Page 41 - สื่อศึกษา
P. 41
ส่อื กบั เพศสภาวะ 14-31
เร่ืองที่ 14.2.2
ทฤษฎีสายสื่อ
หลังจากท่ีท�ำความเข้าใจเร่ืองแนวคิดทฤษฎีด้านเพศสภาวะไปแล้ว ผู้เขียนจะได้น�ำเสนอการใช้
ทฤษฎดี า้ นการสอ่ื สารทจ่ี ะแสดงใหเ้ หน็ วา่ สอื่ และเพศสภาวะมคี วามเกยี่ วพนั ในมติ ใิ ด และในลกั ษณะอยา่ งไร
โดยใชเ้ กณฑ์ดา้ นจุดยนื ของทฤษฎมี าแบ่งกลมุ่ ทฤษฎีสอ่ื กับสตรีออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลมุ่ ผลกระทบของ
สื่อ กลมุ่ ภาพสะทอ้ นในส่ือ กลมุ่ การใช้ประโยชน์และความพงึ พอใจ และกลุ่มวฒั นธรรมศกึ ษาเชงิ วพิ ากษ์
1. ทฤษฎีกลุ่มผลกระทบของสื่อ
ในทศวรรษที่ 1930 เปน็ ชว่ งทก่ี ารศกึ ษาของศาสตรด์ า้ นสอื่ สารมวลชนเชอ่ื ในพลงั ของสอื่ และเหน็ วา่
สอ่ื มวลชนมอี ทิ ธพิ ลตอ่ ผรู้ บั สาร อยบู่ นพนื้ ฐานทม่ี องผรู้ บั สารเปน็ แบบตง้ั รบั (passive audience) ใหค้ วาม
สำ� คญั กบั ประสทิ ธผิ ลของสอ่ื การใชส้ อ่ื เพอ่ื เปลย่ี นแปลงทศั นคติ และการใชส้ อ่ื เพอื่ โนม้ นา้ ว ทฤษฎที ม่ี คี วาม
เช่ือบนพื้นฐานดังกล่าวคือทฤษฎีในกลุ่มผลกระทบของสื่อ (Impact Theory) และทฤษฎีหน้าท่ีนิยม
(Functionalism) ซึ่งถูกน�ำมาใช้ในการอธิบายว่า ส่ือมวลชนในฐานะท่ีเป็นสถาบันสังคมมีหน้าที่ในการ
อบรมบ่มเพาะ (socialisation) สมาชกิ ในสงั คมให้ปฏบิ ัตใิ หเ้ หมาะสมกับบทบาททางเพศของตนเอง โดย
สอื่ มวลชนจะทำ� หนา้ ทสี่ ง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ กระบวนการขดั เกลาทางสงั คม ดว้ ยแนวคดิ ดงั กลา่ วจงึ ทำ� ใหก้ ารศกึ ษา
เรื่องหญิงชายจึงไปในแนวทางที่ช่วยธ�ำรงรักษาบรรทัดฐานของสังคม อันเป็นการควบคุมทางสังคมอย่าง
หน่ึง (กาญจนา แกว้ เทพ, 2544, น. 505) และเมื่อวเิ คราะหด์ ว้ ยทฤษฎีหน้าที่นยิ มของสอ่ื จะพบว่า สังคม
คาดหวงั ใหผ้ หู้ ญงิ และผชู้ ายทำ� หนา้ ทต่ี ามบทบาททางเพศ กลา่ วคอื ผหู้ ญงิ ทำ� หนา้ ทใี่ นการเปน็ ภรรยาและ
แมม่ ากกวา่ ทจ่ี ะเสรมิ ใหผ้ หู้ ญงิ ท�ำงานนอกบา้ น ขณะทผ่ี ชู้ ายมบี ทบาทในการหาเลย้ี งครอบครวั และเปน็ ผนู้ �ำ
ในยคุ การพัฒนาประเทศใหเ้ ขา้ สคู่ วามทนั สมยั ในชว่ ง พ.ศ. 2504 เปน็ ตน้ มานนั้ ผหู้ ญงิ ถกู มองวา่
เปน็ “ผดู้ ้อยพฒั นา” ดงั นนั้ สื่อจงึ เขา้ มามบี ทบาทในการพฒั นาศกั ยภาพและยกสถานะของผหู้ ญิงใหส้ งู ขน้ึ
ดังปรากฏในปฏิญญาปักกิ่งและแผนพัฒนาเพ่ือความก้าวหน้าของสตรี จากการประชุมระดับโลกว่าด้วย
เรื่องสตรี คร้งั ที่ 4 ณ กรงุ ปักกิง่ สาธารณรฐั ประชาชนจนี ในปี พ.ศ. 2538 ข้อ 77 ทีร่ ะบุวา่ สอื่ มวลชน
เปน็ เครอื่ งมอื อนั ทรงพลงั ในการพฒั นาและความกา้ วหนา้ ของผหู้ ญงิ ดงั สะทอ้ นใหเ้ หน็ ในงานวจิ ยั ดา้ นการ
สื่อสาร เช่น งานวิจัยของ อุบลวรรณ ปิติพัฒนโฆษิต (2529) เร่ือง บทบาทของนิตยสารผู้หญิงเพื่อให้
ความรู้และพัฒนาสตรีท่ีพบว่า ส่ือนิตยสารท�ำหน้าท่ีในการปลูกจิตส�ำนึกในด้านการใฝ่หาความรู้และสิทธิ
สตรไี ทย นอกจากนนั้ นติ ยสารยงั นำ� เสนอความรทู้ งั้ ดา้ นสงั คมและการเมอื ง สว่ นงานวจิ ยั ของ กนษิ ฐา พงึ่ วร
(2543) ท่ศี ึกษาถงึ การนำ� ความรูท้ ไ่ี ดร้ ับจากการอ่านไปประยกุ ตใ์ ช้ในการพัฒนาบุคลกิ ภาพของผู้อา่ น ผล
การวจิ ยั พบวา่ ผอู้ า่ นมพี ฒั นาการทางบคุ ลกิ ภาพทด่ี ขี นึ้ หลงั จากตดิ ตามอา่ นนติ ยสารดงั กลา่ วมากกวา่ 1 ปี
และพบว่านิตยสารมีอิทธิพลในการตัดสินใจเปล่ียนรูปลักษณ์ทางกาย และรูปแบบทางความคิด ซึ่ง
ผู้อ่านมคี วามพงึ พอใจในบุคลกิ ภาพทเี่ ปลี่ยนแปลงไปในทางท่ีดีข้ึน