Page 21 - การวิจัยทางการวัดและประเมินผลการศึกษา
P. 21

การวัดด้านทักษะพิสัย 7-11

                1.1.2 สอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงคใ์ นการเรยี นรู้ เชน่ กำ� หนดใหผ้ เู้ รยี นเขยี นโครงการวจิ ยั
เขียนไดอะแกรมวงจรไฟฟ้า สร้างแบบเส้ือ เป็นต้น

            1.2 	การทดสอบเชิงจ�ำแนก (identification test) การทดสอบเชิงจ�ำแนกสามารถใช้ได้ใน
สถานการณ์หลายอย่าง อาจให้ผู้เรียนระบุชื่ออุปกรณ์หรือเครื่องมือพร้อมกับวิธีการใช้งานอุปกรณ์ดังกล่าว
หรือก�ำหนดสถานการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งให้ผู้เรียนระบุเครื่องมือและบอกวิธีการในการแก้ปัญหาดังกล่าว
เช่น ให้ผู้เรียนฟังเสียงเครื่องยนต์แล้วระบุปัญหาท่ีเกิดข้ึนกับเครื่องยนต์ น�ำเครื่องรับโทรทัศน์ท่ีมีปัญหาภาพ
พร่ามวั และเสียงดังมากมาให้ผู้เรยี นตรวจสอบ แลว้ ให้บอกสาเหตุของปญั หาและอุปกรณท์ ่ีตอ้ งใช้ในการซ่อม
เป็นต้น การทดสอบเชิงจ�ำแนกประยุกต์ใช้กับการวัดด้านทักษะพิสัยได้ในทุกสาขาวิชา

            1.3 	การทดสอบการปฏิบัติแบบมีโครงสร้าง (structured performance test) เป็นการวัดการ
ปฏิบัติงานภายใต้มาตรฐานและเง่ือนไขท่ีถูกควบคุม ผู้เรียนแต่ละคนต้องปฏิบัติงานภายใต้มาตรฐานและ
เงื่อนไขเดียวกัน เช่น การใช้งานเครื่องจักร การซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น การทดสอบชนิดน้ีต้องมีการ
เตรียมอุปกรณ์ท่ีต้องใช้ในการทดสอบด้วย ในการวัดและประเมินต้องก�ำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างชัดเจน
เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจตรงกัน ได้แก่ จุดมุ่งหมายของการทดสอบ เครื่องมือหรืออุปกรณ์ท่ีต้อง
จัดเตรียม ขั้นตอนและกระบวนการในการปฏิบัติงาน เวลาที่ใช้ในการท�ำแบบทดสอบหรือเง่ือนไขอื่น ๆ
และเกณฑ์ในการให้คะแนน

            1.4 	การปฏิบัติในสถานการณ์จ�ำลอง (simulated performance) เป็นการวัดทักษะปฏิบัติใน
สถานการณ์ท่ีใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงแต่เป็นการทดสอบเพ่ือให้ม่ันใจว่าจะไม่เกิดอันตรายหรือความ
เสียหายทั้งกับผู้ปฏิบัติหรืออุปกรณ์ท่ีใช้ เช่น การยิงปืน การขับรถยนต์ การขับเคร่ืองบิน การใช้เครื่องมือ
ทางการแพทย์ เป็นต้น

            1.5 	การปฏิบัติงานจริง (work sample) เป็นการวัดทักษะปฏิบัติในสถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนจริง
ซึ่งต้องใช้ทักษะหลาย ๆ อย่างในการปฏิบัติและแก้ปัญหาเพ่ือให้งานส�ำเร็จลุล่วงได้ เช่น การขับรถยนต์บน
ถนน การท�ำอาหารเพ่ือรับรองแขกจ�ำนวน 10 คน เป็นต้น

            1.6 	การท�ำโครงงาน (student project) เป็นการวัดทักษะปฏิบัติท่ีผู้ถูกวัดจะต้องแสดงความ
สามารถท้ังเชิงวิชาการ การสื่อสารและทักษะเพ่ือแก้ปัญหาสถานการณ์ในชีวิตประจ�ำวัน (unstructured
real-world problems) หรือผลิตผลงานอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งผู้ถูกประเมินจะต้องเลือกประเด็นปัญหา
ก�ำหนดแนวทางในการศึกษาค้นคว้าจนได้ผลผลิตพร้อมท้ังประเมินผลผลิตที่ได้ โครงการที่มอบหมายให้
ผู้เรียนท�ำควรมีลักษณะดังน้ี

                1.6.1 	วัดผลการเรียนรู้หลายอย่าง
                1.6.2 	บูรณาการความสามารถทั้งด้านพุทธิพิสัย เจตพิสัย และทักษะพิสัย
                1.6.3 	วัดความสามารถในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง	
                1.6.4 	ผู้เรียนจะต้องท�ำกิจกรรมต่าง ๆ ต้ังแต่เร่ิมต้นจนส้ินสุดโครงการ
                1.6.5 	ให้ผู้เรียนมีโอกาสประเมินตนเองและเกิดการเรียนรู้อย่างอิสระ
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26