Page 74 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 74
8-64 ทฤษฎีและการวจิ ารณ์ภาพยนตร์
- การประกอบสร้างตัวละครให้ขาดคุณสมบัติอันเป็นค่านิยมที่สังคมน้ันให้ความส�ำคัญ
เป็นกลวิธีในการสร้างความเป็นอื่นผ่านตัวละครอีกแบบหน่ึง โดยสร้างตัวละครให้ขาดคุณสมบัติอันเป็น
ค่านยิ มท่ีสงั คมนน้ั ใหค้ วามสำ� คญั เชิดชู ในสงั คมไทยกเ็ ช่น ความกตัญญู ความมนี ํ้าใจ การประกอบอาชพี
ทส่ี จุ รติ ความขยนั ขนั แขง็ ดงั นน้ั ตวั ละครทอี่ ยฝู่ ง่ั ตรงขา้ มกบั ตวั ละครเอก จงึ มกั มคี ณุ ลกั ษณะแบบอกตญั ญู
แลง้ นํ้าใจ ประกอบอาชีพไมส่ ุจริต เกียจคร้าน เปน็ ต้น
(3) การถอดความหมายเก่าที่กดข่ีออก และสร้างความหมายใหม่ (transcoding) กลวธิ กี ารถอด
ความหมายเก่าออกและใส่ความหมายใหม่ (transcoding) น้ีเป็นกลวิธีท่ีใช้กันในโลกจริงช่วงทศวรรษท่ี
1960 เพอ่ื ต่อต้านการเหยียดกันทางเชอ้ื ชาตแิ ละประเดน็ อนื่ ๆ (Hall, 1997, pp. 270-274) ประกอบดว้ ย
หลายวธิ ี
วธิ กี ารหนงึ่ ทใ่ี ชก้ นั คอื การเพม่ิ ภาพทางบวกเขา้ ไปแทนทภ่ี าพทางลบตา่ งๆ ทถี่ กู ประกอบสรา้ งขน้ึ
ทงั้ นเ้ี พอ่ื ใหเ้ กดิ ความสมดลุ ระหวา่ งภาพทางบวกและภาพทางลบ โดยมคี วามมงุ่ หมายทจ่ี ะใหภ้ าพตวั แทน
นน้ั มคี วามหลากหลาย ไมเ่ หลอื แตเ่ พยี งปลายสดุ โตง่ ของการประกอบสรา้ งความหมายทใี่ ชห้ ลกั การทำ� งาน
ของคู่ตรงข้าม (binary opposition) ซง่ึ สุดท้ายแลว้ จะนำ� ไปสกู่ ารประกอบสร้างความหมายว่าใครดีกว่า
ใคร และสร้างภาพเหมารวม (stereotype) ใหฝ้ า่ ยตรงขา้ มในทางลบหรือถูกกดี กนั ใหอ้ ยูช่ ายขอบ
ในภาพยนตร์การถอดความหมายเก่าออกและใส่ความหมายใหม่นี้สามารถกระท�ำผ่านการ
ประกอบสร้างบุคลิกตัวละคร และโครงเร่ือง เชน่ การประกอบสรา้ งเรอ่ื งเลา่ ของเพศทสี่ าม กม็ ใิ ชเ่ พยี งจะ
น�ำเสนอในแง่ของความตลก โปกฮา กล้า ชอบแสดงออก รักสวยรักงาม มุ่งแต่แสวงหาความพอใจส่วน
บคุ คลเทา่ นนั้ แตภ่ าพยนตรท์ ีส่ นบั สนุนการตอ่ สู้ของเพศที่สาม จะประกอบสร้างบุคลิกตวั ละครใหม้ ีความ
กตัญญู มีน้ําใจ เรียบรอ้ ย สามารถเปน็ ตวั แทนชุมชน เมือง หรอื ประเทศในการต่อสู้ ท�ำประโยชน์ให้แก่
สังคมได้ เช่น บิวต้ีฟูลบ๊อกเซอร์ (2546) สตรีเหล็ก (2543) หรือในภาพยนตร์เร่ือง สุดเสน่หา (2546)
ภาพยนตรว์ า่ ดว้ ยเรอื่ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งไทยกบั พมา่ ผา่ นความรกั ของสาวโรงงานชาวไทยกบั หนมุ่ พมา่
อดีตยามเฝ้าโรงงานที่ก�ำลังหางานท�ำ หนุ่มพม่าในภาพยนตร์เรื่องน้ีถูกประกอบสร้างให้แตกต่างไปจาก
วาทกรรมต่างๆ ที่ประกอบสร้างความเป็นพม่าไว้ในสังคมไทยและภาพยนตร์ไทยก่อนหน้าที่ดูดุร้าย
โหดเหยี้ ม แขง็ กรา้ ว ฯลฯ โดยภาพยนตร์ เร่อื งสุดเสนห่ า ประกอบสร้างให้ตวั ละครหนุ่มพม่าแม้จะมีรา่ ง
สงู ก�ำย�ำ แต่กลับดูไมเ่ ปน็ พิษเปน็ ภัย ออ่ นโยน ออ่ นแอ และเปน็ ที่รกั ใครเ่ สนห่ าของชาวไทย
ตวั อยา่ งงานทศี่ กึ ษาภาพตวั แทนในการเลา่ เรอ่ื งในภาพยนตร์ ไดแ้ ก่ งานวจิ ยั ของจริ ฐั เผา่ จริ ะศลิ ปช์ ยั
ซงึ่ ทำ� การศกึ ษาเรอ่ื งการนำ� เสนอภาพการกอ่ การรา้ ยและตวั ละครผกู้ อ่ การรา้ ยมสุ ลมิ ในภาพยนตรอ์ เมรกิ นั
ชว่ งปี 1994-1998 พบวา่ ภาพยนตรไ์ ดม้ ีการน�ำเสนอลักษณะต่างๆ ของผูก้ ่อการรา้ ยมุสลมิ วา่ เปน็ นกั รบ
ที่คล่ังศาสนา เป็นอาชญากรที่บ้าคล่ัง และเป็นเหย่ือของความขัดแย้งท่ีเก็บกดและมีอารมณ์รุนแรง
(จิรฐั เผา่ จริ ะศลิ ป์ชัย, 2548, น. 231) และงานของศิริมิตร ประพนั ธธ์ ุรกจิ (2551) ซ่งึ ศกึ ษาการประกอบ
สร้างอัตลักษณ์ความเป็นลาวจากภาพยนตร์เรื่อง หมากเตะโลกตะลึง ซึ่งพบว่าในการประกอบสร้าง
อัตลักษณ์ความเป็นลาวในภาพยนตร์นั้น ลาวถูกประกอบสร้างให้เป็นร่างแบบอนารยะ (uncivilized
bodies) ของชนชน้ั แรงงานทก่ี ำ� ลงั พยายามแปลงตวั เองใหก้ ลายเปน็ รา่ งแบบสากลมากขน้ึ โดยถกู ประกอบ
สรา้ งใหท้ างดา้ นกายภาพเปน็ คนตวั เตยี้ ผวิ ดำ� กลา้ มใหญ่ ลกั ษณะบคุ ลกิ เกยี จครา้ น สกปรก ชอบอบายมขุ