Page 38 - วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมเพื่อชีวิต
P. 38
5-28 วทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยแี ละสง่ิ แวดลอ้ มเพอ่ื ชวี ิต
3.2.1 สารออกซาเลต (Oxalate) มกี ลมุ่ ผลกึ ของสารแคลเซยี มออกซาเลตทม่ี ลี กั ษณะคลา้ ย
หนามคม เมื่อรับประทานเข้าไปจะเกิดอาการระคายเคืองต่อปาก และระบบทางเดินอาหาร ท�ำให้รู้สึก
ปวดแสบปวดรอ้ นในปาก ล�ำคอ และเยื่อบลุ ำ� ไส้เลก็ และยงั มผี ลตอ่ ไตทำ� ใหไ้ ตอกั เสบเฉียบพลันได้ สารน้ี
พบได้ในพืชจ�ำพวก ชา โกโก้ ผกั ค่นื ช่าย ผกั คะน้า ผกั ชี มะเขือ แครอท สตรอเบอรี่ อง่นุ สมี ว่ ง และพืช
ทมี่ ีขน เชน่ บอน เผอื ก เป็นต้น
3.2.2 สารโซลานีน (Solanine) เปน็ สารทมี่ ฤี ทธติ์ อ่ ระบบทางเดนิ อาหารและระบบประสาท
ท�ำให้มีอาการง่วงนอน อ่อนเพลีย คลื่นไส้ ท้องร่วง และเสียชีวิตได้ สารนี้มีอยู่ในมันฝร่ังโดยเฉพาะตรง
บริเวณตาทีก่ �ำลังงอกเป็นต้นออ่ น ดงั นนั้ ถา้ แกะตาทีก่ �ำลังงอกทงิ้ ให้หมดจะปลอดภยั จากสารพษิ น้ี
3.2.3 สารไซยาไนด์ (Cyanide) มีฤทธ์ิต่อฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงกลายเป็นสาร
ไซยาโนฮีโมโกลบนิ (Cyano haemoglobin) ท�ำใหเ้ มด็ เลอื ดแดงไมส่ ามารถจับกับออกซเิ จนในปอดไปสู่
เซลลต์ ่างๆ ของรา่ งกายได้ ท�ำให้ผู้รับพิษมีอาการมึนซมึ หน้าเขียว เล็บเขียว หายใจหอบ หมดสติ และ
เสียชีวติ สารนี้พบได้ท่ยี อดมนั ส�ำปะหลัง ผักหนาม ผักเสีย้ น ยอดข้าวฝ่าง ลกู กระ ต้นกระถินเทศ แตจ่ ะ
ถกู ทำ� ลายไดใ้ นความรอ้ น ดงั นนั้ ถา้ ตอ้ งการบรโิ ภคพชื เหลา่ นต้ี อ้ งนำ� ไปลวกหรอื ตม้ ใหส้ กุ กอ่ นจะบรโิ ภคได้
อยา่ งปลอดภัย
3.2.4 สารกอยโตรเจน (Goitrogen) มีฤทธิ์ขัดขวางการท�ำงานของไอโอดีนในการสร้าง
ฮอรโ์ มนธยั รอกซนิ โดยตอ่ มธยั รอยด์ สารนมี้ กี ำ� มะถนั เปน็ องคป์ ระกอบพบไดใ้ นผกั ตา่ งๆ ไดแ้ ก่ ผกั ตระกลู
กะหล่าํ คะนา้ บรอคโคลี แตจ่ ะถกู ทำ� ลายได้ในความรอ้ นจงึ ควรบรโิ ภคโดยการนำ� ไปทำ� ให้สุกก่อน
3.2.5 กรดเจนโคลกิ (Djencolic Acid) มพี ษิ เนอื่ งจากการตกตะกอนเปน็ กอ้ นนวิ่ ในทางเดนิ
ปสั สาวะพบในลกู เนยี งทนี่ ยิ มบรโิ ภคมากในภาคใตข้ องประเทศไทย แตจ่ ะถกู ทำ� ลายในความรอ้ นจงึ สามารถ
บริโภคได้เม่อื ทำ� ให้สกุ
3.2.6 สารไดออสคารีนและไดออกซีน (Dioscarine and Dioschine) มีฤทธิ์ต่อระบบ
ประสาทส่วนกลางทำ� ใหเ้ กิดอาการคล่ืนไส้ อาเจยี น เวียนศรี ษะ ชกั และเสยี ชวี ติ พบในหวั กลอยดิบ แต่
สามารถบรโิ ภคไดโ้ ดยการนำ� มาปอกเปลอื กแลว้ ฝานเปน็ ชนิ้ บางๆ ใสภ่ าชนะสานโปรง่ นำ� ไปแชน่ าํ้ ไหลผา่ น
จนกลายเปน็ กลอยจดื ทีก่ ินได้อยา่ งปลอดภัย
3.2.7 สารซิโลซัยบิน (Psilocybin) ในเห็ดเมา เม่ือเข้าไปท่ีตับจะเปล่ียนเป็นสารซิโลซิน
(Psilocin) กระจายเขา้ ส่กู ระแสเลอื ดและไปออกฤทธ์ิทส่ี มองทำ� ให้การรับรู้ของสมองผดิ เพ้ยี นไปจากปกติ
ดังนั้นจึงควรระวังในการบริโภคเห็ดท่ีไม่รู้จัก ไม่กินเห็ดดิบๆ เห็ดท่ีท้ิงไว้นาน และไม่กินเห็ดร่วมกับสุรา
เพราะการเกิดปฏิกริ ยิ ารนุ แรงจนถึงเสียชวี ติ ได้
3.3 สารพิษในอาหารจากสัตว์ สตั วเ์ ปน็ แหลง่ อาหารโปรตนี ทสี่ ำ� คญั ของมนษุ ย์ แตก่ อ็ าจมสี ารพษิ
ทเ่ี ป็นอนั ตรายจากการบริโภคไดด้ งั นี้
3.3.1 สารพิษที่เกิดจากแบคทีเรียตามธรรมชาติในปลาทะเลที่ไม่สด
3.3.2 สารพิษจากไข่แมงดาทะเล แมงดาทะเลในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ แมงดาจาน
และแมงดาถว้ ย ชนดิ ท่มี พี ษิ คือแมงดาถ้วย ลักษณะทแี่ ตกต่างกนั คือ แมงดาจานมกี ระดองใหญ่กว่า เมอื่
ตัดหางของแมงดาทะเล หน้าตัดของหางแมงดาจานเป็นรูปสามเหล่ียม ส่วนหน้าตัดของหางแมงดาถ้วย