Page 34 - ทักษะชีวิต
P. 34

6-24 ทกั ษะชีวติ
บบี คน้ั ในชวี ติ เชน่ ปญั หาครอบครวั การสญู เสยี ของรกั หรอื คนทร่ี กั การหยา่ รา้ งตอ้ งอยคู่ นเดยี ว การคลอดบตุ ร
การถกู ทอดท้ิง ถูกทารณุ กรรม การว่างงาน ปญั หาการเงิน ปัญหาการเรียน การกลั่นแกล้งรงั แก รวมท้ัง
การทบี่ คุ คลมกี ารมองสง่ิ ตา่ งๆ ในดา้ นลบ รสู้ กึ ตนเองไมม่ คี ณุ คา่ มองอดตี เหน็ แตค่ วามบกพรอ่ งของตนเอง
หรือมองโลกในแง่ร้ายและขาดทักษะการจัดการอารมณ์

       1.1	 อาการและเกณฑ์ในการวินิจฉัยโรคซึมเศร้า คนที่อยู่ในภาวะซึมเศร้าจะปรากฏอาการท่ี
แสดงออกมาอย่างหลากหลาย ในการวินิจฉัยโรคซึมเศร้าจะใช้เกณฑ์การวินิจฉัยโรคทางจิตฉบับพิมพ์
ครง้ั ท่ี 5 (Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorder - DSM5) โดยพจิ ารณาจากอาการ
ต่อไปนี้อย่างน้อย 5 ข้อ โดยต้องมีข้อ 1 หรือข้อ 2 เป็นหลักจ�ำนวนหนึ่งข้อ และเป็นมาไม่น้อยกว่า
2 สัปดาห์ โดยท่ไี ม่ไดเ้ กดิ จากสาเหตุทางกายหรอื การใช้สารเสพติด ประกอบด้วย

            1)	 ซึมเศร้าโดยมีอาการเป็นเกือบทั้งวัน ซึ่งอารมณ์เศร้าจะมีอยู่เกือบตลอดท้ังวันและเป็น
ทุกวนั บางวันอาจเปน็ มาก บางวนั อาจเป็นนอ้ ย

            2)	 ความสนใจหรือความเพลดิ เพลนิ ใจในส่งิ ต่างๆ ที่เคยทำ� แทบทงั้ หมดลดลงอย่างมาก
            3)	 เบือ่ อาหาร น้ําหนกั ลดลง หรือกนิ จุ นํา้ หนกั เพิ่มข้นึ เช่น 2-3 กิโลกรมั ต่อเดอื น
            4)	 นอนไม่หลบั หรือนอนมากกว่าปกติ เช่น นอนไม่หลบั กระสับกระสา่ ย หลบั ดกึ แตจ่ ะตน่ื
เชา้ 1-2 ชว่ั โมงกอ่ นเวลาปกติท่เี คยตื่นและไม่สดช่ืน
            5)	 ท�ำอะไรชา้ พดู ชา้ เดินเหนิ เคล่ือนไหวช้าลง แตบ่ างรายก็มอี าการหงุดหงดิ กระสบั -
กระสา่ ย ท�ำอะไรเหมอื นรบี เร่ง
            6)	 ออ่ นเพลีย ไม่มแี รง อาจจะเกดิ ท้ังวันและแทบทุกวัน
            7)	 รสู้ กึ ตนเองไรค้ า่ หรอื รสู้ กึ ผดิ อยา่ งไมส่ มเหตสุ มผล มองตน มองโลก มองอนาคตในดา้ นลบ
            8) สมาธิลดลง ลงั เลใจ
            9) คิดเรื่องการตาย หรือการฆ่าตัวตาย บางรายพยายามฆ่าตัวตายหรือมีแผนฆ่าตัวตาย
ในบางรายที่อาการรุนแรงมากจะมีอาการประสาทหลอน หูแว่ว ได้ยินเสียงคนพูดต�ำหนิติเตียน หรือ
หลงผดิ วา่ ทกุ คนรอบข้างมองตนเองไม่ดี กล่นั แกลง้ ท�ำให้ตนล้มเหลว
       1.2	 การรักษาโรคซึมเศร้า แมว้ า่ โรคซมึ เศรา้ จะเปน็ โรคทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ ความรสู้ กึ นกึ คดิ และการ
ด�ำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก แต่ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้หากบุคคลได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
กส็ ามารถกลบั มาใชช้ วี ติ ไดเ้ ปน็ ปกตติ ามเดมิ โดยวธิ กี ารในการรกั ษาโรคซมึ เศรา้ มดี งั น้ี (มาโนช หลอ่ ตระกลู
และคณะ, 2555)	
            1)	 การรักษาด้วยยาตา้ นซึมเศรา้ ยาจะชว่ ยปรบั สารเคมีในสมองให้สมดุลข้ึน โดยทวั่ ไปจะ
เหน็ ผลหลงั จากไดร้ บั ยาไปแลว้ 1-2 สปั ดาห์ และเมอื่ มอี าการทด่ี ขี น้ึ กย็ งั ตอ้ งไดร้ บั ยาตอ่ เนอื่ งอกี 4–6 เดอื น
แล้วค่อยๆ ลดยาลง จึงจ�ำเป็นต้องรับประทานยาอย่างต่อเน่ืองและปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำของแพทย์
อยา่ งเคร่งครดั
            2)	 การทำ� จิตบ�ำบัด ซ่งึ มีหลากหลายรูปแบบขน้ึ กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล
            3)	 การใหก้ ารปรกึ ษาเพอ่ื ใหบ้ คุ คลไดเ้ รยี นรเู้ ขา้ ใจตนเอง เขา้ ใจปญั หาและหาแนวทางแกไ้ ข
อย่างเหมาะสม
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39