Page 54 - ภาษาถิ่นและวรรณกรรมท้องถิ่นไทย
P. 54

8-44 ภาษาถ่ินและวรรณกรรมทอ้ งถิ่นไทย

         ก่อนท่ีจะมีปลาอานนท์หนุนแผ่นดินน้ัน มีเพียงมหาสมุทรลอยไปมาอยู่เหนืออากาศ	
  ลมพัดลอยเคว้งคว้างไปมาหาทิศทางไม่ได้ ลมพัดน�้ำอยู่นานจนเกิดเป็นเเผ่นดินเล็กๆ คือ “เเผ่นดิน
  ท่อฮอยไก้ ต้นไม้ ท่อล�ำเทียน” (เเผ่นดินเท่ากับรอยกระจง เเละต้นไม้เท่าล�ำเทียน) ลมพัดจนแผ่น
  ดนิ เลก็ ๆ นเี้ เยกเปน็ สองสว่ น ลอยไปในมหาสมทุ ร ลว่ งเวลาตอ่ มาอกี นานเเผน่ ดนิ ทงั้ สองกเ็ รมิ่ ขยาย
  ตัวใหญ่ข้ึนๆ บังเกิดมนุษย์ผู้ชายอยู่บนเเผ่นดินหนึ่งชื่อว่า  “ปู่สังไกยสา” เเละเกิดมนุษย์ผู้หญิงอีก
  แผ่นดินหนึ่งช่ือว่า “ย่าสังไกยสี” มนุษย์คู่เเรกท้ังสองน้ีเกิดจากการการรวมตัวของขันธ์ห้าเป็นร่าง
  มนุษย์ เดินไปมาได้ พูดจาได้ มีความเฉลียวฉลาด รู้จักท�ำงานสร้างแปง (สร้าง) สรรพสิ่งต่างๆ ปั้น
  รูปสัตว์ก็เป็นส่ิงมีชีวิตจริงๆ มนุษย์คู่เเรกท้ังสองนี้ได้สร้างสรรพสิ่งขึ้นในโลกทั้งสัตว์และพืชพันธุ์
  ธัญญาหารอื่นๆ

         อยู่ต่อมาเกิดลมพายุพัดพาแผ่นดินท้ังสองลอยไปตามน�้ำมาพบกันปู่สังไกยสาย่าสังไกยสี
  กไ็ ดพ้ ดู คยุ กนั ถามทกุ ขส์ ขุ ซง่ึ กนั เเละกนั เเละอยดู่ ว้ ยกนั จงึ คดิ จะสร้างมนษุ ยช์ ายหญงิ เพมิ่ เตมิ เพราะ
  รู้ว่าการที่มีผู้คนมากๆ จะสนุกสนานกว่าอยู่คนเดียวเหมือนเเต่ก่อนท่ีแผ่นดินยังเเยกกัน มนุษย์ชาย
  หญงิ ทป่ี สู่ งั ไกยสายา่ สงั ไกยสสี รา้ งขนึ้ มามากมาย รวมกนั อยู่ ครนั้ อยรู่ วมกนั นานๆ ธรรมชาตกิ ด็ ลใจ
  ให้เกิดตัณหาเเก่มนุษย์ทั้งหลาย โดยไม่มีครูส่ังสอนให้เเก่เขาเลยเเม้เเต่น้อย คนที่มีตัณหาสมสู่กันมี
  ลูกหลานสืบต่อมา เพราะความที่มนุษย์มีตัณหาสมสู่กัน จึงท�ำให้มนุษย์ท่ีปู่สังไกยสาย่าสังไกยสี
  สร้างมาน้ันจึงมีรูปร่างเปลี่ยนเป็นเเก่ชรา เเละมนุษย์ชายหญิงก็ย่ิงมากทวีคูณสืบต่อมาถึงทุกวันน้ี

         ปู่สังไกยสาย่าสังไกยสีเป็นสามีภรรยาท่ีสร้างสรรพสิ่งในโลก เเละได้สั่งสอนให้มนุษย์โลก
  ให้ต้ังตนอยู่ในศีล สร้างกุศลบ�ำเพ็ญทาน เพ่ือจะได้ไปเกิดในสวรรค์ หากใครอยากจะไปเกิดอยู่ใน
  นรกอเวจี ก็ให้สร้างกรรมเวร จะได้จมอยู่ใต้นรกอเวจี

       4.5 	นิทานมุขตลก นทิ านมขุ ตลกภาคอีสานเป็นนทิ านทม่ี เี นื้อหาขนาดสน้ั จึงเรียกวา่ นทิ านก้อม
มจี ำ� นวนมากและหลากหลายสำ� นวน โดยเฉพาะนทิ านมขุ ตลกเรอ่ื งเกยี่ วกบั เพศ เรอื่ งเกย่ี วกบั หลวงพอ่ กบั
เณรนอ้ ย พอ่ เฒา่ (พอ่ ตา) กบั ลกู เขย หรอื เรอื่ งเซยี งเมยี่ ง เปน็ เรอื่ งเลา่ ทม่ี บี ทบาทสำ� คญั ในวถิ ชี วี ติ ของชาว
บ้านเป็นอย่างมาก เพราะชาวอีสานได้ใช้นิทานก้อมเป็นเครื่องมือในการสร้างความสนุกสนานบันเทิงใจ
หลงั จากทตี่ ้องเคร่งเครียดและเหนด็ เหน่ือยกบั การทำ� งาน ดงั จะยกตัวอยา่ งบางเร่ือง บางสำ� นวน

            4.5.1 	นทิ านพ้นื บา้ นอสี านเร่อื ง หลวงพ่อน้องควาย
              ในวัดแห่งหน่ึงมีพระกับเณรจ�ำพรรษาอยู่ด้วยกัน ในวันหนึ่งหลวงพ่อรู้สึกข้ีเกียจไป

  บิณฑบาตจึงบอกให้เณรน้อยออกไปบิณฑบาตเพียงล�ำพัง ฝ่ายเณรน้อยเห็นว่าหลวงพ่อขี้เกียจไป
  บิณฑบาตได้ ตนก็ขี้เกียจเดินไปบิณฑบาตรอบหมู่บ้านได้เช่นกัน ว่าเเล้วเณรจึงเดินลัดเลาะไปทาง
  น้ันบ้าง ไปทางนี้บ้าง เข้าซอยนั้นออกซอยน้ีตามเเต่จะคิดได้ โดยไม่เดินให้รอบหมู่บ้าน ในขณะท่ี
  เดินนั้นก็เดินอย่างรวดเร็วจนเเม่ออก (อุบาสิกา) ต้องนิมนต์ให้เณรรอก่อน เเม่ออกเห็นเณรมารูป
  เดียวก็เลยถามหาหลวงพ่อ ก็ได้ค�ำตอบว่าหลวงพ่อไม่สบาย เเม่ออกก็เลยเปรยขึ้นมาว่า “หากมาช้า
  กว่านี้ก็คงจะได้อ่อมน้องควาย (รกควาย) ไปด้วย เเต่ตอนน้ียังบ่ได้อ่อมเลย” เณรจึงบอกให้เเม่ออก
  เอามาถวายเลยเดย๋ี วจะใหเ้ เมอ่ อกคำ�้ (โยมอปุ ฏั ฐาก) ออ่ มให้ เเมอ่ อกจงึ ไปเอามาถวาย พอเณรเดนิ ทาง
   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59