Page 61 - สังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
P. 61
สาธารณรฐั แหง่ สหภาพเมียนมา 11-51
ในชว่ งสงกรานตจ์ ะมดี อกไมป้ ระจำ� 7 ชนดิ เรยี กรวมวา่ ดอกสงกรานต์ หรอื ตะตงั ปาง ทพ่ี บเหน็
ไดง้ า่ ยคอื ดอกคนู และดอกประดู่ พมา่ เรยี กดอกประดคู่ ลา้ ยไทยวา่ ปะเดา้ ดอกประดจู่ ะบานหลงั ฝนเปลย่ี น
ฤดทู พี่ มา่ เรยี กวา่ ฝนสงกรานต์ หรอื ตะจงั โม ในชว่ งสงกรานตช์ าวบา้ นจะนำ� ดอกประดมู่ าบชู าพระและนำ�
มาแซมผม ส่วนขนมประจ�ำสงกรานต์ทพ่ี บบอ่ ย คือ ขนมต้ม พม่าเรยี ก ลกู ขนมลอยนา้ํ หรอื มง่ โลงเหย่
บอ่ ชาวพมา่ นยิ มทำ� ขนมตม้ เพอื่ แจกญาตมิ ติ ร สว่ นคนทมี่ เี ชอื้ สายมอญจะทำ� ขา้ วแช่ ทเ่ี รยี กวา่ ตะจงั ถะมงี
แปลว่า ข้าวสงกรานต์
การเลน่ นา้ํ สงกรานตใ์ นพม่ามีระดับความน่มุ นวลมากน้อยตา่ งกนั ตามวสิ ยั สภุ าพที่สุดจะใชใ้ บหวา้
จุ่มน้ําจากขันเงินแล้วประพรมท่ีไหล่ ใบหว้าถือเป็นไม้นามมงคล พม่าเรียกว่า อ่องตะปเหย่ แฝงนัยว่า
สัมฤทธ์ิ ชาวพม่านยิ มบชู าพระด้วยใบหวา้ แลว้ อาจน�ำมาประดับบ้าน ร้านคา้ และพาหนะ หรือพกตดิ ตวั
เปน็ มงคล การรดนาํ้ อีกวธิ หี นึง่ ทยี่ ังดสู ุภาพคือการรนิ รดน้ําท่ีไหล่ ส่วนการเล่นน้ําทีเ่ นน้ ความสนุกนนั้ มีทั้ง
สาดทง้ั ฉดี ดว้ ยสายยาง บรรยากาศงานสงกรานตต์ ามเมอื งใหญข่ องพมา่ โดยเฉพาะยา่ งกงุ้ และมณั ฑะเลยๆ์
ตามถนนจะมีปะรำ� สำ� หรับการแสดงดนตรี รอ้ งรำ� และเล่นสาดนํ้า พอพน้ จากวันเล่นนาํ้ 3 วนั ก็จะเปน็ วัน
ปีใหม่ ชาวพมา่ จะไปถวายดอกไม้ บูชาประทีป สรงน้ํา และขอพรกับพระพทุ ธรูปและพุทธเจดีย์ ฟงั สวด
มงคลสูตรที่โรงธรรมกลางบ้าน และถวายอาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ มีการจัดงานคารวะครูอาจารย์ สระผม
และตดั เลบ็ ใหผ้ เู้ ฒา่ ผแู้ กท่ ง้ั ทบี่ า้ นและทพี่ กั คนชรา พรอ้ มกบั มอบเครอื่ งนงุ่ หม่ ใหมแ่ ดผ่ ใู้ หญท่ ตี่ นเคารพ อกี
ทั้งทำ� ทานไว้ชีวติ วัวควาย ปลอ่ ยนก ปลอ่ ยปลา ตามเจดยี ์และวดั สำ� คญั จะเนอื งแน่นไปด้วยผคู้ นนบั แต่เช้า
จรดค่ํา75
ประเพณกี ารบวชเณร หรอื ทเ่ี รยี กในภาษาพมา่ วา่ ฉนี ปยุ (Shinbyu) หรอื ทร่ี จู้ กั กนั ในทางภาคเหนอื
ของไทยว่า การบวชลกู แก้ว หรอื ปอยสา่ งลองของชาวไต นบั ได้ว่าเปน็ ประเพณที ี่สำ� คัญอย่างมากตอ่ ชวี ิต
พุทธศาสนิกชนชาวพมา่ เพราะถอื เป็นหน้าที่ของบิดามารดาที่จะต้องจดั งานบวชเณรให้บตุ รชายกอ่ นอายุ
20 ประเพณกี ารบวชเณรของพม่าน้นั มกี ารจดั ขบวนแห่ย่ิงใหญ่มากวา่ ประเพณีการบวชพระ เดก็ ชายทีจ่ ะ
บวชเณรน้ันจะแต่งกายด้วยเส้ือผ้าและเคร่ืองประดับอันงดงามประดุจเจ้าชาย แวดล้อมไปด้วยขบวนของ
ผอู้ าวโุ สและญาตมิ ติ รทแ่ี ตง่ กายงดงามทถ่ี อื พานใสข่ า้ วของทจี่ ดั เตรยี มเปน็ พทุ ธบชู า กอ่ นบวชจะทำ� การแห่
ขบวนไปนมัสการบูชายังวัดหรือเจดีย์ศักด์ิสิทธ์ิส�ำคัญในพื้นที่ เด็กชายท่ีจะบวชเณรจะขี่คอผู้ใหญ่ หรือ
อาจจะนัง่ บนหลังชา้ งหรือม้าในขบวนแห่น้ี การจดั ขบวนแหฉ่ นี ปยเุ ป็นการจำ� ลองการบวชของเจ้าชายตาม
พทุ ธต�ำนาน ประเพณสี �ำคญั ของเดก็ ผหู้ ญงิ ทม่ี กั จะจดั ควบคไู่ ปกับประเพณฉี นี ปยขุ องเดก็ ชาย คอื พธิ กี าร
เจาะหู หรอื ภาษาพมา่ วา่ หนา่ ดวนิ (Nha-dwin) อนั เปน็ สญั ลกั ษณแ์ สดงถงึ การเปลยี่ นผา่ นไปสวู่ ยั ผใู้ หญ่
ประเพณกี ารบวชลูกแกว้ และการเจาะหูน้ีนยิ มจัดงานบรรพชาสามเณรในช่วงหลังสงกรานต์
งานประเพณีท่ีส�ำคัญอีกงานหน่ึงของพุทธศาสนิกชนชาวพม่าคืองานไหว้พุทธเจดีย์ การก�ำหนด
ชว่ งเวลาไหวพ้ ระเจดยี ใ์ นแตล่ ะแหง่ นนั้ มกั จะตอ้ งจดั ตรงกนั ทกุ ปี การกำ� หนดวนั กแ็ ลว้ แตท่ อ้ งถน่ิ เจดยี บ์ าง
แห่งจัดงานฉลองตามวันท่ผี ู้สร้างเจดยี น์ นั้ ๆ กำ� หนดไว้ บางทจี่ ดั ตามวนั ทก่ี ำ� หนดสืบเนอื่ งกันมา บางทีจ่ ดั
ตามความพร้อม แต่จะพยายามจัดให้ตรงตามวันที่เคยจัดในปีผ่านๆ มา งานไหว้เจดีย์ส่วนมากนิยม
75 เรยี บเรียงจาก เร่ืองเดยี วกัน. น. 89-93.
