Page 32 - ภาษาถิ่นและวรรณกรรมท้องถิ่นไทย
P. 32

12-22 ภาษาถน่ิ และวรรณกรรมท้องถน่ิ ไทย

วรรณกรรมคัดสรรกลุ่มมอญ-เขมร

       วรรณกรรมกลมุ่ มอญ-เขมร เปน็ กลมุ่ ทไ่ี ดร้ บั อทิ ธพิ ลพระพทุ ธศาสนาเชน่ เดยี วกบั ไท-ลาว เนอ้ื หา
ส่วนใหญ่จึงเน้นค�ำสอนและคติธรรมพระพุทธศาสนา การเรียนรู้และการสังเกตธรรมชาติ ตัวอย่าง
วรรณกรรมคำ� สอนมอญเร่อื ง “เลิจก์ปล่ายแพ่ว์” หรอื “หนังสือเด็กวัด” (รามัญคดี - MON Studies,
2560) แต่งโดยพระอะเฟาะ เป็นชาวเมอื งหงสาวดี เกิดเม่ือราว พ.ศ. 2243 ไมม่ ีหลกั ฐานว่าท่านเสียชีวิต
เมื่อใด แต่จากหลกั ฐานงานวรรณกรรมของท่าน คาดวา่ นา่ จะมีอายอุ ยู่จนถึงสมยั รัชกาลที่ 1 ของไทย งาน
วรรณกรรมของพระอะเฟาะสว่ นใหญแ่ ตง่ กอ่ น พ.ศ. 2283 ดว้ ยในปนี นั้ พมา่ เกดิ ความออ่ นแอ สมงิ ทอพทุ ธ
เกษ กษตั รยิ ม์ อญไดถ้ อื โอกาสประกาศเอกราช ตอ่ มาเกดิ จลาจล พมา่ เขา้ ปราบปรามอยา่ งหนกั พระอะเฟาะ
จงึ พาชาวบ้านส่วนหนึง่ อพยพหนีภัยสงครามจากเมืองหงสาวดี ไปอาศัยอยูท่ ีห่ มู่บา้ นพาเประฺ ปลายแดน
หงสาวดี สว่ นชาวมอญกลุ่มใหญ่พากนั อพยพเขา้ ไทยตอนปลายสมยั อยุธยาเม่อื พ.ศ. 2290

       พระอะเฟาะแตง่ วรรณกรรมไวม้ ากกวา่ 100 เรอ่ื ง สว่ นใหญแ่ ตง่ เปน็ รอ้ ยกรอง เปน็ วรรณกรรมทาง
ดา้ นศาสนา มีทงั้ พระไตรปฎิ ก หมวดพระอภธิ รรม พระวนิ ัย และพระสูตร คำ� สอน ชาดก ประวตั ศิ าสตร์
โหราศาสตร์ ตำ� รา ต�ำนาน และกฏหมาย สว่ นนิยายและนทิ านจะพบน้อยมาก ตำ� ราเรื่องส�ำคัญท่ียกมานี้
คือ แบบหดั อา่ นสำ� หรับเดก็ หรอื หนังสือเด็กวัด (เลิจก์ปล่ายแพ่ว์)

       หนังสือเด็กวัด (เลิจก์ปล่ายแพ่ว์) แต่งตามขนบการแต่งของพระอะเฟาะ คือ เร่ิมด้วยค�ำบูชา
พระรตั นตรยั บทไหวค้ รอู าจารยผ์ สู้ ง่ั สอนวชิ า ตลอดจนเทพเทวาทค่ี รองพภิ พ ขอใหผ้ แู้ ตง่ หนงั สอื มปี ญั ญา
เฉียบแหลม ระบชุ ่ือผู้แตง่ (หรอื นามปากกา) สถานที่แตง่ และวตั ถุประสงคใ์ นการแตง่ เช่น “หวังให้เกิด
ประโยชน์แก่ชาวมอญ ได้มีความรู้ มีแนวทางด�ำเนินชีวิต มีแนวทางแก้ปัญหา...” นอกจากน้ียังปรากฏ
คา่ นิยมที่สอดแทรกอยภู่ ายในเน้ือหา เชน่ เศรษฐีซือ้ ผา้ น่งุ ผา้ ห่มให้ลูกกอ่ นสง่ ไปเรียน จะต้องเลอื กซอ้ื ผา้
ทด่ี ที ส่ี ดุ ซงึ่ มที ง้ั “ผา้ ยนั ต์ ผา้ (ทมี่ าทาง) เรอื ผา้ ไหมลา้ นชา้ ง...” แสดงใหเ้ หน็ คา่ นยิ มในการแตง่ กาย การ
ใช้ผา้ และการเลือกซอ้ื สนิ ค้าสำ� หรบั คนมีฐานะ ได้แก่ การใช้และพกผา้ ยันตต์ ิดตวั ช่อื เสียงของผ้าอนิ เดีย
(ผ้าทมี่ าทางเรือ) และความนิยมในผา้ ไหมลาวในยคุ นน้ั ค่านิยมเร่อื งการศกึ ษา สมยั กอ่ นลกู ศษิ ยต์ ้องออก
แสวงหาฝากตวั ยงั สำ� นกั “ตกั ศิลา” ท่ี “คร”ู มฝี ีมอื นำ� ดอกไม้ธูปเทียนและของกำ� นลั ไปไหว้ครตู ามฐานะ
ของศิษย์แต่ละคน ศิษย์บางคนกระพุ่มมือเปล่า ไม่มีแม้แต่ดอกไม้ธูปเทียน ซ่ึงอาจารย์ก็รับเป็นศิษย์และ
ถ่ายทอดวชิ าให้เท่าเทียมกนั
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37