Page 69 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 69
การเล่าเร่ืองในภาพยนตร์ 8-59
ถูกนิยามให้เป็นศัตรูจากแบบเรียนประวัติศาสตร์ของไทยและละคร ภาพยนตร์ไทยเดิมออกไป เปลี่ยน
เป็นการมีสายสัมพันธ์กับพม่าในรูปแบบที่ใกล้ชิดอย่างผัวเมีย อีกทั้งตัวละครเอก หนุ่มพม่าในเรื่องยังมี
ตวั ละครอน่ื ๆ ในเรอื่ งคอยพากนั ชว่ ยเหลอื รกั ใคร่ เพลงประกอบทใี่ ชใ้ นภาพยนตรก์ ม็ ใิ ชเ่ พลงปลกุ ใจรกั ชาติ
ท่ีมักใช้เวลาเล่าเร่ืองความสัมพันธ์ระหว่างพม่ากับไทย แต่เป็นเพลงรักของวัยรุ่นท่ีมองความสัมพันธ์ใน
ระดับปัจเจกบุคคล
ในที่น้ีจะขอสรุปความสัมพันธ์ระหว่างแนวคิดการเล่าเรื่องกับทฤษฎีสัญวิทยาเพ่ือให้เข้าใจได้ง่าย
ข้ึนว่าทฤษฎีสัญวิทยานั้นช่วยให้เราเข้าใจการท�ำงานของระบบสัญวิทยาที่อยู่ในการเล่าเรื่องในภาพยนตร์
การศึกษาทฤษฎีสัญวิทยานั้นสามารถแบ่งออกเป็น 2 ยุค ได้แก่ยุคโครงสร้างนิยมและยุคหลังโครงสร้าง
นิยม ในยุคโครงสร้างนิยม ซึ่งมีนักวิชาการคนส�ำคัญอย่างเฟอร์ดินานด์ เดอ โซซูร์นั้นมุ่งหาโครงสร้าง/
ไวยากรณใ์ นเรอื่ งเลา่ ตา่ งๆ โดยมแี นวคดิ ทสี่ ำ� คญั อยา่ งเรอ่ื ง “ภาษา” (langue) กบั “การพดู /การใชภ้ าษา”
(parole) เกยี่ วกบั สญั ญะ (the concept of the sign) องคป์ ระกอบของสญั ญะ (composition of sign)
และกระบวนการสร้างความหมาย (signification)
ขณะทกี่ ารศกึ ษาสญั วทิ ยาในยคุ หลงั โครงสรา้ งนยิ ม ซง่ึ มนี กั วชิ าการคนสำ� คญั อยา่ งโรลอ็ งด์ บารธ์ ส์
และฌาคส์ แดรร์ ดิ านน้ั ปฏเิ สธแนวคดิ ในยคุ โครงสรา้ งนยิ ม พวกเขาไมเ่ ชอื่ ในความหมายทตี่ ายตวั ทไี่ ดจ้ าก
การคน้ หาโครงสรา้ งในตวั บท ไมม่ คี วามหมายทสี่ มบรู ณต์ ายตวั ในตวั บท เปน็ เพยี งการชะลอ/หนว่ งเหนยี่ ว
ความหมาย (defer) และการเพิ่มเติมเปล่ียนแปลงความหมาย (differ) การคิดแบบหลังโครงสร้างนิยม
นน้ั จงึ เปน็ การคดิ ไมม่ คี วามสมบรู ณเ์ ดด็ ขาด เปน็ การคดิ ในลกั ษณะกำ� ลงั จะเกดิ ขน้ึ /กำ� ลงั จะเปน็ (becom-
ing) อกี ทง้ั ยงั เหน็ วา่ มนษุ ยไ์ มไ่ ดเ้ ปน็ ศนู ยก์ ลางในฐานะขององคป์ ระธาน มนษุ ยไ์ มไ่ ดม้ คี วามเปน็ อสิ ระหรอื
อ�ำนาจอธิปไตย แตเ่ ป็นเพียงผลลัพธ์ของระบบสงั คม
กิจกรรม 8.3.1
จงอธิบายแนวคิดเกี่ยวกับกระบวนการสร้างความหมาย (signification) ในทรรศนะของเดอ
โซซรู ์
แนวตอบกิจกรรม 8.3.1
เดอ โซซูร์ ไดอ้ ธบิ ายกระบวนการสรา้ งความหมาย (signification) ไว้วา่ ความหมายจะเกิดขนึ้
ไดน้ น้ั เริม่ จากการมีตวั อา้ งองิ (reference) ซ่งึ เป็นสิง่ ทมี่ ีอยู่ เกิดข้นึ ในโลกนี้ เช่น ชีวิตสุนขั ตวั หน่งึ ทม่ี า
รอเจ้าของที่สถานีรถไฟ เมื่อมนุษย์เห็นตัวอ้างอิงแล้วก็น�ำไปส่ือสารเพื่อถ่ายทอดซึ่งตัวสัญญะ (sign)
จะประกอบไปด้วย
(1) รูปสัญญะ (signifier) ซ่ึงจากตัวอย่างข้างต้น เช่น ผู้ก�ำกับภาพยนตร์สารคดีได้ถ่ายทอด
ตัวอ้างอิง (สุนัขท่ีเขาพบท่ีสถานีรถไฟ) ผ่านความสัมพันธ์ระหว่างสุนัขกับนายของมัน ซ่ึงส่ือให้เห็นถึง
ความรกั ระหวา่ งมนุษย์และสุนขั