Page 35 - ภาษาถิ่นและวรรณกรรมท้องถิ่นไทย
P. 35

วรรณกรรมทอ้ งถนิ่ ของกลุ่มชาตพิ ันธ์ุในประเทศไทย 12-25
ครองเมืองแล้วก็ไม่เคยลืมนายส�ำเภาและย่าจ�ำสวนท่ีเคยให้ความช่วยเหลือและเลี้ยงตนมา จึงให้เสนาไป
ตามหานายส�ำเภาและยา่ จ�ำสวนแล้วรับมาเล้ยี งดอู ยา่ งมีความสุข ซ่งึ แสดงถงึ ความกตัญญกู ตเวทีของทา้ ว
แบ้ที่มีต่อผู้มีพระคุณ คุณลักษณะนิสัยความกตัญญูของชาวไทยพวนเกิดจากการปลูกฝังค่านิยมโดยใช้
นิทานชาดกเป็นเคร่ืองชี้น�ำ  ขณะเดียวกันโครงสร้างทางสังคมของชาวไทยพวนก็มีความผูกพันกันอย่าง
ใกลช้ ดิ อยแู่ ลว้ ครอบครวั ไทยพวนจะอาศยั อยรู่ ว่ มกนั ทง้ั พอ่ แมล่ กู และปยู่ า่ ตายาย ซงึ่ เปน็ ครอบครวั ทอี่ บอนุ่
จึงส่งผลใหช้ าวไทยพวนมคี ่านยิ มดา้ นความกตญั ญทู โี่ ดดเด่น

       3. 	หนังสือเด็กวัดปรากฏค่านิยมท่ีสอดแทรกอยู่ภายในเน้ือหา เช่น เศรษฐีซ้ือผ้านุ่งผ้าห่มให้ลูก
กอ่ นสง่ ไปเรยี น จะตอ้ งเลอื กซอื้ ผา้ ทด่ี ที สี่ ดุ ซง่ึ มที งั้ “ผา้ ยนั ต์ ผา้ (ทมี่ าทาง) เรอื ผา้ ไหมลา้ นชา้ ง...” แสดง
ให้เห็นค่านิยมในการแต่งกาย การใช้ผ้า และการเลือกซื้อสิ้นค้าส�ำหรับคนมีฐานะ ได้แก่ การใช้และพก
ผา้ ยนั ตต์ ดิ ตวั ชอื่ เสยี งของผา้ อนิ เดยี (ผา้ ทมี่ าทางเรอื ) และความนยิ มในผา้ ไหมลาวในยคุ นน้ั คา่ นยิ มเรอื่ ง
การศึกษา สมัยก่อนลูกศิษย์ต้องออกแสวงหาฝากตัวยังส�ำนัก “ตักศิลา” ท่ี “ครู” มีฝีมือ น�ำดอกไม้
ธปู เทยี นและของกำ� นลั ไปไหวค้ รตู ามฐานะของศษิ ยแ์ ตล่ ะคน ศษิ ยบ์ างคนกระพมุ่ มอื เปลา่ ไมม่ แี มแ้ ตด่ อกไม้
ธปู เทยี น ซงึ่ อาจารย์กร็ บั เปน็ ศษิ ยแ์ ละถ่ายทอดวชิ าใหเ้ ท่าเทยี มกัน

เร่ืองท่ี 12.2.3
วรรณกรรมมุขปาฐะคัดสรรของกลุ่มชาติพันธุ์
ในประเทศไทยท่ีมีตัวอักษร

       ในกลมุ่ ชาตพิ นั ธท์ุ ม่ี ตี วั อกั ษรนน้ั กม็ วี รรณกรรมมขุ ปาฐะเชน่ กนั เพราะวรรณกรรมลายลกั ษณน์ นั้
เป็นเรือ่ งของชนช้นั ปกครองในกลมุ่ ชาตพิ นั ธ์ุ เชน่ เจา้ เมือง ขนุ นาง รวมถึงนักบวช และเจา้ พิธีตา่ งๆ หาก
แตค่ นสว่ นใหญอ่ า่ นหนงั สอื ไมอ่ อก หากมไิ ดบ้ วชเรยี น หรอื เปน็ หญงิ วรรณกรรมมขุ ปาฐะจงึ ยงั คงมบี ทบาท
ตอ่ คนกลมุ่ ใหญพ่ อสมควร วรรณกรรมมขุ ปาฐะนห้ี มายรวมทง้ั นทิ าน ตำ� นาน ปรศิ นาคำ� ทาย เพลงพนื้ บา้ น
ตา่ งๆ และบทร้องในพธิ ีกรรม (ธนั วดี สุขประเสริฐ, 2560)

วรรณกรรมคัดสรรกลุ่มไท - ลาว

       นทิ านกลมุ่ ไท-ลาว สว่ นใหญม่ กั ใหค้ ตใิ นการดำ� เนนิ ชวี ติ แกค่ นในสงั คม รวมทงั้ ใหค้ วามเพลดิ เพลนิ
และใหค้ วามรใู้ นการอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คม ตวั อยา่ ง นทิ านคำ� สอนของไทดำ�  หรอื ลาวโซง่ เรอ่ื ง “ทา้ วหมอนกวิ่ ”
(เรณู เหมือนจันทร์เชย, 2546, น. 56) เล่าว่า มคี รอบครัวหนง่ึ มีพี่นอ้ งหลายคน คนหน่ึงเปน็ ชายตง้ั แต่
เล็กจนโตไม่ยอมท�ำอะไร เอาแต่นอน นอนหนุนหมอน จนหมอนกิ่ว ชาวบ้านเรียกว่า “บ่าวหมอนกิ่ว”
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40