Page 44 - ทฤษฎีและการวิจารณ์ภาพยนตร์
P. 44
15-34 ทฤษฎแี ละการวิจารณ์ภาพยนตร์
การเตบิ โตของสอื่ โทรทศั น์ นกั วชิ าการจงึ หนั เหไปใหค้ วามสนใจผชู้ มโทรทศั นแ์ ทน ดงั ทเี่ หน็ จากการพฒั นา
แนวคดิ ผชู้ มที่มาจากฟากของโทรทัศน์ เชน่ การเรียนรูแ้ ละเลียนแบบ การปลูกฝงั ความเป็นจริง และการ
ใช้ประโยชน์และพึงพอใจจากส่ือ นอกจากน้ัน ในซีกของศาสตร์ด้านภาพยนตร์เอง การศึกษาภาพยนตร์
หรอื ภาพยนตรศ์ กึ ษา (Film Studies) ท่ีเร่มิ กอ่ ตวั ขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1960 ก็ใหค้ วามสนใจศึกษาถึงตวั
บทในภาพยนตรร์ วมไปจนถึงศลิ ปินผู้สรา้ งสรรคผ์ ลงานภาพยนตรบ์ นแนวทางของศิลปะ เหตุนเี้ อง ความ
สนใจผู้รับชมภาพยนตร์จึงลดลงไป และกลับมาใหม่อีกครั้งในทศวรรษท่ี 1970 ด้วยส�ำนักสกรีน ดังท่ีจะ
กลา่ วในหัวขอ้ ถัดไป
4. การศึกษาผู้ชมในฐานะผู้ถูกกระท�ำตามส�ำนักมารก์ซิสม์และจิตวิเคราะห์
ทศวรรษท่ี 1970 ส�ำนกั สกรีน (Screen theory) ไดห้ นั มาใหค้ วามสนใจศกึ ษาผู้ชมภาพยนตร์ใน
ฐานะผู้ถูกกระท�ำ ด้านหน่ึงได้รับอิทธิพลจากส�ำนักมาร์กซิสม์ อันถือได้ว่า เป็นการศึกษาที่ขยายจาก
ตวั บทสบู่ รบิ ทสงั คม ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทสงั คมในชว่ งทศวรรษดงั กลา่ วในปี 1968 ซงึ่ เกดิ การเปลยี่ นแปลง
ทางการเมืองโดยเฉพาะในฝรั่งเศส ศาสตร์ด้านภาพยนตร์จึงไม่อาจโดดเดี่ยวและมองแต่ด้านศิลปะอีกต่อ
ไป จงึ ต้องเชื่อมโยงกบั สังคม และอกี ดา้ นหนึง่ คอื ส�ำนกั จิตวิเคราะหข์ องฟรอยด์
สำ� นกั สกรนี เป็นส�ำนกั คิดท่ถี อื กำ� เนดิ จากวารสารสกรีนทท่ี �ำหน้าทีว่ ิจารณ์และให้ความรู้เก่ยี วกับ
ภาพยนตรท์ อี่ งั กฤษ โดยประยกุ ตแ์ นวคดิ ทฤษฎขี องสำ� นกั มารก์ ซสิ มร์ นุ่ หลงั ทใ่ี หค้ วามสนใจตอ่ การครอบงำ�
ความคิดของมนุษย์ โดยเฉพาะนักคิดกลุ่มฝร่ังเศส ในนามหลุยส์ อัลธูแซร์ (Louis Althusser) ในช่วง
ทศวรรษที่ 1960 และแปลเปน็ ภาษาอังกฤษในทศวรรษท่ี 1970 ทเ่ี ชื่อว่า สงั คมไดพ้ ยายามสรา้ งกลไกใน
การครอบงำ� ความคดิ ของมนษุ ยแ์ ละเรยี กสงิ่ นน้ั วา่ “อดุ มการณ”์ (ideology) เชน่ ความรกั ชาติ สผี วิ ชนชนั้
เพศสภาพ ความรวย ความจน และแม้กระท่ังความอ้วน ความผอม และตัวตนของเราเองหรือท่ีรู้จักใน
นามอัตลักษณ์ (identity) ทงั้ นี้ อดุ มการณม์ หี นา้ ทีก่ �ำหนดความคดิ ของเราแลว้ ยงั ทำ� ให้เราตีความหมาย
เก่ยี วกับชีวิตของเราดว้ ยอดุ มการณ์ดังกล่าว
การทำ� งานของผลิตซ้�ำอุดมการณ์ทำ� ไดผ้ ่านสถาบนั ตา่ งๆ ในสังคม เชน่ โรงเรยี น วดั กฎหมาย
ครอบครวั และทห่ี ลกี เลย่ี งไมไ่ ดค้ อื สอื่ มวลชน เชน่ ภาพยนตรก์ เ็ ปน็ พนื้ ทก่ี ารผลติ ซำ้� อดุ มการณท์ คี่ รอบงำ�
มนษุ ยโ์ ดยไมร่ ตู้ วั โดยผา่ นโครงสรา้ งภาษาหรอื สญั ญะตา่ งๆ ในสอื่ มวลชนและภาพยนตร์ เชน่ การใชภ้ าพ
ขนาดภาพ มมุ กลอ้ ง การเคลือ่ นไหวของกลอ้ ง ตวั ละคร เพลง ฉาก การจดั เรยี งลำ� ดับ การตัดต่อ ฯลฯ
ท้ังหมดน้ันจะแฝงอุดมการณ์บางอย่างโดยผู้ผลิตเองก็มักจะไม่รู้ตัว แนวคิดดังกล่าววางอยู่บนส�ำนัก
สญั วทิ ยา (Semiology) ของเดอ โซซรู ์ (de Saussure) ทมี่ องวา่ ภาพยนตรก์ ค็ อื โครงสรา้ งภาษา มกี ฎกตกิ า
บางอย่างที่มีการจัดวางไว้แล้ว หาใช่การที่ศิลปินเป็นผู้สร้างสรรค์ไม่ ดังน้ัน เมื่อเราใช้โครงสร้างภาษา
ภาพยนตรม์ าเลา่ เรอ่ื งกเ็ ทา่ กบั เปน็ การผลติ ซำ�้ อดุ มการณบ์ างอยา่ งไมร่ ตู้ วั เชน่ ฉากนางเอกสงั่ นา้ํ สม้ กเ็ ปน็
สญั ญะทแี่ ฝงอดุ มการณข์ องผหู้ ญงิ ออ่ นแอ การใชเ้ ลนสซ์ อฟต์ (soft lens) ถา่ ยภาพนางเอกกม็ นี ยั ของการ
มองผู้หญงิ เปน็ วัตถุทส่ี วยงามใหผ้ ู้ชายได้จ้องมอง แมก้ ระทั่งฉากการตายของดาราหญงิ กม็ ักจะให้เธอสวม
เสื้อผา้ ท่โี ชว์เรือนรา่ งเพอ่ื ตอกยำ้� การเปน็ วตั ถทุ างเพศ