Page 58 - สังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
P. 58

11-48 สงั คมและวฒั นธรรมอาเซยี น
พรรษาในเดือนน้ี สาวๆ พม่าในหม่บู า้ นมกั จะจบั กลมุ่ ออกหาดอกไมน้ านาเรยี กรวมๆ ว่า ดอกเขา้ พรรษา
ซึ่งขึ้นอยู่ตามชายป่าใกล้หมู่บ้านเพ่ือน�ำมาบูชาพุทธเจดีย์ นอกจากน้ียังมีการถวายจีวรและเทียนท่ีวัด
กิจกรรมส�ำคัญอีกอย่างหนึ่งในเดือนหว่าโส่ คือ งานบวชพระ ด้วยถือว่าวันเพ็ญเดือนหว่าโส่นั้นเป็นวันที่
พระพทุ ธเจา้ ทรงบวชให้แกเ่ บญจวคั คี ในอดตี นนั้ พระมหากษตั รยิ ์จะทรงเป็นองค์อุปถัมภก์ ารบวชพระและ
เณรส�ำหรบั ผสู้ อบผ่านพุทธธรรมตามทจ่ี ัดสอบในเดอื นนะโหย่งทผี่ ่านมา ฤดฝู นจะเริ่มในเดือนหว่าโส่ และ
ในเดอื นหวา่ โสน่ ยี้ งั เปน็ เดอื นลงนาปลกู ขา้ ว เลา่ กนั วา่ ชาวนาจะลงแขกปกั ดำ� ขา้ วในนาพรอ้ มกบั ขบั เพลงกนั
ก้องท้องทุง่ นา

       เดือนห้า เรียกว่า เดือนหว่าข่อง (ก.ค.-ส.ค.) เป็นเดือนกลางพรรษา และเป็นเดือนท่ีมีงานบุญ
สลากภตั พมา่ เรียกว่า ส่าเยดง่ั บแว แต่เดิมใช้การจบั ต้ิวภายหลังหนั มาใช้กระดาษม้วนเป็นสลาก ปจั จุบนั
การจดั งานบญุ สลากภตั มกี ลา่ วถงึ กนั นอ้ ยลง แตก่ ลบั มงี านทเี่ ดน่ ดงั ระดบั ประเทศขน้ึ มาแทน คอื งานบชู าผี
นัตที่หมูบ่ า้ นต่องปะโยง ณ ชานเมืองมัณฑะเลยเ์ ดือนน้เี ป็นเดือนที่ฝนมกั ตกหนกั กว่าเดือนอนื่

       เดือนหก เรียกว่า เดอื นต่อตะลงี (ส.ค.-ก.ย.) เป็นเดือนน้ําหลาก น้าํ ตามแม่นํา้ ลำ� คลองจะขึ้นเออ่
เตม็ ตลง่ิ หลายทอ้ งถนิ่ จะจดั งานแขง่ เรอื กนั อยา่ งสนกุ สนาน และในเดอื นนเ้ี ชน่ กนั จะพบเหน็ แพซงุ ลอ่ งตาม
ล�ำนํา้ เปน็ ทิวแถว โดยเฉพาะในแมน่ ํา้ อิรวดี แพซงุ จะลอ่ งจากเหนือสู่ปลายทาง ณ ท่านํ้าเมืองย่างกุ้ง และ
เดือนน้ีอกี เช่นกนั ทีช่ าวประมงจะเริม่ ลงอวนจบั ปลา ดว้ ยเป็นเดือนทม่ี ีปลาออกจะชุกชุมเปน็ พเิ ศษ

       เดือนเจ็ด เรียกว่า เดือนตะดีงจุต (ก.ย.-ต.ค.) ในวันเพ็ญของเดือนน้ีจะมีการท�ำปวารณาในหมู่
สงฆ์ ชาวพุทธพมา่ เรียกวันนเี้ ป็นวนั อภิธรรม ด้วยเป็นวนั ทพี่ ระพุทธองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์ชนั้ ดาวดงึ ส์
หลังจากท่ีทรงเทศนาพระอภิธรรมตลอด 3 เดือนในพรรษาที่ผ่านมา ชาวพุทธจะจัดงานจุดประทีปเพ่ือ
สักการะบูชาพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ยังมีงานลอยโคมไฟ บางที่จะท�ำโคมลอยขนาดใหญ่เป็นรูปโพตู่ด่อ
หรือ ปะขาว รปู ช้าง และรูปเสือ เป็นอาทิ นยั วา่ ทำ� เพอ่ื บูชาพระธาตุจฬุ ามณี ซ่งึ อย่บู นสวรรค์ชัน้ ดาวดงึ ส์
นอกจากนใี้ นรฐั ฉานจะมงี านบชู าพระเจา้ ผอ่ งดอ่ อู ซง่ึ เปน็ พระพทุ ธรปู 5 องค์ ทหี่ มบู่ า้ นนนั ฮู ณ กลางทะเล
สาบอีงเล กล่าวกันว่าพระเจ้าผ่องด่ออูเป็นพระพุทธรูปที่มีมาแต่สมัยพระเจ้าอลองสิทธูแห่งพุกาม ต่อจาก
วันอภิธรรมจะเปน็ วันออกจากพรรษา ซ่งึ ตรงกับวันแรม 1 คํ่า ของเดอื นดะดีงจุ๊ต ในเดือนตะดีงจุ๊ตนีย้ งั จดั
ประเพณไี หวข้ มาตอ่ บดิ ามารดาและครบู าอาจารย์ นอกจากนชี้ าวพมา่ ยงั เรมิ่ จดั งานมงคลสมรสกนั ในเดอื น
น้ี โดยเริม่ จัดนับแต่วันแรม 1 ค่ํา ของเดือนตะดงี จุ๊ต ด้วยเชือ่ ว่าช่วงในพรรษาน้ันกามเทพ หรือเทพสตั ตะ
ภาคะจ�ำตอ้ งพกั ผ่อน จงึ ต้องเลี่ยงจดั งานแตง่ งานในช่วงเวลาดงั กล่าวจนกว่าจะพน้ ช่วงพรรษา

       เดือนแปด เรียกว่า เดือนตะส่องโมง (ต.ค.-พ.ย.) เป็นเดือนเปลี่ยนฤดูจากหน้าฝนย่างเข้าหน้า
หนาว กล่าวคอื ครง่ึ แรกของเดือนจะเปน็ ทา้ ยฤดฝู น และคร่งึ หลงั ของเดอื นจะเป็นชว่ งตน้ หนาว ชาวนาจะ
เริ่มเก็บเกี่ยวข้าวกันในเดือนน้ี ในทางพุทธศาสนานั้น เดือนตะส่องโมงถือเป็นเดือนส�ำหรับงานทอดกฐิน
ซงึ่ ทจี่ รงิ พมา่ กำ� หนดชว่ งเวลาจดั งานทอดกฐนิ เรมิ่ ตง้ั แตว่ นั แรม 1 คา่ํ กลางเดอื นตะดงี จตุ๊ จนถงึ วนั เพญ็ กลาง
เดอื นตะสอ่ งโมง รวมเวลาหน่ึงเดอื นเต็ม ในงานกฐนิ น้ีจะมีการแหค่ รัวทานท่พี มา่ เรยี กว่า ปเดต่ ่าบี่ง หรอื
ต้นกัลปพฤกษ์ และในวนั สดุ ทา้ ยของฤดูกฐิน ซ่ึงตรงกบั วนั เพญ็ ของเดอื นตะสอ่ งโมงน้ัน ชาวพทุ ธพมา่ จะ
มีการจัดงานจุลกฐนิ พมา่ เรียกจลุ กฐนิ นี้วา่ มโตต่งี กาง แปลตามศพั ทว์ า่ “จวี รไม่บูด” เทยี บไดก้ บั อาหาร
ที่ท้ิงให้ค้างคืนจนเสีย มโตตี่งกางเป็นกฐินท่ีต้องท�ำให้แล้วเสร็จภายในวันเดียว เร่ิมแต่ปั่นฝ้ายให้เป็นด้าย
   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63