ื่อท​ ีผ่​ ลิตข​ ึ้นใ​หไ้​ดย้​ อดข​ าย 1,000 ชิ้นภ​ ายใน 1 ปี การว​ ัดต​ ้องไ​ปว​ ัดจ​ ำ�นวนย​ อดข​ ายข​ องเ​จ้าห​ น้าทีฝ่​ ่ายข​ าย​
ต่อ​เดือน หรือ 3 เดือน เพื่อด​ ู​แนว​โน้ม​ว่าเ​ป็น​ไปไ​ด้​ตามม​ าตรฐานท​ ี่ก​ ำ�หนดไ​ว้ห​ รือ​ไม่

            2) 	วดั อ​ ย่างไร ขึ้นอ​ ยู่​กับส​ ถานการณ์ บางก​ รณีต​ ้องว​ ัด​งานท​ ุก​ชิ้นท​ ี่​จัด​ทำ�​ขึ้น บางก​ รณี​วัดแ​ บบ​
สุ่ม​ตัวอย่าง เช่น งานท​ ี่​เกี่ยวก​ ับ​การ​ผลิต​บท​เรียนค​ อมพิวเตอร์​ช่วย​สอน จำ�นวน​มาก​ไม่ส​ ามารถ​ตรวจ​สอบไ​ด้​
ทุก​ชิ้น

            3) 	วัด​เมื่อ​ใด อาจท​ ำ�ได้ 3 กรณี คือ (1) ก่อน​การป​ ฏิบัติง​ าน (2) ระหว่าง​การป​ ฏิบัติง​ าน และ
(3) หลังก​ ารป​ ฏิบัติ​งาน

                 (1) 	วดั ก​ อ่ นป​ ฏบิ ตั ง​ิ าน เชน่ กรณผ​ี ลติ ว​ ด​ิ ท​ี ศั นป​์ ระกอบก​ ารเ​รยี นว​ ชิ าว​ ทิ ยาศาสตรท์​ ผี​่ ลติ ​
จำ�นวน​น้อย เพื่อ​ทดสอบผ​ ู้​ใช้บ​ ริการต​ ้องการ​หรือ​ไม่​ก่อนท​ ี่​จะท​ ำ�​ผลิตอ​ อก​มาเ​ป็นจ​ ำ�นวนม​ าก

                 (2) 	วัด​ใน​ระหว่าง​การ​ปฏิบัติ​งาน เช่น องค์กร​เทคโนโลยี​และ​สื่อสาร​การ​ศึกษา​ทำ�การ​
สำ�รวจค​ วามต​ ้องการข​ องล​ ูกค้าเ​พื่อป​ รับปรุงก​ ารใ​ห้บ​ ริการก​ ารผ​ ลิตส​ ื่อใ​ห้ต​ ามค​ วามต​ ้องการข​ องล​ ูกค้าใ​นข​ ณะ​
ที่​ยังผ​ ลิต​สื่อ​ไม่เ​สร็จ

                 (3) 	วัด​หลัง​จาก​ปฏิบัติ​งาน เช่น องค์กร​เทคโนโลยี​และ​สื่อสาร​การ​ศึกษา​สำ�รวจ​ดู​ยอด​
ขาย​ของ​สื่อ​วิด​ ี​ทัศน์​ประกอบก​ ารเ​รียน​ได้​หลังจ​ าก​ที่ผ​ ลิตอ​ อกม​ าแ​ ล้ว เพื่อน​ ำ�​ไปป​ รับปรุง​แก้ไขใ​น​โอกาส​ต่อ​ไป

3. 	การ​เปรียบเ​ทียบผ​ ลก​ าร​ปฏิบตั งิ​ าน​กบั ​มาตรฐาน​งานเ​ทคโนโลยแ​ี ละ​สือ่ สาร​การศ​ กึ ษา

       เมือ่ ว​ ดั ผลง​ านท​ เี​่ กดิ ข​ ึน้ ไ​ดแ​้ ลว้ น​ �ำ ​มาเ​ปรยี บเ​ทยี บก​ บั ม​ าตรฐานก​ ารป​ ฏบิ ตั ง​ิ านท​ กี​่ �ำ หนดไ​ว้ ซึง่ ผ​ ลท​ อี​่ อก​
มาเ​ป็น​ไปไ​ด้ 3 ทาง คือ ผลท​ ี่​ออกม​ า​เท่ากับม​ าตรฐานพ​ อดี สูงก​ ว่าม​ าตรฐาน และต​ ํ่าก​ ว่า​มาตรฐาน

       1) 	ผลท​ อ​ี่ อกม​ าเ​ทา่ กบั ม​ าตรฐานพ​ อดีคอื ไมม่ ผ​ี ลแ​ ตกต​ า่ งย​ อ่ มแ​ สดงว​ า่ การป​ ฏบิ ตั ง​ิ านบ​ รรลเ​ุ ปา้ ห​ มาย​
แล้ว

       2) 	สูงก​ ว่า​มาตรฐานห​ รือ​เป็นไ​ ปใ​นท​ าง​ดี ย่อมแ​ สดง​ถึงก​ ารท​ ำ�งานม​ ีป​ ระสิทธิภาพ​สูง
       3) 	แต่​ถ้า​ผล​เปรียบ​เทียบ​ออก​มา​ต่ํา​กว่า​มาตรฐาน​เป็น​ไป​ใน​ทาง​ลบ แสดง​ว่า​เกิด​ข้อ​บกพร่อง​อย่าง​
ใด​อย่างห​ นึ่งข​ ึ้น ซึ่ง​ผู้บ​ ริหารต​ ้องต​ รวจ​สอบ​ถึงส​ าเหตุว​ ่า​เกิด​ขึ้น​ที่จ​ ุดใ​ด เพราะอ​ ะไร และ​ต้อง​ดำ�เนิน​การ​แก้ไข​
ทันที เพื่อป​ ้องกันไ​ม่​ให้เ​กิด​ข้อบ​ กพร่องน​ ี้​อีก

4. 	การ​ด�ำ เนนิ ก​ ารแ​ กไ้ ข​งานเ​ทคโนโลย​ีและส​ อื่ สาร​การ​ศกึ ษา

       การด​ �ำ เนนิ ก​ ารแ​ กไ้ ขง​ านเ​ทคโนโลยแ​ี ละส​ ือ่ สารก​ ารศ​ กึ ษา เปน็ ข​ ัน้ ต​ อนส​ ดุ ทา้ ยข​ องก​ ารค​ วบคมุ เ​ปน็ อ​ งค​์
ประกอบส​ ำ�คัญแ​ ละจ​ ำ�เป็นท​ ี่สุด หากข​ าดข​ ั้นต​ อนถ​ ือว่าไ​ม่มีก​ ารค​ วบคุมเ​กิดข​ ึ้น ในก​ รณีน​ ี้ผ​ ลก​ ารป​ ฏิบัติง​ านต​ ํ่า​
กว่า​มาตรฐาน​ก็แ​ สดงว​ ่า​มีข​ ้อ​ผิดพ​ ลาดบ​ กพร่อง​เกิดข​ ึ้น ผู้บ​ ริหาร​จำ�เป็นต​ ้องด​ ำ�เนินก​ ารแ​ ก้ไขข​ ้อ​ผิดพ​ ลาดน​ ั้น
   47   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57