Page 20 - หลักการประชาสัมพันธ์และโฆษณา
P. 20
6-10 หลกั การประชาสมั พนั ธแ์ ละโฆษณา
และสรา้ งเครอื ขา่ ยในทางธรุ กจิ อกี ทงั้ ยงั ชว่ ยในการพฒั นาตราสนิ คา้ (Brand) สามารถวดั ผลการดำ� เนนิ งาน
ของธุรกิจ ส่งเสริมภาพลักษณ์ตราสินค้า และที่ส�ำคัญคือเป็นเคร่ืองมือในการต่อรองของผู้บริโภคท่ีก�ำลัง
ตดั สนิ ใจซ้อื สนิ คา้ และบรกิ าร
ตอ่ เนอ่ื งมายัง ดิจิทัล 3.0 ซึง่ เปน็ ยคุ ของข้อมลู และบก๊ิ ดาต้า (Big Data) เปน็ ยุคของการน�ำเอา
ขอ้ มลู มาใชใ้ หเ้ ปน็ ประโยชน์ การเตบิ โตของโซเชยี ลมเี ดยี และการพาณชิ ยอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ จากยคุ 2.0 ทำ� ให้
เกิดการขยายตวั ของข้อมลู อยา่ งมากมาย เรียกไดว้ า่ ทุกแพลตฟอร์มของสื่อสงั คมออนไลน์ตา่ งมีข้อมลู เขา้
ออกเป็นจ�ำนวนมากในแตล่ ะวนั และเร่มิ มีการนำ� ขอ้ มลู เหลา่ นน้ั มาใช้ให้เกดิ ประโยชน์ หากมองในแงธ่ รุ กิจ
การประชาสัมพันธ์และการโฆษณา ในแต่ละวันมีข้อมูลจ�ำนวนมากถูกน�ำมาประมวลผล จับประเด็น
วิเคราะห์ถึงความต้องการของผู้บริโภคเพื่อสร้างสินค้าและบริการท่ีสามารถตอบสนองความต้องการของ
ลูกค้า ในปัจจุบันทุกองค์การต่างมองเห็นความส�ำคัญของการน�ำเอาบ๊ิกดาต้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
อีกทั้งบ๊ิกดาต้าสามารถน�ำมาต่อยอดโดยการคิดค้นและประยุกต์ใช้ข้อมูลนั้น พัฒนาเป็นแอปพลิเคชัน
(application) ที่ให้ความสะดวกสบายแกผ่ ูบ้ รโิ ภคผา่ นทางสมารต์ โฟนและแท็บเลต
สดุ ทา้ ยคอื ดิจิทลั 4.0 ในปจั จบุ นั เปน็ ยคุ ทเี่ ทคโนโลยมี คี วามฉลาดเทยี บเทา่ สมองของคนจนทำ� ให้
อปุ กรณต์ า่ งๆ สอื่ สารและทำ� งานกนั เองไดอ้ ยา่ งอตั โนมตั ิ กลา่ วไดว้ า่ ในยคุ 4.0 เทคโนโลยถี กู นำ� มาพฒั นา
ตอ่ ยอดเพื่อลดบทบาทของคน และเพม่ิ ศักยภาพของคนในการใช้ความคดิ สรา้ งสรรคพ์ ัฒนาสง่ิ ใหม่ๆ โดย
ยุคน้ีได้ชื่อว่าเป็นยุค Machine-to-Machine เช่น เราสามารถเปิด-ปิด หรือสั่งงานอ่ืนๆ กับเครื่องใช้
ไฟฟ้าในบ้านตัวเองผ่านแอปพลิเคชันโดยไม่ต้องเดินไปกดสวิตช์ หรือตัวอย่างท่ีถูกน�ำมาใช้งานจริงแล้ว
อยา่ งการพดู ค�ำว่า “แคปเจอร์” กบั แอพถา่ ยภาพในสมารต์ โฟน โทรศัพทก์ จ็ ะถ่ายรูปให้อัตโนมัตโิ ดยท่เี รา
ไม่ต้องกดถ่าย หรือแม้แต่เทคโนโลยีซิมูเลชัน (Simulation) จ�ำลองสถานการณ์เพ่ือฝึกอบรมพนักงาน
วางแผนสถานการณ์โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปถึงสถานที่จริง หรือเป็นสื่อการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์
(Interactive) เป็นต้น เทคโนโลยีและโลกดิจิทัลมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและเคลื่อนท่ีไม่มีหยุดธุรกิจ
การประชาสมั พนั ธแ์ ละการโฆษณาจงึ จำ� เปน็ ตอ้ งปรบั ตวั ใหท้ นั ตามการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยดี งั กลา่ ว
6. ลักษณะของงานประชาสัมพันธ์ สืบเนื่องมาจากแนวคิดของการประชาสัมพันธ์ในอดีตท่ี
เริ่มต้นด้วยการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านส่ือมวลชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับ
กลุ่มเป้าหมายและเพื่อสร้างภาพลักษณ์ท่ีดีให้กับองค์การ ต่อมาแนวคิดเก่ียวกับการประชาสัมพันธ์ได้
เปลย่ี นแปลงไปตามบรบิ ทของสงั คม คอื ตอ้ งการสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มของกลมุ่ เปา้ หมาย เปน็ การสอื่ สารใน
ลักษณะของการส่ือสารแบบสองทาง (two-way communication) ท่ีจะต้องรับฟังและตรวจสอบความ
คิดเห็นหรือทัศนคติที่กลุ่มเป้าหมายมีต่อองค์การท้ังในแง่บวกและแง่ลบ การเปลี่ยนแปลงของแนวคิด
ดงั กลา่ วสง่ ผลตอ่ รปู แบบการใหบ้ รกิ ารของบรษิ ทั ทปี่ รกึ ษาประชาสมั พนั ธ์ กลา่ วคอื ในอดตี การใหบ้ รกิ ารดา้ น
การประชาสมั พนั ธจ์ ะไมม่ ขี อบเขตกวา้ งขวางอยา่ งในปจั จบุ นั เนอ่ื งจากในยคุ ดจิ ทิ ลั ทมี่ กี ารแขง่ ขนั กนั สงู ใน
เรอ่ื งขอ้ มลู และเทคโนโลยี องคก์ ารตา่ งๆ จงึ ใหค้ วามสำ� คญั กบั การประชาสมั พนั ธเ์ พอ่ื สรา้ งความผกู พนั กบั
ลกู คา้ (engagement) และภาพลกั ษณท์ ดี่ ใี นสายตาผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี โดยเฉพาะความนา่ เชอื่ ถอื และการ
เปน็ ทย่ี อมรบั ในสงั คม ทำ� ใหเ้ กดิ แนวคดิ การประชาสมั พนั ธเ์ พอ่ื การตลาด (Marketing Public Relations:
MPR) เปน็ การประชาสมั พันธเ์ พ่อื สนบั สนนุ การตลาด ซงึ่ เปน็ พฒั นาการสว่ นหนึ่งของการประชาสัมพันธ์