Page 57 - สังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
P. 57

สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมยี นมา 11-47

เรื่องที่ 11.3.2
ประเพณีและวิถีการด�ำเนินชีวิต

       นบั แตอ่ ดตี พมา่ มงี านประเพณขี องแตล่ ะเดอื นในรอบปี เรยี กวา่ แซะนะละ่ หยา่ ตบ่ี แว หรอื ประเพณี
สบิ สองเดอื น แมว้ า่ ในปจั จุบันพมา่ จะยังคงสืบทอดงานประเพณสี ิบสองเดือนไว้ แตก่ ม็ กี ารเปลีย่ นแปลงไป
จากเดมิ บา้ ง ประเพณสี บิ สองเดอื นของพมา่ เปน็ ดงั นี้ (เดอื น 1 ของพมา่ เทา่ กบั เดอื น 5 ของไทย และเดอื น
12 ของไทยเทา่ กับเดือน 8 พม่า)

       เดือนหน่ึง เรียกว่า เดือนดะกู (มี.ค.-เม.ย.) เป็นเดือนเร่ิมศักราชใหม่ และเป็นเดือนต้นฤดูร้อน
ประเพณสี �ำคญั ของเดือนนคี้ อื งานฉลองสงกรานต์ พม่าถือเป็นงานฉลองวันสง่ ท้ายปีเก่าและย่างสปู่ ใี หม่ มี
การเล่นสาดนา้ํ กนั ตลอด 5 วนั ชาวพม่าถือว่าช่วงเวลานเ้ี ป็นวันมงคล จงึ นยิ มเขา้ วัดรกั ษาศีล ช่วยกวาด
ลานวดั และลานเจดยี ์ สรงนา้ํ พระพทุ ธเจดยี ์ รดนาํ้ ดำ� หวั พอ่ แม่ ปู่ ยา่ ตา ยาย ตลอดจนครบู าอาจารย์ และ
สระผมให้ผู้เฒา่ ผู้แกด่ ้วยนา้ํ สม้ ป่อย งดการฆ่าสัตว์ตัดชวี ิต บ้างสร้างกุศลดว้ ยการปลอ่ ยววั ควาย และปลา
เมื่อสิ้นสงกรานต์ ชาวพม่าจะนิยมจัดงานบวชเณรให้บุตรและจัดงานเจาะหูให้ธิดา ดังนั้นในช่วงหลัง
สงกรานต์ จะพบเหน็ ขบวนแห่ลูกแกว้ และลกู หญิงไปตามท้องถนนและรอบลานองคเ์ จดีย์ตามวดั ต่างๆ จงึ
มีสามเณรบวชใหม่อยู่กนั เตม็ แทบทุกวัด

       เดือนสอง เรยี กว่า เดอื นกะโส่ง (เม.ย.-พ.ค.) พม่ามสี �ำนวนว่า “ดะกูนํา้ ลง กะโสง่ นํ้าแล้ง” เดือน
กะโสง่ จงึ เป็นเดอื นทแี่ ห้งแล้ง ภาวะอากาศในเดอื นน้ีออกจะร้อนอบอ้าวกว่าเดือนอื่นๆ ชาวพุทธพมา่ จงึ จดั
งานรดนา้ํ ตน้ โพธก์ิ นั ในวนั เพญ็ ของเดอื นกะโสง่ และถอื อกี วา่ วนั นต้ี รงกบั วนั ทพี่ ระพทุ ธเจา้ ทรงประสตู ิ ตรสั รู้
และปรนิ พิ พาน ในชว่ งหลงั สงครามโลกครง้ั ทส่ี อง พมา่ ไดก้ ำ� หนดเรยี กวนั ดงั กลา่ ววา่ วนั พทุ ธะ ในวนั นช้ี าว
พทุ ธพมา่ จะนยิ มปฏบิ ัตบิ ูชาตามวัด และเจดยี ์ ด้วยการรกั ษาศีลและเจริญภาวนา วดั และเจดียจ์ งึ มีผคู้ นไป
ทำ� บญุ มากเปน็ พเิ ศษ เดอื นกะโสง่ นบั เปน็ เดอื นทฝ่ี นเรมิ่ ตง้ั เคา้ ชาวนาจะเรมิ่ ลงนาเพอ่ื เตรยี มพน้ื ทเ่ี พาะปลกู

       เดือนสาม เรียกว่า เดอื นนะโหยง่ (พ.ค.-มิ.ย.) เดือนน้ีเป็นเดอื นเริม่ การเพาะปลูก ฝนฟ้าเริม่ ส่อ
เคา้ และโปรยปราย อากาศเรม่ิ คลายรอ้ น ตน้ ไมใ้ บหญา้ เรม่ิ แตกยอด โรงเรยี นตา่ งเรม่ิ เทอมใหมห่ ลงั จากปดิ
ภาคฤดรู ้อน เดือนนะโหย่งจงึ นบั เปน็ เดอื นเร่ิมชีวติ ใหมห่ ลังจากผ่านร้อนผา่ นหนาวมาหลายเดือน	ในสมัย
ราชวงศเ์ คยจดั พิธีแรกนาขวญั ในเดอื นน้ี พมา่ เรยี กพธิ นี ้ีวา่ “งานมงคลไถนา” ส่วนในทางศาสนา เคยเปน็
เดือนสอบท่องหนงั สอื พุทธธรรมสำ� หรับพระเณร กลา่ ววา่ มมี าตัง้ แตส่ มยั ของพระเจา้ ตาหลุ่นมงี ตะยา แห่ง
อังวะยุคหลัง ในอดีตจะสอบเฉพาะท่องหนังสือด้วยปากเปล่า แต่ปัจจุบันมีท้ังการสอบเขียนและสอบท่อง
และไดย้ ้ายไปจดั ในเดอื นดะกซู ง่ึ เป็นเดอื นแรกของปี

       เดือนส่ี เรียกว่า เดือนหวา่ โส่ (ม.ิ ย.-ก.ค.) ถอื เป็นเดอื นสำ� คญั ทางพุทธศาสนาด้วยเป็นเดอื นเขา้
พรรษา พม่าก�ำหนดให้วันเพ็ญเดือนหว่าโส่เป็นวันธรรมจักร เพื่อน้อมร�ำลึกวันประสูติ วันออกบวช และ
วันปฐมเทศนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในวันนี้ชาวพุทธพม่าจะเข้าวัดท�ำบุญและนมัสการพุทธเจดีย์กัน
อย่างเนืองแน่น และถัดจากวันธรรมจักร คือ วันแรก 1 ค่ําของเดือนหว่าโส่ จะเป็นวันที่พระสงฆ์เร่ิมจ�ำ
   52   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62