Page 48 - ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร
P. 48

๑๒-38 ภาษาไทยเพ่อื การสอ่ื สาร
       ในนทิ านข้างต้น พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อย่หู ัวทรงคิดคำ� ใหม่ๆ ข้นึ ทรงใชเ้ รยี กเป็นชือ่

ของหมาตัวนี้ตามสถานภาพท่ีแตกต่างกันไป และเป็นค�ำท่ีเหมาะสมท้ังค�ำและความหมาย ได้แก่ ค�ำว่า
“หมา” “นายหมา” “พญาโสณามาตย”์ (พญาอำ� มาตย์หมา) “พระเจา้ โสณะราช” (พระเจ้าแผน่ ดินหมา)
“พระโสณาทิตย์” (พระอาทิตย์หมา) “โสณะเมฆ” (เมฆหมา) และ “โสณะวายุ” (พระพายุหมา)
เม่ือพิจารณาค�ำ  “โสณะ” ที่ทรงใช้ พบว่าทรงน�ำไปรวมกับค�ำอ่ืนแล้วสร้างเป็นค�ำใหม่เพื่อระบุสถานภาพ
ในขณะน้ันของหมาตัวน้ีได้อย่างชัดเจนและเหมาะสมยิ่ง สะท้อนให้เห็นว่าพระองค์ทรงมีศิลปะในการคิด
ขนึ้ ใหมไ่ ดอ้ ยา่ งน่าสนใจและแยบคายย่งิ

       จากทกี่ ลา่ วมาแสดงใหเ้ หน็ วา่ ผทู้ จ่ี ะใชค้ ำ� เหลา่ นไี้ ด้ ตอ้ งมคี วามรเู้ รอ่ื งคำ� ตา่ งๆ ทมี่ คี วามหมายอยา่ ง
เดียวกันเปน็ อย่างดี จงึ ทำ� ได้อยา่ งมศี ลิ ปะและนา่ ชืน่ ชม

       ๙.	 คิดค�ำใหม่ขึ้นใช้ คนสมัยปัจจุบันมีความสามารถในการคิดค�ำใหม่ๆ ข้ึนใช้ในภาษาหรือใน
การสอื่ สาร เชน่ ค�ำว่า “คจู่ ้นิ ” หมายถึง คพู่ ระนางท่ีมีคนตอ้ งการใหเ้ ป็นคนรักกนั ค�ำว่า “จ้นิ ” ในที่นี้มา
จากคำ� ภาษาองั กฤษว่า “imagine” คำ� ว่า “ต่ิง” เชน่ “ติ่งเกาหล”ี หมายถึง ผูน้ ิยมดลู ะครของเกาหลหี รอื
ผูช้ ื่นชอบดาราเกาหลี และค�ำว่า “แห้ว” ที่มคี วามหมายว่าไม่สมหวัง

       ๑๐.		 ใช้ภาษาในบริบทใหม่ มคี �ำหลายค�ำท่เี ดมิ ใช้ในบรบิ ทหนงึ่ แตม่ ผี ้นู ำ� มาใช้ในบรบิ ทใหม่ เชน่
ค�ำว่า “โต” เดิมใช้บรรยายรูปลักษณ์ท่ีสื่อความหมายว่าใหญ่ แต่มีผู้น�ำมาใช้กับเด็กๆ ในบริบทใหม่ที่
ไมเ่ คยมใี ชม้ ากอ่ น เชน่ “อา้ ปากโตๆ” ทสี่ อ่ื ความหมายวา่ อา้ ปากกวา้ งๆ “กนิ ขา้ วคำ� โต” หมายถงึ กนิ ขา้ ว
คำ� ใหญๆ่ หรอื คำ� วา่ “อมิ่ ” เดมิ ใชเ้ กย่ี วแกก่ ารกนิ คอื กนิ จนกระทง่ั ไมม่ เี นอื้ ทใี่ นทอ้ งทจ่ี ะกนิ อะไรเพม่ิ ไดอ้ กี
เรียกวา่ “กินอิ่ม” มคี นน�ำค�ำน้มี าใชเ้ กย่ี วแก่การนอน เรยี กวา่ “นอนอิ่ม” หรอื “นอนเตม็ อิ่ม” หมายถงึ
นอนหลับได้เต็มท่ี มีคนน�ำคำ� ว่า “นาง” มาใชห้ มายถงึ ผู้หญิง ผ้ชู าย หรือคนเพศที่ ๓ ก็ได้ เชน่ “ฉนั จะ
บอกสามีวา่ เธอเชญิ มาเท่ียวบา้ น แตน่ างจะมาหรือเปล่ากไ็ ม่รูน้ ะ” หรอื คำ� วา่ “หนา” เดมิ ใชแ้ กว่ ตั ถุ แต่มี
ผู้น�ำมาใช้กับเน้ือเสียงในการร้องเพลง โดยใช้ว่า “อยากให้เน้ือเสียงหนากว่าน้ี เสียงท่ีเปล่งออกมาจะได้
ชัดมากข้ึน”

       ปัจจุบัน มีการค�ำว่า “ดุล” มาใช้ในบริบทใหม่ ปกติแล้วค�ำน้ีใช้ในวงการธุรกิจการค้า หมายถึง
ความตา่ งกันระหว่างมูลคา่ ของสนิ คา้ ท่ีส่งออกนอกประเทศกับสนิ คา้ ท่นี �ำเข้ามาในประเทศ ถา้ สินคา้ น�ำเข้า
มีมากกว่าสินค้าที่ส่งออกไปขาย เรียกว่า “เสียดุลการค้า” มีนายแพทย์บางคนน�ำค�ำน้ีมาใช้กับการ
นอนหลบั พกั ผอ่ นโดยกลา่ ววา่ “หากผสู้ งู วยั นอนไมอ่ มิ่ หรอื นอนไมพ่ อกจ็ ะรสู้ กึ ออ่ นเพลยี และรสู้ กึ งว่ งในเวลา
กลางวัน เรียกว่า “ขาดดุลการนอน”

        จากท่กี ล่าวมาเห็นว่าศิลปะการใชภ้ าษาในระดับคำ� มีหลากหลายวธิ ี ซง่ึ แตล่ ะวิธีล้วนทำ� ใหภ้ าษา
ทีใ่ ช้มีลกั ษณะชวนอ่านหรอื ชวนฟงั มากยงิ่ ข้ึน
   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53