Page 39 - วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมเพื่อชีวิต
P. 39

สารเคมใี นชีวิตประจ�ำวนั และสิง่ แวดลอ้ ม 5-29
เปน็ รปู กลม สารพษิ มชี อื่ วา่ เตโตรโดทอ็ กซนิ (Tetrodotoxin) เปน็ สารทที่ นตอ่ ความรอ้ นสงู มฤี ทธย์ บั ยงั้
การท�ำงานของระบบประสาทรับความรู้สึกและการเคลื่อนไหว ความรุนแรงของพิษไข่แมงดาทะเลจะแปร
เปลี่ยนไปตามช่วงเวลาโดยจะมีพิษในช่วงเดือนธันวาคม-เมษายน ผู้ที่ได้รับพิษจากแมงดาทะเลเกือบ
ทกุ รายจะมอี าการชารอบปาก ชาลิ้น และปลายมอื ปลายเท้า บางคนมีอาการคลืน่ ไส้ อาเจยี น เวยี นศรี ษะ
ต้องรบี ส่งโรงพยาบาลโดยเรว็ ในขัน้ ทม่ี อี าการหนกั ตอ้ งใช้เครอื่ งชว่ ยหายใจ และอาจถึงขัน้ เสยี ชีวิตได้

            3.3.3	 สารพิษจากปลาปักเป้า ในเนอ้ื ของปลาปักเป้ามีสารพิษชอื่ เตโตรโดท็อกซินเปน็ สาร
ชนดิ เดยี วกนั กบั สารพษิ ในไขแ่ มงดาถว้ ย บางครงั้ พบวา่ เปน็ สารพษิ ทสี่ รา้ งโดยแพลงกต์ อนพชื บางชนดิ ชอื่
แชกซิท็อกซิน (Saxitoxin) สารพิษทั้งสองชนิดนี้ไม่ใช่โปรตีนและทนต่อความร้อนสูง การต้ม ทอด ปิ้ง
ย่าง ไม่สามารถทำ� ลายพษิ ได้ จึงไมค่ วรบรโิ ภคปลาปกั เปา้ โดยเฉพาะบรเิ วณผวิ หนงั และเคร่ืองใน อาการ
ของผู้แพ้พิษมี 4 ขั้น เริ่มจากการชารอบปาก แขนขาอ่อนแรงเดินไม่ได้ กล้ามเนื้อท่ีปากบังคับไม่ได้
ออ่ นแรงทว่ั ทงั้ ตวั หายใจลำ� บาก ความดนั ตา่ํ มาก และเสยี ชวี ติ เนอื่ งจากระบบหวั ใจและการไหลเวยี นเลอื ด
ล้มเหลว ผู้เคราะห์ร้ายบางรายบริโภคเนื้อปลาปักเป้าโดยไม่รู้ โดยเฉพาะที่ประเทศญ่ีปุ่นมีผู้เสียชีวิตจาก
การกินปลาปักเป้าเป็นจ�ำนวนมาก จนต้องออกกฎหมายควบคุมการกินปลาปักเป้าให้ผู้ปรุงอาหารปลา
ปกั เป้าต้องสอบใบอนุญาตประกอบวชิ าชพี อยา่ งเคร่งครัด

            3.3.4 	สารพิษในไข่ ไข่เป็นอาหารยอดนิยมอย่างหนึ่งโดยเฉพาะไข่ไก่และไข่เป็ด ในไข่มี
สว่ นประกอบเป็นไข่ขาวและไขแ่ ดง การบรโิ ภคไขส่ กุ มคี วามปลอดภยั มากกว่าไขด่ บิ โดยเฉพาะไข่ขาวดิบ
ทีบ่ รโิ ภคแลว้ ทำ� ใหผ้ ู้บรโิ ภคขาดวิตามินบี และขัดขวางการท�ำงานของระบบย่อยโปรตีนในรา่ งกาย แตถ่ า้
ท�ำให้สุกสารพิษนี้จะถูกท�ำลายไป การบริโภคไข่เป็นประจ�ำทุกวันในจ�ำนวนมากมีโอกาสเส่ียงต่อการเป็น
โรคหลอดเลือดและหัวใจ เนื่องจากไข่แดงเป็นแหล่งให้พลังงานสูง มีผลให้ไขมันตัวดี (HDL) มีค่าน้อย
และไขมันตัวเลว (LDL) มคี ่าสูง

            3.3.5 	คางคก สำ� หรบั ผทู้ นี่ ยิ มบรโิ ภคเนอื้ กบมโี อกาสไดร้ บั พษิ จากคางคกได้ โดยเฉพาะเมอื่
บรโิ ภคโดยไมร่ ทู้ ม่ี าและไมเ่ หน็ สภาพของกบกอ่ นนำ� มาปรงุ พษิ ของคางคกจะอยทู่ บี่ รเิ วณผวิ หนงั ทเ่ี ปน็ ตอ่ ม
ตะปุม่ ตะปาํ่ ทีส่ ามารถปลอ่ ยสารพิษทมี่ ลี กั ษณะเป็นยางเหนยี วสขี าว มีกลิน่ ฉนุ และมฤี ทธิ์ต่อหวั ใจ ท�ำให้
อาเจียน หัวใจหยดุ เตน้

       การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสารเคมีในอาหารท�ำให้รู้ว่าในอาหารที่เรารับประทานเข้าไปมีสารเคมีใด
ประกอบอยู่บ้าง ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์ต่อร่างกายแล้วก็ยังเป็นพิษภัยอีกด้วย เมื่อมีความรู้แล้วก็จะ
ทำ� ให้รจู้ ัก การหลกี เลี่ยงไม่บริโภคสารทีม่ ีพษิ ต่อร่างกายกจ็ ะปลอดภยั จากการบริโภคสารเคมีทีเ่ ป็นพษิ ใน
อาหารได้
กิจกรรม 5.1.2

       1.	 จงบอกช่อื ทางเคมีหรอื ชื่อสารท่ีเปน็ ส่วนประกอบสำ� คัญของสารปรงุ แตง่ อาหารต่อไปนี้
            1.1 ผงชรู ส 1.2 นํ้าส้มสายชู 1.3 น้าํ มะนาวเทียม 1.4 เกลือ

       2. 	สารเคมีในอาหารทีม่ กั ไม่พบเหน็ โดยตรง แตม่ ีปะปนอยใู่ นอาหารมอี ะไรบ้าง
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44