Page 19 - ภาษาและทักษะเพื่อการสื่อสาร
P. 19

ภาษาเพ่ือการสือ่ สารในชวี ิตประจ�ำวัน 4-9
       1. 	ความหลากหลายของระดับภาษา
       2. 	ความหลากหลายของการใชภ้ าษา
       3. 	ความหลากหลายแบบผสม
       1. 	ความหลากหลายของระดับภาษา เปน็ ความหลากหลายในการใชภ้ าษาลกั ษณะหนงึ่ แตกตา่ ง
จากภาษาถนิ่ ทมี่ คี วามหลากหลายเกดิ จากสภาพภมู ศิ าสตรเ์ ปน็ ตวั กำ� หนด แตร่ ะดบั ภาษาเปน็ ความแตกตา่ ง
ทสี่ งั คมกำ� หนดขน้ึ ตามปทสั ถานของสงั คม หรอื กลา่ วอยา่ งงา่ ยคอื ภาษาถนิ่ บอกไดว้ า่ บคุ คลนน้ั เปน็ คนถนิ่ ใด
สว่ นระดบั ภาษาจะบอกใหท้ ราบวา่ บุคคลผนู้ น้ั อยใู่ นระดับสงั คมใด
       ความแตกตา่ งในระดับภาษามอี งค์ประกอบส�ำคญั 3 ประการคอื

            1)	 ขอบเขตเนื้อหา ตอ้ งมจี ดุ ประสงคแ์ ละเรอ่ื งราวทีต่ อ้ งการจะสื่อสาร
            2)	 วธิ กี าร ตอ้ งมวี ธิ กี ารทจ่ี ะสอื่ สาร เชน่ การเขยี น การกลา่ วสนุ ทรพจน์ การปาฐกถา เปน็ ตน้
            3)	 ใครคอื ผทู้ ี่เราจะสื่อสารด้วย
       จากองค์ประกอบทั้ง 3 ประการดังกล่าวท�ำให้ผู้ท่ีจะสื่อสารกันรับทราบขอบเขตว่าจะสื่อสารกัน
อย่างไร ในลักษณะใด เช่น การเรียกขานกัน ผู้พูดต้องค�ำนึงว่า ผู้ที่เราจะเรียกชื่อนั้นอยู่ในฐานะต่ํากว่า
เทา่ กนั หรอื สงู กวา่ ผพู้ ดู เพอื่ จำ� แนกวา่ ควรใชค้ ำ� พดู แบบใดทเ่ี หมาะสมกบั คนในระดบั ตา่ งๆ เชน่ “ขอบใจ”
นยิ มใช้ส�ำหรับผ้ทู ี่ต่าํ กวา่ หรือเท่ากัน ส่วนผู้ทส่ี ูงกว่าจะใชค้ ำ� ว่า “ขอบคณุ ” หรือ “ขอบพระคณุ ” เป็นตน้
นอกจากนยี้ งั ตอ้ งค�ำนงึ ถงึ ความสมั พนั ธท์ ใี่ กลช้ ดิ หรอื หา่ งกนั เพยี งใด ควรเปน็ การสอื่ สารอยา่ งเปน็ ทางการ
หรอื ไมเ่ ปน็ ทางการ บางครง้ั ผใู้ ชภ้ าษายงั ตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ความรสู้ กึ ของผรู้ บั สารดว้ ยโดยการงดเวน้ ใชค้ ำ� บางคำ�
เช่น ค�ำทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั เรอ่ื งทางเพศ คำ� ผวน คำ� สแลง ค�ำสบถ ฯลฯ ซึ่งถอื ว่าเปน็ คำ� หยาบคาย ไมเ่ หมาะ
ทีจ่ ะน�ำมาใช้ในสงั คม ถ้าจะใช้ต้องเลย่ี งไปใชค้ �ำอื่นท่มี คี วามหมายเหมือนกัน
       2.	 ความหลากหลายของการใช้ภาษา ในสงั คมหนงึ่ ๆ ความหลากหลายในภาษาอาจแบง่ ออกเปน็
2 ลักษณะคอื ภาษาทใี่ ช้อย่างเป็นทางการ และใช้กบั สาธารณชนถอื วา่ เป็นภาษาสูง ซึง่ ต้องเครง่ ครดั เร่อื ง
หลกั ภาษา เช่น ภาษาราชการเปน็ ภาษาที่ตอ้ งใช้อยา่ งเปน็ ทางการ ภาษาวรรณคดี ภาษาราชาศัพท์ และ
ภาษาสภุ าพ เปน็ ตน้ สว่ นภาษาทใ่ี ชใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั เรยี กวา่ ภาษาตลาด เปน็ ภาษาทใ่ี ชใ้ นการสอื่ สารทว่ั ๆ ไป
เช่น การสื่อสารในครอบครอบครัว การส่ือสารกับเพื่อน ฯลฯ มีลักษณะเป็นกันเอง มักไม่ระมัดระวังใน
การใชภ้ าษา บางครง้ั อาจมคี ำ� หยาบตาํ่ คำ� สแลง ปะปนอยดู่ ว้ ย ผใู้ ชภ้ าษาตอ้ งแยกใหอ้ อกวา่ เมอ่ื ใดควรใช้
ภาษาสงู เมื่อใดควรใช้ภาษาตลาด และใชก้ บั ใคร ในสถานการณใ์ ด
       3.	 ความหลากหลายแบบผสม ในการใช้ภาษาเพื่อการส่ือสารประจ�ำวันนั้น บ่อยครั้งเราไม่ได้
ใช้เพียงภาษามาตรฐาน ภาษาราชการ หรือภาษาแบบไม่เป็นทางการอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว
แต่เรามีวิธผี สมกนั หลายรปู แบบดงั น้ี
            3.1	 การปรบั เปลย่ี นภาษาใหเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ บคุ คล โอกาสและสถานท่ี การใชภ้ าษา
ในลกั ษณะนี้ ผใู้ ชจ้ ะใชภ้ าษาไมว่ า่ จะใชภ้ าษาพดู หรอื ภาษาเขยี นในลกั ษณะตา่ งกนั แตม่ คี วามหมายเหมอื นกนั
เช่น หน่วยราชการในชนบท เจ้าหน้าท่ีที่ให้บริการแก่ประชาชนต้องใช้ทั้งภาษามาตรฐาน และภาษาถิ่น
เชน่ การรายงานผบู้ งั คบั บญั ชาตอ้ งใชภ้ าษาราชการหรอื ภาษามาตรฐาน แตถ่ า้ เปน็ การอธบิ ายใหช้ าวบา้ น
ท่ีมาตดิ ต่อราชการเข้าใจกต็ อ้ งพดู เป็นภาษาถน่ิ เปน็ ตน้
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24