Page 55 - กฎหมายระหว่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ
P. 55

องค์การที่ไม่ใช่ของรัฐ 15-45

       3. 	 ทฤษฎีก​ ารก​ ีดกัน​เชิงส​ ัมพัทธ์ (relative deprivation theory) ความข​ ัดแ​ ย้งใ​น​การ​รับร​ ู้​และ​การค​ าดห​ วัง​
ของ​ประชาชน​ใน​สังคม​หนึ่ง​ทำ�ให้​เกิด​ช่อง​ว่าง​ระหว่าง​สถานการณ์​ที่​เป็น​จริง​กับ​ความ​คาด​หวัง​ของ​ประชาชน​เป็น​ที่มา​
ของ​ขบวนการ​เคลื่อนไหว​ทางส​ ังคม79

       4. 	 ทฤษฎี​การ​ระดม​ทรัพยากร (resource-mobilization theory) การ​เคลื่อนไหว การ​ดำ�รง​อยู่ และ​ความ​
สำ�เร็จข​ องข​ บวนการเ​คลื่อนไหวท​ าง​สังคม มาจ​ ากห​ รือข​ ึ้น​อยู่​กับท​ รัพยากร ที่​สำ�คัญ​คือ คน เงิน วัสดุ​อุปกรณ์ และว​ ิธี​
การ เป็นต้น80

       5. 	 ทฤษฎี​สังคม​มวลชน (mass society theory) ความ​รู้สึก​แปลก​แยก (alienation) ของ​บุคคล​ที่มา​จาก​
พัฒนาการท​ างการ​เมือง เศรษฐกิจ และ​สังคม อย่างใ​ด​อย่างห​ นึ่ง​หรือท​ ุกอ​ ย่าง เป็น​สาเหตุ​สำ�คัญ​ที่​ทำ�ให้​คน​ต้องม​ า​รวม​
กันเ​ป็นกล​ ุ่ม กลายเ​ป็น​ที่มา​ของ​ขบวนการเ​คลื่อนไหวท​ าง​สังคม81

       6. 	 ทฤษฎี​ขบวนการ​เคลื่อนไหว​ทาง​สังคม​ใหม่ (new social movement theory) เป็น​ทฤษฎี​ขบวนการ​
เคลื่อนไหวท​ างส​ ังคมท​ ี่เ​กิดข​ ึ้นใ​นท​ ศวรรษ 1980 เพื่ออ​ ธิบายป​ รากฏการณท์​ างส​ ังคมย​ ุคห​ ลังอ​ ุตสาหกรรม (postindus-
trial societies) ที่ใ​ห้ค​ วาม​สำ�คัญก​ ับป​ ระเด็นป​ ัญหาใ​หม่ เช่น สิ่ง​แวดล้อม สิทธิ​มนุษย​ชน สิทธิ​ของส​ ัตว์ สิทธิส​ ตรี การ​
รักร​ ่วมเ​พศ การต​ ่อต​ ้านส​ งคราม คนช​ ายข​ อบ เป็นต้น ที่เ​ป็นป​ ระเด็นป​ ัญหาท​ างส​ ังคมท​ ี่ไ​ม่เ​คยม​ ีพ​ ื้นที่ใ​ห้ก​ ับค​ นก​ ลุ่มน​ ี้ใ​น​
อดีต ความส​ ลับซ​ ับซ​ ้อนข​ องค​ วามข​ ัดแ​ ย้งช​ ุดใ​หม่ท​ ี่ม​ ีค​ วามเ​ชื่อมโ​ยงจ​ ากร​ ะดับท​ ้องถ​ ิ่น ระดับป​ ระเทศ และร​ ะดับร​ ะหว่าง​
ประเทศ การ​ที่​ระบบ​การเมือง​แบบ​เดิม​ไม่​สามารถ​แก้ไข​ปัญหา​ได้ กลาย​เป็น​ประเด็น​ปัญหา​ใหม่​และ​เป็น​ที่มา​ของ​การ​
รวมก​ ัน​เป็น​ขบวนการเ​คลื่อนไหวท​ าง​สังคม82

       ดังน​ ั้น​  ขบวนการเ​คลื่อนไหวท​ างส​ ังคมเ​ป็นกล​ ุ่มห​ นึ่งท​ ี่ม​ ีค​ วามส​ ัมพันธ์ก​ ับส​ ังคม กลุ่มท​ างส​ ังคมใ​นห​ ลากห​ ลาย​
รูปแ​ บบ และ​สถาบันท​ างส​ ังคม ความห​ มาย ลักษณะ การถ​ ือ​กำ�เนิด ประเภท องค์ป​ ระกอบ ยุทธวิธี ผู้นำ� และพ​ ัฒนาการ
ทำ�ให้ข​ บวนการเ​คลื่อนไหวท​ างส​ ังคมแ​ ต่ละข​ บวนการม​ ีค​ วามเ​หมือนแ​ ละแ​ ตกต​ ่างก​ ัน ที่ส​ ่วนห​ นึ่งอ​ ธิบายด​ ้วยท​ ฤษฎี แต​่
อีก​ส่วน​หนึ่งอ​ ธิบาย​ได้ด​ ้วย​การ​ปฏิบัติ ความเ​ปลี่ยนแปลง​สู่โ​ลกา​ภิ​วัต​น์​นับ​เป็นส​ ่วนส​ ำ�คัญ​ที่​ทำ�ให้ข​ บวนการ​เคลื่อนไหว​
ทาง​สังคม​มีบ​ ทบาท​สำ�คัญใ​นป​ ัจจุบัน

       ความ​เปลี่ยนแปลง​ใน​โลก​เข้า​สู่​ยุค​โลกา​ภิ​วัต​น์​ทำ�ให้​ขบวนการ​เคลื่อนไหว​ทาง​สังคม​มี​บทบาท​ด้าน​การเมือง
เศรษฐกิจ และส​ ังคม

       ด้านก​ ารเมอื ง  การเ​ปลี่ยนผ​ า่ นข​ องส​ ังคมโ​ลกจ​ ากช​ ่วงส​ งครามเ​ย็น (ค.ศ. 1945-1989) เข้าส​ ูย่​ ุคห​ ลงั ส​ งครามเ​ย็น
(ค.ศ. 1990-ปัจจุบัน) จากก​ ารล​ ่มส​ ลายข​ อง​ยุโรป​ตะวันอ​ อก ใน ค.ศ. 1989 การ​ล่ม​สลายข​ องส​ หภาพโ​ซเวียต ใน ค.ศ.
1991 เทา่ กบั เ​ปน็ การย​ ตุ ส​ิ งครามเ​ยน็ ท​ เี​่ ปน็ ค​ วามข​ ดั แ​ ยง้ ด​ า้ นอ​ ดุ มการณ์ และท​ �ำ ใหเ​้ กดิ ค​ วามเ​ปลีย่ นแปลงข​ องโ​ลก จนโ​ลก​
ไม่อาจก​ ลับไ​ปส​ ูค​่ วามข​ ัดแ​ ยง้ ใ​นร​ ปู แ​ บบเ​ดิม ดังท​ ปี​่ รากฏใ​นผ​ ลง​ านช​ ื่อ การส​ นิ้ ส​ ดุ ข​ องป​ ระวตั ศิ าสตร์ (The End of Histo-
ry) ของฟ​ ร​ านซ​ สิ ฟก​ู ย​ู าม​ า (Francis Fukuyama) ทเี​่ นน้ ว​ า่ ป​ ระชาธปิ ไตยแ​ ละท​ นุ นยิ มจ​ ะเ​ปน็ ร​ ะบบส​ ดุ ทา้ ยข​ องม​ นษุ ยชาติ
และเ​ข้า​สู่โ​ลกใ​หม่ด​ ัง​ผลง​ าน​ชื่อ คล่นื ล​ ูกท​ ี่ส​ าม (The Third Wave) ที่​อธิบาย​พัฒนาการ​จาก​สังคม​เกษตรกรรม สังคม​
อุตสาหกรรม เปลีย่ นผ​ า่ นส​ ูส่​ งั คมเ​ทคโนโลยสี​ ารสนเทศใ​นป​ จั จุบัน และป​ รากฏค​ วามข​ ดั แ​ ยง้ ด​ ังผ​ ลง​ านช​ ือ่ การป​ ะทะท​ าง​
วฒั นธรรม (The Clash of Civilization) ของ​แซม​มวล ฮันต​ ิงต​ ัน (Samuel Huntington) ที่​เน้นก​ าร​อธิบายก​ าร​ปะทะ​
กันร​ ะหว่างอ​ ารยธรรมต​ ะวนั ต​ กข​ องค​ ริสตก์​ บั อ​ าร​ ยธ​ รรมต​ ะวันอ​ อกข​ องอ​ ิสลามแ​ ละข​ งจือ้ โดยน​ ยั ห​ นึง่ เ​ท่ากับเ​ป็นช​ ยั ชนะ​

         79 Tim Curry Robert Jiobu and Kent Schwirian. op.cit. p. 427-430	
         80 Ibid. p. 427-430.	
         81 Ibid. p. 427-430.	
         82 ไชยร​ ตั น์ เจรญิ ส​ นิ โ​อฬาร ขบวนการเ​คลอ่ื นไหวท​ างส​ งั คมร​ ปู แ​ บบใ​หม่ ขบวนการเ​คลอ่ื นไหวป​ ระชาส​ งั คมใ​นต​ า่ งป​ ระเทศ กรงุ เทพมหานคร
สำ�นักพ​ ิมพ์​วิภ​ าษา 2540
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60