Page 21 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 21

การศึกษาภาพยนตร์แนวผ้ชู ม 15-11
แนวตอบกิจกรรม 15.1.1	

       ผู้ชมสามารถจัดแบ่งได้ 6 ประเภท ได้แก่ ผู้ดูผู้ชม สาธารณะ มวลชน การตลาด ผู้รับสารที่
กระจดั กระจายไม่หยดุ น่งิ และอ�ำนาจของผรู้ บั สาร

เรื่องที่ 15.1.2
แนวทางการศึกษาผู้ชมภาพยนตร์ตามศาสตร์ที่เก่ียวข้อง

       การศกึ ษาด้านสอ่ื สารมวลชนรวมถงึ ภาพยนตร์น้ัน อาจกล่าวไดว้ ่า ฐานกำ� เนิดมาจากศาสตรส์ าม
ด้านคือ ดา้ นแรก วทิ ยาศาสตร์ เช่น เทคนคิ การถ่ายท�ำภาพยนตร์ การจดั แสง กลไกของภาพยนตร์ ด้าน
ท่ีสองมนุษยศาสตร์ ซึ่งจะเก่ียวข้องกับเรื่องของมนุษย์ทั้งด้านวรรณกรรม ศิลปะ การเล่าเร่ือง จิตวิทยา
ปรัชญา ประวัติศาสตร์ และด้านท่ีสามสังคมศาสตร์ คือ เรื่องท่ีเกี่ยวข้องกับมนุษย์และสังคม ทั้งด้าน
เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม

       ส�ำหรับการอธิบายเฉพาะในเรื่องผู้ชมหรือผู้รับสาร สเตย์เจอร์ (Staiger, 2005) ได้ช้ีให้เห็นว่า
การศึกษาผู้รับสารจะมาจากศาสตร์สองด้านคือ ศาสตร์ด้านมนุษย์และสังคม ได้แก่ สายจิตวิทยา และ
สงั คมศาสตร์ รายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปน้ี

1. สายจิตวิทยา

       สายจิตวิทยา (psychology) มักจะให้ความสนใจต่อบุคคล โดยมองลึกลงไปถึงพฤติกรรม
เบื้องหลังการกระท�ำของผู้ชมมาจากปัจจัยด้านจิตวิทยา อย่างไรก็ดีภายใต้สายจิตวิทยาก็ยังคงมีพัฒนา
การการศกึ ษาผ้คู นทแี่ ตกตา่ งออกไปอย่างนอ้ ย 3 ส�ำนักคิดย่อย คือ สำ� นักพฤติกรรมศาสตร์ (Behavior-
ism) ส�ำนักจติ วเิ คราะห์ (Psychoanalysis) และสำ� นักพทุ ธปิ ัญญา (Cognitive psychology)

       ส�ำนักพฤติกรรมศาสตร์ เช่ือว่า ปฏิกิริยาของผู้รับสารมาจากผลที่มาจากส่ิงเร้าและต้องสังเกต
วัดได้ ต่างไปจากส�ำนักอื่นท่ีลงลึกไปท่ีจิตท่ีอาจวัดได้ยาก วิธีการศึกษาของส�ำนักน้ีจึงมักจะใช้การวิจัย
เชิงทดลอง สังเกตพฤติกรรมของบุคคลหลังได้รับจากส่ิงเร้า (stimulus) แล้วเกิดพฤติกรรมตอบสนอง
(response) ต่อส่ิงเร้า ดังแนวคิดของ อีวาน พัฟลอฟ (Ivan Pavlov) เจ. บี. วัตสัน (J.B. Watson)
บี. เอฟ. สกนิ เนอร์ (B.F. Skinner)

       แรกเรม่ิ นกั วชิ าการสำ� นกั นที้ ดลองจากหนแู ละสตั วท์ ดลอง เมอื่ เกดิ การกระตนุ้ หรอื สง่ิ เรา้ กจ็ ะทำ� ให้
สตั วต์ อบสนองกอ่ เกดิ พฤตกิ รรม เชน่ ครงั้ แรกเมอ่ื ใหอ้ าหารสนุ ขั สน่ั กระดงิ่ หลงั จากนนั้ หากสนั่ กระดง่ิ สนุ ขั
ก็นาํ้ ลายไหล แม้อาจไม่ได้ใหอ้ าหาร น่ันกเ็ พราะสัตวเ์ กดิ จากการเรยี นร้เู งื่อนไขของเสียงกระดง่ิ
   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26