Page 32 - วัฒนธรรมกับการท่องเที่ยว
P. 32
11-22 วัฒนธรรมกบั การท่องเที่ยว
2. ภาคกลาง
ภาคกลางของประเทศไทยเป็นพนื้ ทีซ่ ่งึ มคี วามอดุ มสมบรู ณ์ของพืชผกั และสัตว์นํ้า ถือได้ว่าเปน็
อู่ข้าวอู่น้ําของเมืองไทย เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์เป็นท่ีราบลุ่มเหมาะแก่การท�ำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์
จึงถือว่าภาคกลางเป็นชัยภูมิท่ีดีในการต้ังเมืองหลวงมายาวนานต้ังแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้
วัฒนธรรมอาหารภาคกลางได้รับอิทธิพลและเกิดการผสมผสานกับวัฒนธรรมของชาวต่างชาติที่เดินทาง
มายงั เมืองหลวง จึงเกิดเมนูหลากหลายส�ำรับท้ังจีน อนิ เดีย ลาว มอญ เขมร พม่า เวียดนาม และชาติ
ตะวันตก คนภาคกลางน�ำวัฒนธรรมอาหารของแต่ละชาติมาปรับเปลี่ยนดัดแปลงจนกลายเป็นรสชาติที่
ลงตัวกลมกลอ่ มเปน็ เอกลักษณ์ของตนเองท่มี ีรสชาติเปรยี้ ว หวาน มนั เค็ม เผ็ด ทำ� ให้รสชาตถิ กู ปากคน
ต่างชาติ อาหารไทยที่เป็นที่นิยมของคนต่างชาติในปัจจุบันโดยส่วนใหญ่จะเป็นเมนูอาหารจากภาคกลาง
เนอื่ งจากมีรสชาติไมโ่ ดดไปในทางใดทางหนงึ่ และได้รับอทิ ธพิ ลจากราชส�ำนกั เนอื่ งจากอยู่ใกล้เมอื งหลวง
ส�ำรับอาหารของภาคกลางส่วนใหญ่จะมีอาหาร 4 อย่างคือ แกงเผ็ด แกงจืด ของผัดหรือทอด
และนา้ํ พรกิ และมกี ารจบั คู่เมนูตา่ งๆ ใหเ้ กดิ ความอัศจรรยใ์ นการรบั ประทาน เชน่ กุ้งเผาหรอื ปลาดกุ ย่าง
รบั ประทานคกู่ บั สะเดานาํ้ ปลาหวาน นาํ้ พรกิ ลงเรอื ตอ้ งรบั ประทานคกู่ บั หมหู วาน โดยเมนอู าหารภาคกลาง
ท่ีเปน็ ท่ีนิยมโด่งดังจนถึงปัจจุบนั เช่น ต้มย�ำกงุ้ ฉูฉ่ ปี่ ลา มัสมนั่ พะแนง ผดั ไทย แกงเผด็ แกงเขยี วหวาน
ภูมิปัญญาการถนอมอาหาร
1. ปลาตากแหง้ จากบนั ทกึ หลกั ฐานดงั ทไ่ี ดก้ ลา่ วไปขา้ งตน้ จะพบวา่ ในภาคกลางคนนยิ มรบั
ประทานปลา เมื่อจับมาไดเ้ ยอะกจ็ ำ� เปน็ ต้องแสวงหาวิธเี ก็บรักษาไว้ การตากแห้งเป็นการรักษาอาหารไว้
ให้รบั ประทานไดน้ านข้นึ ปลาท่ีน�ำมาตากแหง้ กม็ กั เปน็ ปลาน้ําจืด เช่น ปลาช่อน ปลาม้า
2. ปลาต้มเค็ม นอกจากวิธีการตากแห้งแล้วปลาบางชนิดเหมาะแก่การน�ำไปต้มเค็ม เช่น
ปลาตะเพยี นตม้ เคม็ เนอื่ งจากมกี า้ งเยอะหากรบั ประทานเลยกา้ งจะตดิ คอ จงึ คดิ คน้ วธิ กี ารรบั ประทานปลา
ตะเพียนให้สามารถรับประทานได้ท้ังตัวโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับก้าง การต้มเค็มคือการเคี่ยวต้มด้วย
ไฟอ่อนเป็นเวลานานจนกา้ งเปือ่ ยและสามารถรบั ประทานได้
ท่ีมา: ปุณณฑรยี ์ สนั ตสิ ุภาพร ภาพที่ 11.6-14.7 ผัดไทย และต้มยำ�กุ้ง
