Page 47 - วิถีไทย
P. 47
วถิ ไี ทยกบั ความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรม 2-37
มาที่ธนบุรีและสถาปนากรุงเทพฯ ข้ึนเมื่อ พ.ศ. 2325 กลุ่มแขกจามได้ย้ายมาตั้งบ้านเรือนอยู่ที่บ้านครัว
กลายเป็นชุมชนบ้านครวั ในปัจจบุ นั
กลมุ่ แขกมกั กะสนั เปน็ กลมุ่ ทอี่ พยพมาจากเกาะมากสั ซารใ์ นประเทศอนิ โดนเี ซยี ปจั จบุ นั เมอื่ ชาติ
ตะวันตกคือฮอลันดา (หรือเนเธอรแ์ ลนดใ์ นปจั จุบัน) ไดข้ ยายอำ� นาจยึดครองเกาะชวาและมากสั ซาร์ ตรง
กบั ในรชั กาลสมเดจ็ พระนารายณ์ เวลานนั้ ราชสำ� นกั สมเดจ็ พระนารายณก์ ำ� ลงั มเี หตกุ ารณพ์ พิ าทกบั ฮอลนั ดา
อยพู่ อดี กลมุ่ แขกมกั กะสนั ทพ่ี า่ ยแพใ้ นสงครามตอ่ ฮอลนั ดา จงึ อพยพเขา้ มายงั อยธุ ยา สมเดจ็ พระนารายณ์
ทรงให้ต้งั บ้านเรือนอยู่อาศยั ในย่านคลองตะเคยี น ต่อมาเมื่อมกี ารยา้ ยเมืองหลวงมาทีธ่ นบุรแี ละกรงุ เทพฯ
ชาวมุสลิมมักกะสันก็ย้ายมาตงั้ ชุมชนอยทู่ ีย่ า่ นประตูนำ้� กรงุ เทพฯ
ถงึ แมจ้ ะตา่ งความนบั ถอื ในศาสนา แตม่ สุ ลมิ เปอรเ์ ซยี มสุ ลมิ จามปาหรอื แขกจาม และแขกมกั กะสนั
ก็อยู่ร่วมกับชนชาติที่นับถือศาสนาพุทธและศาสนาอ่ืนในสังคมไทยมาได้โดยตลอด มีมัสยิดเก่าแก่ส�ำคัญ
หลายแหง่ ในกรงุ เทพฯ เชน่ มสั ยดิ ตน้ สน เขตบางกอกใหญ่ มสั ยดิ บางหลวง เขตธนบรุ ี มสั ยดิ สวนพลู เขต
ธนบรุ ี มัสยดิ บา้ นอู่ เขตบางรัก มสั ยดิ ก่งิ เพชรทบ่ี า้ นครวั มัสยดิ นรู ลุ้ อิสลาม เขตสวนหลวง เป็นตน้
ชาวญวนหรือเวียดนาม
ชาวญวนหรอื เวยี ดนามทอี่ พยพเขา้ มาในดนิ แดนประเทศไทย แบง่ เปน็ 2 กลมุ่ คอื 1) กลมุ่ ชาวญวน
ทนี่ ับถือคริสตศ์ าสนา ทเ่ี รยี กวา่ “ญวนคริสตงั ” 2) กล่มุ ชาวญวนทเ่ี ข้ามาเคล่ือนไหวทางการเมอื งในช่วง
เรียกร้องเอกราช โดยได้เข้ามาต้ังชุมชนอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดสกลนคร
อุดรธานี และนครพนม เปน็ ตน้
กลมุ่ ชาวญวนครสิ ตงั เขา้ มาตง้ั แตใ่ นสมยั อยธุ ยาตอนปลาย ในรชั กาลสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทา้ ยสระ
ตงั้ บา้ นเรอื นอยู่ท่ีเมืองจนั ทบรุ ี เพราะหลกี หนปี ญั หาการกีดกันทางศาสนาทเี่ กดิ ในเวยี ดนามสมัยน้ัน โดย
มบี าทหลวงชาวฝรงั่ เศสเข้ามาดแู ลชว่ ยเหลือ ตั้งโรงเรียนสอนศาสนา และโบสถ์ครสิ ตข์ ึน้ ท่ีจันทบรุ 6ี 0
ตอ่ มามเี หตกุ ารณค์ วามไมส่ งบในชายฝง่ั ทะเลตะวนั ออก อนั เนอ่ื งจากการปลน้ สะดมภข์ องโจรสลดั
พื้นเมือง ชาวญวนคริสตังจึงได้อพยพเข้ามาอยู่ในอยุธยา สมเด็จพระนารายณ์ทรงให้ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่
ปท่าคูจาม เรียกว่า “บ้านญวน” คณะบาทหลวงฝรั่งเศสได้ตั้งโรงเรียนสอนศาสนาและโบสถ์คริสต์ขึ้นที่
บา้ นญวนนน้ั ดว้ ย มชี อื่ เรยี กวา่ “โบสถเ์ ซนตย์ อแซฟ” หรอื “วดั นกั บญุ ยอแซฟ” เปน็ โบสถค์ รสิ ตท์ สี่ วยงาม
ตง้ั อย่รู มิ แมน่ ำ้� เจ้าพระยา ใกลก้ บั วดั พุทไธสวรรย์
คร้ันเม่ือเหตุการณ์ท่ีเมืองจันทบุรีสงบลง โจรสลัดถูกปราบปรามโดยทางการเป็นที่เรียบร้อย
ชาวญวนสว่ นหนงึ่ กไ็ ดอ้ พยพกลบั ไปอยเู่ มอื งจนั ทบรุ ี ไดส้ รา้ งโบสถค์ รสิ ตห์ ลงั ใหมข่ นึ้ เรยี กวา่ “โบสถเ์ มอื ง
จันทบุรี” หรือ “โบสถ์วัดพระแม่ปฏิสนธินิรมล” โบสถ์หลังน้ีได้ปรับปรุงหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่สร้าง
ด้วยไม้ จนกระทั่งใน พ.ศ. 2446 ก็ได้มีการบูรณะปรับปรุงคร้ังใหญ่ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนถาวร ตาม
60 อาสนวิหารพระแม่มารีอา จันทบุรี, คณะท�ำงาน. (ออนไลน์). (2560). “โบสถ์วัดพระแม่นิรมลปฏิสนธิจันทบุรี”
Retrieved from: http://www.eculture.rbru.ac.th/showdata.php?viewid=3 ระบบฐานข้อมูลท้องถิ่นจันทบุรี สืบค้นเม่ือ
5 พฤษภาคม 2560.