Page 42 - สื่อศึกษา
P. 42
6-32 สื่อศึกษา
ด้วยขนาดภาพ มมุ กล้อง การเคลอ่ื นไหวของกล้อง การใชเ้ สยี งเพ่อื ส่อื ความหมาย รวมถงึ รหสั เชงิ สงั คมท่ี
ก�ำหนดวธิ ีการถา่ ยทำ� เช่น การไมค่ วรถ่ายท�ำภาพผเู้ สียชวี ติ
หลังจากน้ัน จึงค่อยศึกษาตัวผู้รับสารว่า ผู้รับสารที่มีความแตกต่างหลากหลายน้ัน จะมีการตี
ความหมายท่ีผลติ ขึ้นนั้นอย่างไร เพ่อื จะแสดงใหเ้ หน็ วา่ อำ� นาจท่ีก�ำหนดกดทับน้ันแม้จะมอี ยู่ แต่ผูร้ บั สาร
ก็ยงั คงมีความสามารถในการอ่านและตคี วามหมายได้ และทสี่ ำ� คญั คือ ความหมายมิได้จบส้ินตรงทตี่ วั บท
แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามบริบท เช่น เวลา สถานที่ และตัวผู้รับสารเองก็สามารถมีอ�ำนาจในการ
อา่ นและตีความหมายตวั บทนัน้ ไดด้ ้วย
แนวทางท่ีสอง การศึกษาการบริโภคสื่อ (reception)
แนวทางน้ีใหค้ วามสนใจตอ่ การศกึ ษาการบริโภคส่ือของผู้รับสาร ในดา้ นหนง่ึ อาจดคู ลา้ ยการมอง
ผู้รับสารเป็นผู้กระท�ำในกระบวนทัศน์แรกท่ีมองว่า ผู้รับสารสามารถเลือกส่ือ เลือกรับสารได้ตามความ
ตอ้ งการ แตใ่ นความเปน็ จรงิ แนวคดิ การบรโิ ภคสอื่ ของสำ� นกั วฒั นธรรมศกึ ษามจี ดุ ทแ่ี ตกตา่ งกนั คอื การวาง
อยู่บนมิติเชิงอ�ำนาจ กล่าวคือ ภายใต้การบริโภคสื่อจ�ำเป็นต้องพิจารณาไปถึงบริบทของการบริโภคสื่อ
(social context) มิติเชิงอ�ำนาจที่ส่งผลต่อการบริโภคส่ือ และท�ำให้การบริโภคสื่อนั้นมีพฤติกรรมท่ีแตก
ต่างกนั ตามกลมุ่ อ�ำนาจทีก่ ดทับ หาใชก่ ารพิจารณาจากมิตจิ ิตวทิ ยาดังเช่นในอดีตไม่
การศกึ ษาการบรโิ ภคสอื่ เรม่ิ ตน้ ดว้ ยงานของมอรเ์ ลย์ (Morley) ศกึ ษาการดโู ทรทศั นร์ ายการเนชน่ั
ไวด์ (Nationwide) ของอังกฤษ โดยประยุกต์งานของฮอลล์ และให้ความสนใจการศึกษาบริบทการดู
โทรทัศน์ของผู้ชมท่ีมีความแตกต่างหลากหลายว่าจะส่งผลต่อการดูโทรทัศน์หรือไม่อย่างไร ผลการศึกษา
แสดงใหเ้ หน็ วา่ บคุ คลทมี่ คี วามแตกตา่ งหลากหลายโดยเฉพาะเพศกจ็ ะมกี ารบรโิ ภคโทรทศั นท์ แ่ี ตกตา่ งกนั
แนวคิดดังกล่าวส่งผลให้เกิดการวิจัยในประเด็นเรื่องเพศกับการบริโภคโทรทัศน์ในช่วงหลัง และช้ีให้เห็น
ดว้ ยวา่ อ�ำนาจของสังคมชายเปน็ ใหญ่ส่งผลให้วิธีการบริโภคโทรทศั น์ของหญิงและชายไมเ่ หมือนกัน เมอ่ื
ชายเปน็ ผนู้ ำ� หาเลยี้ งครอบครวั อำ� นาจของผชู้ ายกส็ ง่ ผลตอ่ วธิ กี ารดโู ทรทศั น์ รโี มทคอนโทรมกั จะอยใู่ นมอื
ผชู้ าย สว่ นผหู้ ญงิ การชมโทรทศั นม์ กั จะมลี กั ษณะของการทำ� งานไปดไู ปหรอื ชำ� เลอื งดมู ากกวา่ เหตนุ ี้ การ
บริโภคสื่อจงึ มิไดห้ ลุดจากมิติอำ� นาจทงั้ หมด
แนวทางที่สาม การศึกษาชาติพันธุ์วรรณนา (ethnography)
การศกึ ษาแนวทางนมี้ กั จะนยิ มการศกึ ษากลมุ่ คนในวฒั นธรรมตา่ งๆ และเพอื่ จะเขา้ ใจกลมุ่ คนอยา่ ง
ละเอียดจ�ำเป็นต้องใช้วิธีการเข้าไปศึกษาในวัฒนธรรมหรือพ้ืนท่ีจริงตามส�ำนักปรากฏการณ์วิทยา (phe-
nomenology) เชน่ เดยี วกับการศกึ ษาการบริโภคส่อื ก็มักจะศกึ ษาการลงไปดูพ้ืนทีจ่ ริงๆ ของการบริโภค
ส่ือมากกว่าการใช้การแจกแบบสอบถามหรือการสัมภาษณ์ เพราะแนวคิดนี้เชื่อว่า การเข้าร่วมในพ้ืนที่
วฒั นธรรมจรงิ เสมอื นสมาชกิ วงในจะทำ� ใหเ้ ขา้ ใจความหมายของวฒั นธรรมในชวี ติ ประจำ� วนั ตลอดจนวธิ คี ดิ
จากมมุ มองของคนวงใน หลงั จากนนั้ คอื นำ� ความรดู้ งั กลา่ วมาเขยี นขน้ึ และพฒั นาขน้ึ กลายเปน็ องคค์ วามรู้
จากฐานราก (grounded theory)
อยา่ งไรกด็ ี การเกบ็ ขอ้ มลู ยงั สามารถทำ� ไดห้ ลากหลาย ทง้ั การสงั เกต การสมั ภาษณ์ การวเิ คราะห์
เอกสาร การสนทนากล่มุ ฯลฯ ประกอบกนั ไป ดังเช่น การศึกษาชาติพันธุ์วรรณนาการดโู ทรทศั นใ์ นบ้าน
ของ สมสุข หนิ วิมาน (2558) การดโู ทรทัศนน์ อกบ้านของบรรดาพ่อคา้ แมค่ ้าใน จ.เชียงใหม่ ของ วสันต์