Page 37 - ภาษาถิ่นและวรรณกรรมท้องถิ่นไทย
P. 37
วรรณกรรมทอ้ งถิ่นของกล่มุ ชาตพิ ันธุใ์ นประเทศไทย 12-27
ตวั อย่างปริศนาค�ำทายของกลุ่มชาติพันธุ์ญ้อ ดงั นี้ (ปราณี จงจอหอ, 2551)
อะไรเอ่ย ปรศิ นาค�ำทายของญอ้ และคำ� แปล เฉลย
แมน เตอ ะเอา ไบท วมโฮ/ม ต้ี าออ มโต บก๋ั นัด
ใบทว มหวั /มตี ารอบตัว (สบั ปะรด)
อะไรเอย ตัก่ กะเตม /มิตก่ั กะ เตม บั๋กผ้าว
แมน เตอ ะเอา ตักกเ็ ต็ม/ไมตกั ก็เตม็ (มะพรา ว)
คีมอ ดคา้ ง/คซี า้ งลอ ด ยงุ้ แมงมุม้
อะไรเอย ขมี้ อดคาง/ขี้ชา งลอด (ใยแมงมุม)
แมนเตอ ะเอา กิ๋นทัง๋ เทิ้ง/คีตะลาง โม้ฮ๋ิน
กินขา งบน/ข่ขี างลา ง (โมหนิ )
อะไรเอย กิน๋ ตะลาง/คีท๋ังเทิ้ง กบ ไซไม้
แมน เตอะเอา กินขา งลาง/ข่ขี า งบน (กบไสไม)้
อะไรเอย
แมนเตอ ะเอา
อะไรเอย
ตวั อย่าง ขับลื้อ ของไทล้ือ การขับลื้อเป็นการศิลปะการแสดงดา้ นการขับร้องของชาวไตล้ือ ท่มี ี
ป่ีไม้ไผเ่ ป็นเครื่องดนตรีบรรเลงประกอบ มลี กั ษณะของทำ� นองทส่ี อดรับกับเนอ้ื รอ้ งอยา่ งไพเราะลงตัว ถอื
เปน็ ศลิ ปะการแสดงทสี่ ำ� คญั และเปน็ ทภ่ี าคภมู ใิ จอยา่ งยง่ิ ของชาวไทลอ้ื และไดร้ บั การสบื สาน ถา่ ยทอดมา
ต้งั แต่อดีต จวบจนปจั จุบัน ดงั เช่น ประสทิ ธ์ิ เลียวสริ ิพงศ์ (2542, น. 20) ไดก้ ลา่ วว่า ขบั ลอื้ เปน็ ศลิ ปะ
การขบั รอ้ ง ในลกั ษณะวรรณกรรมผสมดนตรี สว่ นทเี่ ปน็ วรรณกรรมในการขบั ลอ้ื คอื “คำ� ขบั ” หรอื “คา่ ว
ขับ”ส่วนที่เป็นดนตรี คือ ท�ำนองและลีลา ซึ่งมีท�ำนองเดียวส�ำหรับให้ช่างขับด้นค�ำขับโดยไม่มีข้อจ�ำกัด
ตายตวั ในดา้ นความยาวของวรรค ขับลอ้ื มผี ู้น�ำเสนอสองฝ่าย คอื ผ้ขู บั ร้องกบั ผเู้ ล่นดนตรี ผขู้ บั ร้อง เรียก
วา่ “ช่างขบั ” ส่วนผู้บรรเลงดนตรี เรียกวา่ “ช่างป่”ี ซึง่ ชา่ งขับและช่างปีใ่ ชว้ ิธเี ดียวกันในการดำ� เนินเพลง
คอื ใชว้ ธิ ดี น้ โดยมเี กณฑท์ จี่ ะใชร้ ว่ มกนั เพอื่ ใหค้ ำ� ขบั และทำ� นองมคี วามสอดคลอ้ งกนั (องอาจ อนิ ทนเิ วศ,
2557)
บทท่ีน�ำเสนอน้ีเป็นบทในพิธีไหว้ครู หรือเรียกอีกอย่างตามกลุ่มช่างขับลื้อว่า “การฟายครูลื้อ”
หรอื “การสังเวยคร”ู การฟาย หมายถึง การไหว้ ฟายครู หมายถงึ ไหวค้ รู สังเวยครูดว้ ยเหลา้ ครู หมาย
ถงึ ผูป้ ระสทิ ธป์ิ ระสาทวิชา สัง่ สอน การขบั ล้ือ หรอื เป่าป่ลี อ้ื ใหแ้ ก่ตนเปน็ พธิ ีกรรมสำ� คญั ย่ิงทีช่ ่างขับลอ้ื
และชา่ งปี่ ซงึ่ ส่วนใหญเ่ ปน็ ครูท่ลี ว่ งลบั ไปแล้ว การฟายครตู ้องปฏิบตั กิ ่อนการแสดงการขับลือ้ ทกุ ครั้ง เพื่อ
เปน็ การระลึกถึงบญุ คณุ ครูท่สี ่งั สอนมาจนมีวนั น้ี นอกจากแสดงความเคารพกตญั ญตู ่อครแู ล้ว การฟายครู
ยงั ถอื เปน็ การสรา้ งความเชอื่ มนั่ ในการขบั ลอื้ ในงานนด้ี ว้ ยวา่ จะมคี รเู ขา้ มาชว่ ยดลใจใหค้ ดิ บทขบั ลอ้ื ไดไ้ พเราะ
ไม่ติดขัดตลอดการแสดง เสียงท่ีขับออกไปมีเสียงใส ก้องกังวานสอดรับกับเสียงปี่อย่างไพเราะ และเมื่อ
ขบั ล้อื ออกไปแลว้ หากใครไดย้ นิ เสยี ง จะเกดิ ความชน่ื ชอบ ประทับใจในการแสดงของตนอกี ด้วย